ป้ากับหลาน 2 คนไปหาปลาตามทุ่งนา เจอคนลอยอยู่ในน้ำรีบให้หลานลงไปดึงขึ้นมาทำ CPR หวังช่วยชีวิต แต่ผิดคาดน้ำเหลืองในปากศพพุ่งออกมาส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง "ป้า"เผยจริงแล้วไม่เคยทำ CPR มาก่อนแต่เห็นในทีวี จึงอยากช่วย แต่ไม่คิดว่า "เสียชีวิตแล้วหลายวัน"

วันที่ 2 มี.ค.68 เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ท.อนุสรณ์ ยนต์สถิตย์กุล สารวัตร(สอบสวน) สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมีคนจมน้ำเสียชีวิต บริเวณคลองริมทางบนถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ระหว่างบ้านฉันเพล ห่างจากตัว อ.ประโคนชัย ไปประมาณ 2 กิโลเมตร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุด อ.ประโคนชัย และกู้ภัยบ้านสองเมือง 

ที่เกิดเหตุเป็นร่องน้ำริมถนนลึกประมาณ 2 เมตร ริมขอบร่องน้ำพบร่างชายทราบชื่อต่อมานายมี อายุ 63 ปี อยู่หมู่ 3 ต.หนองบอน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ที่ชาวบ้านนำขึ้นมาบนฝั่งก่อนหน้านี้ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยบาดแผลของการถูกทำร้าย บริเวณโดยรอบพบรถจักรและอุปกรณ์การหาปลา คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน เพราะศพเริ่มมีกลิ่น

สอบถามนางจิม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ คนเจอศพคนแรก เล่าว่า ตนกับหลานอายุ 21 ปีออกมาหาปลาตามทุ่งนา เมื่อเดินผ่านเห็นเส้นผมลอยอยู่เหนือน้ำ จึงเข้าไปดูและคาดว่าน่าจะเป็นคน จึงให้หลานลงไปดึงร่างขึ้นมาจากน้ำนำร่างของคนที่จมน้ำหงายขึ้น แล้วทำการ CPR เมื่อกดลงได้ประมาณ 4-5 ครั้งเกิดมีน้ำพุ่งออกมาจากปากของคนจมน้ำ แต่กลิ่นเหม็นมาก ไม่กี่นาทีมีแมลงวันบินมาเป็นจำนวนมาก จึงคิดว่าเขาน่าจะเสียชีวิตแล้ว

เมื่อถามนางจิม ว่า มีความรู้ด้าน CPR มากน้อยแค่ไหน นางจิม ตอบว่าไม่เคยมาก่อนแต่เห็นทางโทรทัศน์จึงคิดอยากจะช่วยแต่ไม่คิดว่าจะเป็นครั้งแรกที่ซวยขนาดนี้

ขณะที่นายวีระศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี อยู่หมู่ 11 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เพื่อนผู้เสียชีวิตเล่าว่าปกติจะหาปลาด้วยกัน เมื่อวันก่อนเพื่อนออกมาใส่ตาข่ายดักปลาคนเดียว สาเหตุคาดว่าตาข่ายน่าจะติดขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้