ศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 1 สั่งจำคุก 6 ปี 8 เดือน"กำนันตุ้ย นายก อบจ.ราชบุรี-สส.บุญยิ่ง“ ทุจริตฮั้วระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ด้านเจ้าตัวยื่น 2.5 เเสนได้ประกันสู้อุทธรณ์ ส่วน“มนัส สร้อยพลอย” อดีตอธิบดีการค้าระหว่างประเทศ โดนคุกอ่วมอีก 10 ปี
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบภาค 1 ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อท 60/2567 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส. ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐขณะนั้น (ปัจจุบันเปลี่ยนไปสังกัดพรรคกล้าธรรม) ที่ 1 กับพวกรวม 10 คน เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ, พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐฯ กรณีการทุจริตในการระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ตามโครงการแทรกแซงตลาด มันสำปะหลังปี 2551/2552 ครั้งที่ 9 เพื่อใช้ภายในประเทศ
ต่อมาศาลได้รวมการพิจารณาคดีนี้กับคดีหมายเลขดำที่ อท 53/2567 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน เป็นจำเลย ฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ , พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 กับคดีนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา จำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขดำที่ อท60/2567 นางบุญยิ่งจึงกลายเป็นจำเลยที่ 4 ในคดี
พวกจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 1 ได้พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 (นายมนัส) มีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11,12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 83 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา ต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ลงโทษจำคุก 10 ปี
จำเลยที่ 4 -12 มีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11,12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 86 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ลงโทษจำเลยที่ 4-7และที่ 12 จำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน และลงโทษปรับจำเลยที่ 8-11 คนละ 2.5 เเสนบาท ให้นับโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษจำคุก ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และติดต่อกับโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดี
ของศาลนี้
ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2-3 และไม่รับคำร้องขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของผู้ร้องทั้งสี่ โดยให้ผู้ร้องทั้งสี่ดำเนินการฟ้องเป็นคดีแพ่งต่อศาลที่มีอำนาจ
ภายหลังจำเลยที่ถูกพิพากษาจำคุกเเละไม่ติดหมายขังคดีอื่นยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 4-7 ที่ 6 และที่ 12 ระหว่างอุทธรณ์ ตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงาน นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือ กำนันตุ้ย จำเลยที่ 12 ในคดีนี้ ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ราชบุรี เป็นสามีนางบุญยิ่ง ส่วนนายมนัส สร้อยเพชร นั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสั่งจำคุก 40 ปี ร่วมกับพวดคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี