ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม อย. ปูพรม 6 จุด ทลายโกดังเครื่องสำอาง-อาหารจีนไร้คุณภาพ ตรวจยึดของกลาง 107 รายการ รวม 4 แสนชิ้น มูลค่ากว่า 46 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ปฏิบัติการกรณี ทลายโกดังจัดเก็บผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอาหารนำเข้าจากต่างประเทศ ลวงขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ตรวจยึดของกลาง 107 รายการ รวมจำนวน 476,965 ชิ้น มูลค่ากว่า 46,200,000 ล้านบาท
สืบเนื่องกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค มีมาตรการในการเฝ้าระวังการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้มาตรฐานในประเทศไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเลขสารบบอาหาร เครื่องสำอางไม่มีเลขจดแจ้ง หรือไม่มีการแสดงฉลากเป็นภาษาไทย โดยหากประชาชนซื้อไปบริโภคหรือซื้อไปใช้อาจทำให้ได้รับอันตรายจากของที่ไม่มีคุณภาพได้ เนื่องจากไม่สามารถทราบถึงแหล่งผลิต และมาตรฐานในการผลิตได้
จากกการเฝ้าระวัง พบการโฆษณาจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์อาหาร และวัตถุอันตรายที่ไม่ได้มาตรฐานผ่านแฟลตฟอร์มออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนจนทราบถึงสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายที่นำเข้ามาจากประเทศจีน
ต่อมาระหว่างวันที่ 18 - 28 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้ร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารแลย (อย.) เข้าตรวจค้นสถานที่จัดเก็บ และแพ็คส่งสินค้าที่ จำนวน 6 จุด ดังนี้
1.สถานที่จัดเก็บสินค้า ภายในโกดังในพื้นที่ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โดยเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดพระประแดง เข้าทำการตรวจค้น โดยขณะตรวจค้นพบคนงานอยู่ระหว่างแพ็คบรรจุสินค้าลงกล่องพัสดุ เพื่อจัดส่งให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อ และพบ นายต้อง (สงวนนามสกุล) ชาวเมียนมา เป็นผู้นำตรวจค้น ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์อาหาร และวัตถุอันตราย จำนวน 29 รายการ เช่น ยาสีฟัน เครื่องสำอางยี่ห้อต่างๆ จำนวน 269,580 ชิ้น มูลค่ากว่า 40,000,000 บาท โดยโกดังดังกล่าวเปิดร้านค้าออนไลน์จำนวน กว่า 10 ร้าน
2.สถานที่จับเก็บ และไลฟ์สดขายสินค้า ภายในโกดังย่านแขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร โดยในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้ร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารแลย (อย.) นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรีเข้าทำการตรวจค้น ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง, วัตถุอันตราย, เครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์สมุนไพร จำนวน 27 รายการ รวม 44,076 ชิ้น มูลค่ากว่า 2,000,000 บาท ดังนี้
2.1 เครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้งและแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ประเภท ยาสีฟัน ครีมทาผิว ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แต่งหน้า จำนวน 16 รายการ รวม 19,264 ชิ้น
2.2 เครื่องสำอางที่มีเลขจดแจ้ง แสดงฉลากไม่ครบถูกต้อง ประเภท ครีมกันแดด โฟมล้างหน้า ครีมนวดผม จำนวน 7 รายการ รวม 11,712 ชิ้น
2.3 วัตถุอันตรายที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ประเภทผลิตภัณฑ์ยากันยุงชนิดน้ำที่ใช้กับปลั๊กไฟฟ้า จำนวน 2 รายการ รวม 8,240 ชิ้น
2.4 เครื่องมือแพทย์ลักษณะคล้ายเครื่องพ่นยา (Nebulizer) รวม 900 ชิ้น
2.5 ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับ (แผ่นแปะสะดือลดความอ้วน) จำนวน 3,960 ชิ้น
จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า โกดังดังกล่าวมียอดขายวันละ 1,800 - 2,000 ออเดอร์ โดยเปิดร้านค้าออนไลน์จำนวนกว่า 10 ร้าน และทำมาแล้ว 5 ปี
3.สถานที่จัดเก็บสินค้า ภายในบ้านพักพื้นที่ ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้ร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารแลย (อย.) นำหมายค้นของศาลจังหวัดธัญบุรีธัญบุรี เข้าตรวจค้น โดยมี น.ส.นันทนา (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี เป็นผู้นำตรวจค้น ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น โลชั่น และครีมบำรุงเส้นผม จำนวน 6 รายการ รวม 14,805 ชิ้น มูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยโกดังดังกล่าว โดยเปิดร้านค้าออนไลน์จำนวนกว่า 4 ร้าน และทำมาแล้ว 2 ปี
4.สถานที่จับเก็บสินค้า ภายในบ้านพักในพื้นที่แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร โดยในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้ร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารแลย (อย.) นำหมายค้นของศาลอาญามีนบุรี เข้าทำการตรวจค้น โดยมี น.ส.จินตนา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี เป็นผู้นำตรวจค้น ตรวจยึดผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูปสำหรับประกอบอาหารเป็นหม้อไฟหมาล่า เช่น ฟองเต้าหู้รูปแบบต่างๆ, เครื่องและซุปก้อนหมาล่า, เส้นหนึบ รสมันม่วง-รสมันเทศ และวุ้นเส้นรสมันม่วง-วุ้นเส้นรสปวยเล้ง จำนวน 15 รายการ รวมจำนวน 116,900 ชิ้น มูลค่ากว่า 1,500,000 บาท โดยสถานที่ดังกล่าวเปิดร้านค้าออนไลน์ จำนวน 5 ร้าน มียอดขายวันละ 30,000 บาท และทำมาแล้วเป็นเวลา 6 เดือน
5.สถานที่จับเก็บสินค้า ภายในโกดังในพื้นที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้นำหมายค้นของศาลแขวงสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น ครีมมบำรุงผิว แชมพู และเครื่องสำอางที่ไม่แสดฉลากเป็นภาษาไทย จำนวน 10 รายการ รวม 5,179 ชิ้น มูลค่าของกลางประมาณ 500,000 บาท
6.สถานที่จับเก็บสินค้าในพื้นที่แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำหมายค้นของศาลแขวงดุสิตเข้าทำการตรวจค้นใน โดยมี นายปราโมทย์ (สงวนนามสกุล) ตรวจยึดผลิตภัณฑ์อาหาร เช่นเยลลี่ยี่ห้อ Le Chao Gummy Candy, พุทราจีนสอดไส้อัลมอลล์ และผลไม้อบแห้ง รวม 20 รายการ จำนวน 22,825 ชิ้น มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยเปิดร้านค้าออนไลน์จำนวน 2 ร้าน มียอดขายวันละ 50,000 บาท และทำมาแล้วประมาณ 2 ปี
รวมตรวจค้น 6 จุด ตรวจยึดของกลาง เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง, วัตถุอันตราย, เครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวม 107 รายการ จำนวน 476,965 ชิ้น มูลค่ากว่า 46,200,000 ล้านบาท ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี
จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า สินค้าจากการตรวจสอบเบื้องต้นสินค้าทั้งหมดมีการนำเข้ามาจากประเทศจีน โดยส่วนใหญ่ไม่แสดงฉลากเป็นภาษาไทย และบางรายการระบุฉลากภาษาไทยจากการแปลโดยโปรแกรมอัตโนมัติ ซึ่งทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กก.4 บก.ปคบ.) จะขยายผลสืบหาแหล่งที่ตั้งโกดังที่ลักลอบนำเข้าและขายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย เพื่อดำเนินคดีกับตัวการรายใหญ่ต่อไป
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด
1.พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558
กรณี เป็นผู้นำเข้า มีความผิด
- ฐาน “นำเข้าเครื่องสำอางโดยไม่จดแจ้ง” จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ฐาน “นำเข้าเครื่องสำอางที่ฉลากไม่ใช้ข้อความภาษาไทย” จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีเป็นผู้ขาย มีความผิด
- ฐาน “ขายเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้งตาม” ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
- ฐาน “ขายเครื่องสำอางที่ฉลากไม่ใช้ข้อความภาษาไทย” จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ฐาน “จำหน่ายอาหารแสดงฉลากไม่ถูกต้อง” ระวางโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
3.พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535
- ฐาน “นำเข้าวัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียน” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ฐาน “นำเข้าวัตถุอันตรายยังไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามมาตรา 23 วรรคหนึ่ง ระวางโทษตามมาตรา 73 จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ฐาน “เป็นผู้นำเข้า ขายวัตถุอันตรายที่ฉลากไม่ถูกต้อง" ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ฐาน “ขายวัตถุอันตรายที่ฉลากไม่ถูกต้อง” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากผลการตรวจวิเคราะห์พบ Meperfluthrin สารกลุ่มไพรีทรอยด์ (Pyrethroids) วอ. 3 จะมีความผิด ฐาน “นำเข้า/มีไว้ในครอบครองเพื่อขาย วัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียน” ระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551
- ฐาน “นำเข้าเครื่องมือแพทย์โดยไม่จดทะเบียนสถานประกอบการ” ระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ฐาน “ขายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่ได้รับใบรับแจ้งรายการละเอียด หรือใบรับจดแจ้ง” ระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอขอบคุณตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ที่สืบสวนขยายผลสืบหาโกดังทั้ง 6 แห่ง จนสามารถตรวจยึดเครื่องสำอาง, อาหาร, วัตถุอันตราย และเครื่องมือแพทย์ที่ผิดกฎหมายได้จำนวนมาก
จึงขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง, อาหาร, วัตถุอันตราย และเครื่องมือแพทย์ทางสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีราคาถูกกว่าปกติ หรือโฆษณาโปรโมชั่นการตลาดที่ราคาลดลงจนไม่น่าเป็นไปได้ ให้ระลึกไว้เสมอว่าท่านกำลังเสี่ยงต่อการได้ ของไม่มีคุณภาพ และในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น เครื่องสำอาง อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องมือแพทย์ จะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนจำหน่าย โดยสามารถดูได้ที่ฉลากผลิตภัณฑ์หรือที่บรรจุภัณฑ์ ควรซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอน กรณีซื้อออนไลน์ให้ซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจาก อย.ได้ที่ www.fda.moph.go.th และ Line: @FDAThai หากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือผ่าน Email : 1556@fda.moph.go.th Line: @FDAThai, Facebook : FDAThai หรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ.กล่าวว่า ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ.ได้ทำการตรวจยึดผลิตภัณฑ์ที่ไม่แสดงฉลากภาษาไทย ไม่มี อย.ที่ประชาชนทั่วไปใช้ในชีวิตประจำวันเป็นจำนวนมาก โดยปฏิบัติการดังกล่าวเกิดจากการเฝ้าระวังในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายและไม่ได้มาตรฐาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค และขอฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพมาบริโภค ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่แสดงฉลาก สรรพคุณ ส่วนประกอบ ผู้ผลิตและสถานที่ผลิตที่ครบถ้วน น่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้ เพราะฉลากผลิตภัณฑ์เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้ามาบริโภคหากแสดงฉลากไม่ครบถ้วนถูกต้อง อาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด เมื่อนำไปบริโภคอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ และขอเน้นย้ำกับผู้ลักลอบนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายทั้งหลายว่าอย่านำสินค้าที่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายโดยเด็ดขาด หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ผู้ที่พบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค ได้ตลอดเวลา
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี