‘ศาลแพ่งกรุงเทพใต้’อนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม กรณี‘ปลาหมอคางดำ’ แต่ยังไม่ชี้ขาดความผิด ด้าน‘ซีพีเอฟ’ยันไม่ได้เป็นสาเหตุของปัญหาดังกล่าว พร้อมสู้คดีด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 มีนาคม 2568 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้มีคำสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม ในกรณีที่กลุ่มเกษตรกรยื่นฟ้อง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ โดยกลุ่มเกษตรกรกล่าวหาว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและการประกอบอาชีพ อย่างไรก็ตาม คำสั่งนี้เป็นเพียงการรับรองให้คดีสามารถดำเนินไปในรูปแบบของคดีแบบกลุ่มเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาว่าซีพีเอฟมีความผิดตามข้อกล่าวหา
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้มีประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงที่เหมือนกันหรือคล้ายกันในกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมาก อีกทั้งการดำเนินคดีแบบกลุ่มจะช่วยลดภาระให้กับศาลและผู้ฟ้องคดีที่อาจไม่มีทรัพยากรเพียงพอในการดำเนินคดีเป็นรายบุคคล ศาลจึงอนุญาตให้การฟ้องร้องดำเนินไปในลักษณะของคดีแบบกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม คำสั่งนี้ไม่ได้หมายความว่าซีพีเอฟมีความผิดตามข้อกล่าวหา แต่เป็นเพียงการเปิดทางให้มีการพิจารณาคดีในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การตัดสินความผิดหรือความรับผิดของบริษัทจะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาพยานหลักฐานในชั้นศาลต่อไป
ด้านผู้แทนของซีพีเอฟแจงหลังคำสั่งศาล ระบุว่า บริษัทดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานและให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมยืนยันว่า การดำเนินงานของบริษัทไม่ได้เป็นสาเหตุของปัญหาดังกล่าว โดยบริษัทจะอุทธรณ์ตามสิทธิที่มี และจะสู้คดีด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลเชิงประจักษ์ ตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป
ด้าน ว่าที่ร.ต.สมชาย อามีน ประธานอนุกรรมการฝ่ายคดีสิ่งแวดล้อมและปฏิบัติการสภาทนายความ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ศาลนัดฟังคำสั่งว่า จะสั่งว่าสามารถรับฟ้องคดีนี้เป็นคดีแบบกลุ่ม ซึ่งศาลมีคำสั่งรับฟ้องคดีนี้เป็นคดีแบบกลุ่ม ส่วนสาเหตุที่ศาลสั่งรับฟ้องคดีนี้เนื่องจากเป็นการบรรยายคำฟ้องที่ชัดแจ้งรวมถึงยกประเด็นเกี่ยวกับการที่คดีนี้มีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จึงมีเหตุสมควรที่จะรับฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่ม รวมทั้งทนายความจากสภาทนายความเป็นทนายที่มีประสบการณ์ในการทำคดีเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและลงพื้นที่ไปยังพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว จึงมีคำสั่งรับเป็นคดีแบบกลุ่ม แต่มีเงื่อนไขคือในการจำกัดพื้นที่ในการเรียกร้องความเสียหาย คือผู้เสียหายจะต้องมาจาก อ.เมือง อ.บางคนที และอ.แพรกหนามแดงจาก จ.สมุทรสงครามเท่านั้น
ว่าที่ ร.ต.สมชาย กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะต้องรอคู่ความอย่างบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารยื่นคำร้องขออุทธรณ์ภายใน 7 วัน ก่อนจะนัดพร้อมคู่ความอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายปัญญา โตกทอง ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรู้สึกสบายใจและโล่งอกเป็นอย่างมากหลังจากที่ศาลมีคำสั่งรับฟ้องคดีนี้เป็นคดีแบบกลุ่ม ตนมองว่าศาลมีความเมตตาต่อผู้เสียหายเป็นอย่างมากเพราะพวกตนได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มานานแล้ว ตนและกลุ่มขาวบ้านจึงหวังว่าศาลจะเข้าใจในส่วนนี้ ตนยังอยากขอบคุณทีมทนายความจากสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ไปลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำด้วย
เมื่อถามว่า ทางตัวแทนชาวบ้านผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ มีความหวังว่าจะชนะคดีนี้ในอนาคตหรือไม่ นายปัญญา กล่าวว่า เมื่อทำงานแล้วก็ต้องมีความหวัง ตนและกลุ่มชาวบ้านหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตพวกตนจะได้รับความเป็นธรรม เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะปลาหมอคางดำไม่เคยมีอยู่ในประเทศไทย ผู้ที่นำปลาชนิดนี้เข้ามาจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ตนและชาวบ้านไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพียงเพราะว่าเป็นปัญหาที่มีขนาดใหญ่ จึงต้องหวังพึ่งกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าชาวบ้านไม่ได้ไปกล่าวร้ายให้ผู้ใดเกิดความเสียหาย พวกตนแค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น ตนจึงหวังว่าความเป็นธรรมในสังคมจะมีอยู่จริง และขอสู้เรื่องนี้ให้ถึงที่สุดเพราะไม่ได้มีแค่ตนและชาวบ้านกลุ่มนี้เป็นผู้เดือดร้อนเพียงกลุ่มเดียว แต่ยังมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดจากปลาหมอคางดำอีกมาก และตนหวังว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปด้วย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี