ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองบุรีรัมย์ บูรณาการกำลังจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด ตามจากผู้ค้ารายย่อย ไล่ขยายผลจนถึงรายใหญ่ในพื้นที่ ได้ผู้ต้องหา 13 คน ยึดของกลางยาบ้า 142,688 เม็ด อาวุธปืน 3 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนอีก 24 นัด เผยส่วนใหญ่ล้วนเคยต้องโทษคดียาเสพติด และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 มี.ค.68 ที่ห้องประชุม ศปก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ,พ.อ.ปิยะวัติ ราชวงศ์ รอง ผบ.มทบ.26 และ พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.ฯ หัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์) แถลงข่าวผลการบูรณาการกำลังระหว่าง ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ , ชปส.กก.ตชด.21 ,ชปส.ร้อย ตชด.215 ,ชปส.ร้อย ตชด.216 ,หน่วยปราบปรามยาเสพติด ขกท.ศปก.ทบ.(นฝด.22, ขกท.กกล.สุรนารี) ,หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 , สขว.กอ.กรมน. ,ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบุรีรัมย์ และฝ่ายปกครองอำเภอสตึก

โดยสามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดและตรวจยึดยาเสพติด ตามยุทธการ 'พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้' ซึ่งได้ทำการจับกุมผู้ต้องหารายย่อย และขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญในพื้นที่ อ.เมืองบุรีรัมย์ อ.คูเมือง อ.ลำปลายมาศ และ อ.สตึก ซึ่งทำหน้าที่เป็นนักบิน หรือคนคอยขนยาบ้าที่ได้ไปรับเอามาจากต่างจังหวัด ตามคำสั่งของชาวลาว เพื่อทยอยลำเลียงส่งมอบให้กับลูกค้าตามคำสั่งของชาวลาว โดยสามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญจำนวน 1 เครือข่าย จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 12 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 13 คน ตรวจยึดของกลางยาบ้า จำนวน 142,688 เม็ด ,อาวุธปืน 3 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนอีก 24 นัด

ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ทำการจับกุมตั้งแต่วันที่ 24ก.พ.-2มี.ค.68 เป็นต้นมา เป็นกลุ่มผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ อ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ผู้ต้องหารายแรก เป็นชายอายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 54 เม็ด ,รายที่ 2 ชายอายุ 34 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 200 เม็ด ,รายที่ 3 ชายอายุ 31 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 10 เม็ด ,รายที่ 4 ชายอายุ 34 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 40 เม็ด ,รายที่ 5 ชายอายุ 53 ปี ได้พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 1,970 เม็ด และรายที่ 6 ได้ทำการตรวจยึดของกลางยาบ้า 89 เม็ด ในพื้นที่อ.เมืองบุรีรัมย์ และรายที่ 7 จับกุมในพื้นที่ อ.คูเมือง 1 ราย เป็นชายอายุ 34 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 16 เม็ด

อีกทั้งชุดจับกุมยังได้ร่วมกันสืบสวนสอบสวน จนทราบว่า นายอี๊ด อายุ 34 ปี ซึ่งเพิ่งพ้นโทษในคดียาเสพติดออกมาเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา แต่ยังมีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้วางแผนล่อซื้อจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาบ้า 1300เม็ด อาวุธปืนพกสั้นชนิดดัดแปลง ขนาด จุด380 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนขนาด จุด380 จำนวน 7 นัด ขณะนำยาบ้ามาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยนายอี๊ด ยังให้การรับสารภาพว่ายังมียาบ้าอีกจำนวน 9 มัด ประมาณ 18,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ฝั่ง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์จึงไปทำการตรวจยึดของกลางยาบ้าดังกล่าว รวมยาบ้าทั้งสิ้น 19,300 เม็ด

พร้อมกันนี้ ยังได้สืบสวนขยายผลตามจับกุมลูกค้าเก่าที่เคยติดต่อสั่งซื้อยาบ้าจากนายอี๊ด และสามารถจับกุมตัว นางนก อายุ 58 ปี ได้ในพื้นที่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า 15 เม็ด กับนายโต้ง อายุ 41 ปี เพื่อนสนิทของนางนก ได้ของกลางยาบ้า 1 เม็ด อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ,กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 11 นัด

ต่อมาได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่า นายโต้ง ยังเคยติดต่อซื้อขายยาบ้าจากรุ่นน้องชาว อ.ลำปลายมาศ แต่ไปพักอาศัยอยู่ที่ อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงได้ขยายผลล่อซื้อและสามารถจับกุมตัว นายอาร์ท อายุ 26 ปี กับนายเช อายุ 36 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 588 เม็ด ,อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. 1 กระบอก ,กระสุนปืนขนาด 9 มม. 6 นัด

หลังจากนั้น นายอาร์ท ให้การยอมรับว่า ตนเองมีหน้าที่ไปรับเอายาบ้าตามคำสั่งของชาวลาว แทบทุกวันในพื้นที่ อ.สตึก เพื่อนำมาวางต่อหรือส่งมอบให้กับลูกค้าตามพื้นที่อำเภอต่างๆ ตามคำสั่งของชาวลาว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนและสามารถจับกุมตัว นายอ๋อง อายุ 20 ปี ได้ขณะนำยาบ้าจำนวน 3 มัด หรือจำนวน 6,000 เม็ด และอีก 2 ถุงจำนวน 400 เม็ด มาวางส่งมอบให้ในพื้นที่บ้านคุ้มบ้านต่ำ ม.3 ต.ทุ่งวัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ 

จากการสอบถาม นายอ๋อง ให้การยอมรับสารภาพว่าตนเองร่วมกับเพื่อนสาวชื่อ น.ส.ไอซ์ อายุ 19 ปี เก็บรักษายาบ้าที่ได้มีคนนำมามอบให้อีกทอดหนึ่ง คอยนำไปวางให้กับลูกค้าตามคำสั่งของรุ่นพี่คนหนึ่ง โดยครั้งนี้รับยาบ้ามาประมาณ 150 มัด หรือจำนวนประมาณ 3 แสนเม็ด และทยอยวางให้ลูกค้าไปแล้วหลายราย โดยยังมียาบ้าที่ตนเก็บไว้คอยนำไปวางให้ลูกค้าต่อตามคำสั่ง ที่ตนได้แยกเก็บซุกซ่อนไว้ 2 จุด จึงพาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปทำการตรวจยึด จุดแรกจำนวน 17 มัด หรือจำนวนประมาณ 34,000 เม็ด บริเวณข้างสระน้ำในหมู่บ้านคุ้มบ้านต่ำ ม.3 ต.ทุ่งวัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์

จากนั้น ได้พาไปตรวจยึดในจุดที่ 2 บริเวณป่าอ้อยท้ายหมู่บ้าน บ้านโคกวัด ม.3 ต.สนามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จำนวน 40 มัด หรือประมาณ 120,401 เม็ด จึงทำการตรวจยึดมาทำการตรวจสอบ และส่งพนักงานสอบสวน สภ.สตึก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนหาข่าว และเริ่มการจับกุมตั้งแต่กลุ่มผู้ค้ารายย่อย แล้วสืบสวนขยายผลต่อไปจนสามารถจับกุมได้ทั้งเครือข่าย ที่เป็นเครือข่ายสำคัญเครือข่ายหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการกำลัง ได้สนองนโยบายรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 3 โดยการขยายผลจับกุมทำลายเครือข่าย ซึ่งการจับกุมทุกครั้งก็ได้มีการทำลายเครือข่าย จนในครั้งนี้สามารถจับกุมได้ผู้ต้องหาและของกลางได้ดังกล่าว

พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้ส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกจับกุมจะมีอาวุธปืน เพราะในการเดินทางนำยาบ้าไปส่งมอบให้ลูกค้า ทำให้กลุ่มผู้ค้าจวนตัวอาจจะต้องมีการใช้อาวุธ ซึ่งอาจจะต้องมีการป้องกันตัว และจะต้องมีการเตรียมความพร้อมในการเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ ก็จะต้องดำเนินการไปตามหลักของกฎหมาย และตามยุทธวิธีตำรวจในการใช้อาวุธ เริ่มตั้งแต่เบาไปหาหนัก ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และถ้ามีอันตรายใกล้จะถึงตัวตามกฎหมายแล้วตำรวจก็สามารถป้องกันตนเองได้ แต่อย่างไรก็ตามจะใช้วิธีการจับกุมโดยละมุนละม่อมที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติและผู้ถูกจับกุม