ส่งกลับลอต2
จีนบินรับ 1.4 พันคน 6-9 มี.ค.
เหยื่อแก๊งคอลฯในชเวโก๊กโก่
เลขาฯ สมช. ระบุมาตรการตัดไฟ-เนต-น้ำมันไปเมียนมาเห็นผล แต่รอที่ประชุมประเมินก่อนเคาะต่อขยายมาตรการอื่นหรือไม่ ด้านจเรตำรวจ เผย แจ้งข้อหาหนักไทยเทา 100 คน ออกหมายจับบอสจีนเทา 2 ลั่นกระบวนการคัดกรองเข้มปิดทางคนไทยขายชาติหนีกลับไปร่วมมือแก๊งคอลฯในเขมรมาหลอกคนไทยซ้ำ ด้านผบ.ทสส.ถกบอร์ด ปชด.นัดแรก ลุยภารกิจส่งกลับเหยื่อจีนล็อตสอง 1.4 พันคน ดีเดย์ 6-9 มีค. ตามขั้นตอนเดิม ย้ำทบ.คุมเข้มชายแดนหวั่นเหยื่อที่ถูกจับกว่า7พันแตกฮือ พร้อมเร่งการตรวจสอบคัดกรองเป็นหยื่อหรือร่วมแก๊ง
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการครบรอบ 1 เดือนตัดไฟและอินเตอร์เน็ตไปยังเมียนมา เพื่อจัดการขบวนการคอลเซ็นเตอร์ว่า สมช. กำลังประเมินอยู่ ผลยังไม่ออก จึงยังไม่มีการขยายมาตรการอะไร ขอประเมินให้ชัดอีกครั้ง
ตัดน้ำตัดไฟเห็นผลรอเคาะขยายผล
ผู้สื่อข่าวถามถึงการแก้ปัญหาชาวเมียนมาข้ามแดนมาเติมน้ำมันในฝั่งไทย นายฉัตรชัยกล่าวว่า หน่วยงานติดตามกันอยู่ หากผิดเงื่อนไขก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมายและมาตรการที่เราออกไป แต่ยอมรับว่า อาจส่งผลต่อวิถีชาวบ้านส่วนหนึ่ง อย่างการเติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ แต่ก็อนุโลม ส่วนการประเมินตัวเลขผลดำเนินงานนั้น ขอตรวจสอบก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่ภาพรวมถือว่าเห็นผล
ฟันข้อหาหนัก119ไทยเทาร่วมแก๊งคอล
ด้านพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศปอส.ตร./ผอ.ศตคม.ตร.) พร้อมพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) แถลงผลคดีสำคัญกรณีคนไทยถูกตำรวจกัมพูชาจับกุมความผิดอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยีที่กัมพูชา แล้วส่งตัวกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 119 คน การจับกุมคนไทยโดยทางการกัมพูชาครั้งนี้ เกิดจากรัฐบาลไทยกับกัมพูชาร่วมมือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะคนไทยที่ไปตั้งฐานร่วมกับชาวต่างชาติ กลุ่มทุนจีนสีเทาในกัมพูชาแล้วมาหลอกคนไทย
สำหรับคนไทย 119 คนที่ถูกกัมพูชาจับในปอยเปต ทางการกัมพูชาออกแถลงการณ์ยืนยันว่าทุกคนสมัครใจร่วมทำความผิด ไม่ถูกบังคับ เมื่อถูกส่งตัวกลับไทยวันที่ 1 มีนาคม ทั้งหมดถูกนำเข้ากระบวนการคัดกรองคัดแยกเหยื่อโดยสหวิชาชีพที่จ.สระแก้ว ที่ผ่านมาเมื่อทางการกัมพูชาส่งตัวคนไทยที่ทำผิดเกี่ยวกับแก๊งคอลฯมาประเทศไทยหลายครั้ง แต่กระบวนการคัดแยกคัดกรองเหยื่อไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าบุคคลเหล่านี้ทำผิดจริง ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้กลับไปร่วมแก๊งคอลฯมาหลอกคนไทยซ้ำอีก ทำให้มีคนไทยขายชาติอีกจำนวนมากข้ามไปกัมพูชา ร่วมกับแก๊งคอลฯที่เป็นชาวต่างชาติ กลุ่มจีนเทามาหลอกคนไทย เพราะเมื่อทำความผิดแล้วจะใช้ช่องทางการตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ กลับมาประเทศไทยได้โดยอิสระไม่ต้องถูกดำเนินคดี
ล่า3บอสจีนเทา-ออกหมายจับได้2
สำหรับการคัดแยกเหยื่อโดยสหวิชาชีพ และการสืบสวนขยายผลของตำรวจพบว่า ใน 119 คน มีคนที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมแก๊งคอลฯ 100 คน เป็นเด็กและเยาวชน 4 คน อยู่ระหว่างดำเนินการของสหวิชาชีพ อีก 15 คนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ซึ่งศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับ 102 คน เป็นคนไทย 100 คน และขยายผลไปยังหัวหน้าแก๊งชาวจีนอีก 3 คน ข้อหาร่วมกันในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม จากพฤติกรรมทั้งสามราย เป็นระดับบอส มีหน้าที่สั่งการ กำหนดการจ่ายเงิน รวมถึงกำกับดูแล จากคำให้การของผู้ต้องหาทำให้สเก็ตภาพออกมาได้ และออกหมายจับได้ 2 ราย อีก 1 รายอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน โดยจะร่วมกับจีนขยายผลว่าทั้งสามรายเป็นใคร
พล.ต.อ.ธัชชัยเผยว่า จากการสัมภาษณ์และคัดแยกกลุ่มตามสถานที่ที่บุคคลเหล่านี้ไปทำงานในกัมพูชา พบว่าคนไทยที่ทำงานที่ตึกภูมิตาสวนออกหมายจับคนไทย 100 ราย และบอสชาวจีน 2 ราย ทำผิดหลอกลงทุนเทรดหุ้น โรแมนซ์สแกม เว็บพนันออนไลน์ การหลอกเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าและกรมที่ดิน ส่วนอาคาร K2 พบคนไทย 15 คน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป
โวครั้งแรกฟันข้อหาหนักคนไทยขายชาติ
“ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สามารถดำเนินคดีข้อหาหนักกับคนไทยที่ไปร่วมกับชาวต่างชาติตั้งแก๊งคอลฯหลอกคนไทยในกัมพูชาที่มีโทษสูงสุดถึง 15 ปี จากนี้ไปจะไม่มีพวกกลุ่มคนไทยขายชาติใช้ช่องทางการตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ เพื่อหลบหนีการทำความผิดอีกต่อไป สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะเอาตัวคนไทยขายชาติเหล่านี้มาลงโทษในประเทศไทย ข้อหาองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและความผิดอื่นทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาดและถึงที่สุดทุกคน”พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าว และยืนยันว่าตร.จะดำเนินยุทธการระเบิดสะพานโจรอย่างจริงจังต่อเนื่องในการทำลาย 3 เสาหลักของแก๊งคอลฯได้แก่ สัญญาณโทรศัพท์เน็ต บัญชีธนาคาร คนที่ทำความผิด และคนไทยขายชาติ จนกว่าแก๊งคอลฯจะหมดไปจากประเทศไทย
ส่ง93แก๊งคอลฯชาวไทยฝากขังศาลอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันเดียวกัน ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) คุมตัวผู้ต้องหาชาวไทยทั้ง 93 คน ที่ถูกจับกุมในย่านพลูตาสวน เมืองปอยเปต กัมพูชา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาขบวนการคอลฯที่กัมพูชาส่งตัวกลับมาให้ทางการไทย ไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาแล้ว โดยพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.เผยว่า สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดเสร็จแล้ว พนักงานสอบสวนจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 93 คน ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ส่วนจะคัดค้านประกันหรือไม่ ตนมอบอำนาจให้เป็นดุลพินิจของพล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท
ผบ.ทสส.ถกบอร์ดปชด.ถกนัดแรก
ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะ ประธานคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือคณะกรรมการ ปชด.ประชุมนัดแรก ตามคำสั่งนายกฯในการสนับสนุนรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนมาตรการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และภัยคุกคามอื่นที่กระทบต่อความมั่นคงชายแดน
จีนดีเดย์รับเหยื่อล็อต2กลับ6-9มีค.
หลังประชุมพลเอกทรงวิทย์แถลงว่า ภารกิจแรกศูนย์การสร้างองค์กรที่ทำงานร่วมกัน ผ่านการประสานงานวันที่ 6 -9 มีนาคม จีนจะส่งเครื่องบินมารับเหยื่อแก๊งคอลฯผ่านชายแดนไทยที่จ.ตาก ดังนั้น ศูนย์นี้จะประสานงานตั้งแต่รับตัวจากฝั่งเมียนมา มาเข้ากระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายไทย และส่งตัวขึ้นเครื่องบินออกนอกประเทศ ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนเหยื่อแก๊งคอลฯทางฝั่งเมียนมาร่วมกับจีนขณะนี้ดำเนินไปแล้วกว่า 3,000 คน และพร้อมส่งออกวันที่ 6-9 มีนาคม 1,400 คน ตนขอให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เป็นเสาหลักทำขบวนการเนรเทศ ต้องเป็นข้อมูลจริงที่มีนำไปพูดคุยกับต่างชาติว่าไม่สามารถเร่งรัดขั้นตอนได้ เพราะต้องเป็นไปตามกฎหมายไทย หากเร่งรัดเจ้าหน้าที่อาจเข้าข่ายมาตรา 157 ได้
ส่งรบ.เคาะคลายยาแรงตัดไฟรพ.
ส่วนภารกิจที่สองคือ การประเมินมาตรการตัดไฟ ตัดน้ำมัน เมียนมาได้ผลมากน้อยเพียงใด ส่วน อินเตอร์เน็ตมอบให้กสทช.ดูว่าหลังตัดอินเตอร์เน็ตแล้วจะมีปฏิบัติการหรือใช้อินเตอร์เน็ตจากฝั่งไทยอีกหรือไม่ และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งเมียนมาขอผ่านทางที่ประชุมไตรภาคีกรณีโรงพยาบาล คณะกรรมการฯจะพิจารณา แล้วส่งข้อมูลทั้งหมดไปยังรัฐบาลว่าจะอนุมัติหรือไม่
ตรึงชายแดนหวั่นเหยื่อแก๊งคอลแตกฮือ
พล.อ.ทรงวิทย์ยังกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนล่าสุดมีการลักลอบข้ามแดน หลังฝั่งเมียนมารับเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีมากกว่า 7,000 คนไม่ไหวว่า ขณะนี้ตรึงกำลังไว้อย่างดี แต่สิ่งที่เป็นห่วงหากเขาเดือดร้อนจากมาตรการฝั่งไทยจะแตกกระจายออกมา การควบคุมจะยากขึ้น ดังนั้น ตนจึงขอให้ผบ.ทบ. สั่งการกองกำลังป้องกันแนวชายแดน เจรจากองกำลังที่ควบคุมเหยื่อแก๊งคอลฯให้อยู่ในพื้นที่ ส่วนไทยพยายามแก้ปัญหาเร็วที่สุด ขออย่าสร้างปัญหาเพิ่ม
ตร.ขันน๊อตตำรวจตัดวงจรส่วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศูนย์นี้ดำเนินการตัดวงจรส่วยชายแดนด้วยหรือไม่ พลเอกทรงวิทย์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อประเมินประสิทธิภาพของข้าราชการวันนี้ ผบ.ตร.พูดชัดว่าเข้าไปปรับกระบวนทัศน์ของตำรวจที่ทำงานเรื่องนี้ทั้งหมดว่าสิ่งเหล่านี้ ตร.จะไม่ยอมรับอีกต่อไป ประพฤติมิชอบและทำให้เกิดภัยคุกคามต่อประเทศ และได้แสดงตัวอย่างการลงโทษเจ้าหน้าที่ ตนขอให้แต่ละกระทรวง ทบวง กรมตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของตนเองด้วยว่าสิ่งไหนที่เคยทำผิดวันนี้ต้องหยุด มิเช่นนั้นปัญหาเหล่านี้จะกลับมาอีกในระยะยาว เพราะอยู่ในการตรวจสอบประสิทธิภาพขององค์กรที่ทำงานด้านนี้ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดตาก
6มีค.ลงพื้นที่ชายแดนเก็บข้อมูลเพิ่ม
ส่วนปัญหาฝั่งกัมพูชา พลเอกทรงวิทย์กล่าวว่า ผบ.ตร.ยอมรับคนไทยที่พัวพันกับแก๊งคอลฯฝั่งกัมพูชามีมากกว่านี้ แต่เมื่อคลี่คลายปัญหาฝั่งเมียวดีแล้ว คณะกรรมการฯต้องไปดูจุดอื่นตามแนวชายแดน
สำหรับการประสานกับผู้นำชุมชนกลุ่มน้อย ที่ดูแลบุคคลสัญชาติต่างๆที่จะส่งกลับประเทศต้นทางนั้น ในที่ประชุม ตนขออนุญาตผบ.ทบ. ซึ่งเป็นรองประธาน ศอป.ชด.ให้สั่งกองกำลังชายแดนไปประสานกับกองกำลังที่ควบคุมบุคคลสัญชาติต่างๆที่จะส่งกลับ ซึ่งการพูดคุยไม่ได้มีกลุ่มเดียว กองกำลังชายแดนถือเป็นข้อต่อในการสื่อสาร นอกจากนี้ ต้องประสานรัฐบาลเมียนมาตามช่องทาง ทีบีซี คุยกับตัวแทนรัฐบาลเมียนมาในเมียวดีว่า มีกี่ชาติขอรับตัวบุคคลสัญชาติตัวเองกลับ ทั้งนี้ วันที่ 6 มีนาคม ศอป.ชด.ส่วนหน้า จะลงพื้นที่วันแรก เพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม จะทำให้เห็นว่าสถานการณ์พื้นที่เป็นอย่างไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี