รพ.ทหารผ่านศึก
แจ้งปปป.เอาผิด
เชือด 20 ขรก.เอี่ยว
แก๊งทุจริตจ่ายยา
ผอ.รพ.ทหารผ่านศึก แจ้งความ บก.ปปป.เอาผิด “ขบวนการทุจริตจ่ายยา” รพ.ทหารผ่านศึก พบข้าราชการมีเอี่ยวกว่า 20 รายชี้เส้นทางการเงินถึงใคร ต้องยอมรับผลการกระทำ คาดทำมานานเฉียด 10 ปี เสียหายจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พร้อมด้วย พญ.จิตติมา ปรีชา ผอ.โรงพยาบาลทหารผ่านศึก และนายธนเดช เพ็งสุข สส.พรรคประชาชน นำเอกสารหลักฐาน เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.และนายภูมิวิศาล เกษมศุข สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.เพื่อแจ้งความเอาผิดผู้ที่กระทำความผิดในขบวนการทุจริตยาของโรงพยาบาลดังกล่าว
พล.อ.เดชนิธิศ กล่าวว่า ตามที่ทราบว่ามีการทุจริตยาในโรงพยาบาลทหารผ่านศึก เกิดขึ้น เราไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากได้ข้อมูลก็มีการดำเนินการ 2 ส่วน ในการตรวจสอบเรื่องนี้ ส่วนแรกคือ ปปท.ตรวจสอบพยานหลักฐาน ส่วนที่ 2 คือตั้งคณะกรรมการสอบสวนเบื้องต้นภายในองค์การทหารผ่านศึก โดยพยานหลักฐานไปในทิศทางเดียวกัน ว่ามีการกระทำความผิดจริง ขอเวลาให้เราได้ตรวจสอบเชิงลึกอีกระยะหนึ่ง ก่อนจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบโดยละเอียดอีกครั้ง
“ระยะเวลาในการทุจริตนั้น มีเวลายาวนานเกือบ 10 ปี โดยขบวนการดังกล่าว มีผู้ร่วมขบวนการตั้งแต่ผู้ป่วยจนถึงข้าราชการทหารระดับสูง โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดประมาณหลักร้อย ส่วนความเสียหายมีจำนวนมาก แต่ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อนจะให้ข้อมูลอีกครั้ง ยืนยันว่าจะทำทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา” พล.อ.เดชนิธิศ กล่าวและว่า ก่อนหน้านี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ไปแล้ว พบว่ามีมูลความผิด จึงให้บุคคลบางส่วนย้ายตำแหน่งหน้าที่ออกไปจากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากข้อมูลพบว่ามีบางส่วนที่เชื่อมโยงกับการทุจริตในขณะนี้ด้วย
ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กล่าวอีกว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2566 พบว่าช่วง 2-3 เดือน ก็มีความผิดปกติ โดยมีรถตู้นำผู้ป่วยจาก จ.ลพบุรี เข้ามาที่โรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาและขอรับยาครั้งละประมาณ 10-20 คน และเป็นผู้ป่วยรายชื่อเดิมๆ หลายครั้ง เป็นแบบนี้มาตลอดแทบทุกเดือน ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่หนักใจกับการตรวจสอบเรื่องนี้
ด้านนายภูมิวิศาล กล่าวว่า ขณะนี้มีการตรวจสอบระดับหนึ่ง และหากใครที่รู้ตัวว่ากระทำความผิด หากพบว่าเส้นทางการเงินไปถึงใคร ให้เตรียมรับผลของการกระทำไว้ได้เลย
“อย่างที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ พูดมาโดยตลอด ทุกครั้งที่ลงไปดำเนินการตรวจสอบจะมีสึนามิ ตามมา ขอย้ำว่าเส้นทางการเงินไปถึงใคร คุณเตรียมรับได้เลย ในเรื่องนี้ไม่ได้มีผู้ร่วมในขบวนการแค่ 2 -3 คนเท่านั้น ใครที่กระทำความผิดให้รีบเดินเข้ามาหาเราจะดีกว่า” นายภูมิวิศาล กล่าว
นายภูมิวิศาล กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบแผนประทุษกรรมมีความชัดเจนแล้ว ในส่วนของข้าราชการไม่ว่าจะเกษียณไปแล้ว หรือยังอยู่ในตำแหน่ง หากพบเส้นเงินที่ไปเกี่ยวข้อง ก็จะเรียกมาสอบ ส่วนข้อกังวลว่าเรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องกับหน่วยงานทหาร จะทำให้การตรวจสอบยากขึ้นหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มีคำว่าเอกเทศ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน รับผิดเหมือนกัน ไม่มีการยกเว้นอะไรทั้งสิ้น และไม่ต้องถามว่า ปปท.จะกล้าหรือไม่กล้าทำคดี ขณะนี้คาดว่าผู้ที่จะได้รับโทษในระดับข้าราชการระดับสูง ทั้งที่เกษียณและดำรงตำแหน่งอยู่ มีประมาณ 20 คน โดยมูลค่าความเสียหายมีจำนวนมาก
ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ได้ประสานงานกับทุกหน่วย ตนจึงดำเนินการกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งได้ข้อมูลในการกระทำความผิด แผนประทุษกรรมต่างๆ และได้ทำงานมาระยะหนึ่ง ได้ข้อเท็จจริงที่เชื่อว่าการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง ซึ่งจะดำเนินการกับกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรก และจะขยายผลอย่างต่อเนื่อง ได้ไปสอบพยานต่างๆ ที่นัดหมายไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในรูปคดีขอยังไม่เปิดเผย แต่การดำเนินการเดินไปไกลแล้ว จะพยายามเอาข้อเท็จจริงทั้งหมดออกมาโดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ สำหรับความผิดเบื้องต้นในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าข่ายกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่หากเป็นคนปกติทั่วไปจะเข้าข่ายความผิดอะไรนั้นต้องพิจารณาเป็นคนๆ ไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี