แก๊งพนัน‘มินนี่’เหิม

ถอนเงินตอนขึ้นศาล

ตร.เร่งสอบขยายผล

ใครเอี่ยวฟันไม่เลี้ยง

ตร.ไซเบอร์ เปิดพฤติการณ์ “มินนี่” สาวน้อยร้อยเว็บ ลอบเปิดเว็บพนันซ้ำอีก เหิมถอนเงินขณะไปขึ้นศาลคดีเก่า พบเปลี่ยนชื่อเว็บตบตาเจ้าหน้าที่ ขอเวลาตรวจสอบขยายผล ชี้ใครเกี่ยวข้องพร้อมฟันไม่เลี้ยง

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 แถลงความคืบหน้ากรณีการเข้าทลายเครือข่ายเว็บพนัน น.ส.ธันยนันท์ (สงวนนามสกุล) หรือ ‘มินนี่’ ซึ่งเคยถูกจับกุมแล้ว ว่าเนื่องจาก บก.สอท.1 ตรวจสอบพบเว็บไซต์พนันออนไลน์เครือข่าย “Betflik” ประกอบด้วย www.betflik101.com , www.betflix488.com , www.betflixspin.com , www.sabuy.bet , www.spinixgold.com , www.spinixup.net และ www.spinplay.com มีเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ทำหน้าที่ถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์เว็บพนันเหล่านี้ เป็นกลุ่มเดียวกับผู้ต้องหาที่เคยถูกดำเนินคดีเว็บพนันออนไลน์ และอยู่ระหว่างประกันตัวต่อสู้คดี โดยมีการถอนเงินจากบัญชีขณะที่กำลังไปรายงานตัวที่ศาล

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหา 33 ราย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มแรก เป็นกลุ่มผู้บริหาร 7 ราย ได้แก่ น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ เป็นเจ้าของเว็บไซต์และผู้จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ , น.ส.อรณี เป็นเลขาฯ และผู้รวบรวมเงินจากเว็บการพนันออนไลน์มามอบให้ น.ส.ธันยนันท์ , นายยุคณเดช , นายชุมพล , นายชาญชัย , นายสิทธิพล และนายณัฐพงษ์ เป็นผู้ทำหน้าที่ถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บพนัน และกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มเจ้าของบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บพนันออนไลน์ 26 ราย

จากนั้นกำลังตำรวจ บก.สอท.1 และ บก.สอท.3 ได้ขออำนาจศาลออกหมายค้น และเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาได้ 10 ราย ซึ่งรายสำคัญคือ น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ จับกุมได้ที่บ้านพักย่านถนนกาญจนาภิเษก แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.ส่วนผู้ต้องหารายอื่นจับกุมได้ในพื้นที่ กทม.และ จ.เลย ยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ 30 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง บัตรเครดิต 32 ใบ บัญชีธนาคาร 25 เล่ม และเอกสารต่างๆ โดยผู้ต้องหาแต่ละรายจะถูกดำเนินคดีในข้อหาแตกต่างกันตามพฤติการณ์และพยานหลักฐานที่พบ ซึ่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 อยู่ระหว่างสอบสวนดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวถึงพฤติการณ์กระทำผิดของกลุ่มผู้ต้องหารายนี้ ที่มีการเปิดเว็บพนันถึง 7 แห่ง ว่ามีการใช้ชื่อจดโดเมนเนม หรือชื่อเว็บ เหมือนกันและจดหลายๆ ชื่อ แต่เปลี่ยนตัวเลขหรือนามสกุล เพื่อป้องกันกรณีถูกจับก็จะถ่ายโอนลูกค้า และเรียกลูกค้ากลุ่มเดิมกลับมา ทำให้ยากต่อการสืบสวน แต่กรณีนี้ได้สืบสวนธุรกรรมทางการเงินจนเชื่อมโยงถึงตัวผู้กระทำผิด 33 ราย โดยเฉพาะ 7 รายที่เป็นกลุ่มเดิม ซึ่งเป็นผู้บริหารเว็บไซต์ ทั้งบริหารการเงิน บริหารบัญชีม้า และกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ ยืนยันว่าการกระทำผิดครั้งนี้เป็นการกระทำผิดครั้งใหม่ แต่เพียงมีการใช้รูปแบบและวิธีการเดิม

ผบช.สอท.กล่าวอีกว่า ในส่วนของ น.ส.ธันยนันท์ ตรวจสอบพบการกระทำผิดตั้งแต่ปี 2567 ถึงปัจจุบัน มีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท และยังหมุนเวียนเป็นเงินไทย วนอยู่ในกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 33 คน

ส่วนที่มีข้อมูลว่ามีการแชทขอความช่วยเหลือจากบุคคลสำคัญในโทรศัพท์ของ น.ส.ธันยนันท์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเนื่องจากข้อมูลมีจำนวนมาก ยืนยันว่าหากพบหลักฐานอะไรที่ไปเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับบุคคลใด ก็จะพิจารณาดำเนินคดีทั้งหมดโดยไม่ละเว้น ส่วนจะพัวพันอดีตนายตำรวจหรือไม่ ก็ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดเช่นเดียวกัน

“สำหรับกรณีของ น.ส.ธันยนันท์ ที่มีคดีเก่าอยู่ที่ ป.ป.ช.และมีการกระทำผิดซ้ำ ป.ป.ช.จะพิจารณาถอนประกันหรือไม่ เป็นอำนาจของ ป.ป.ช.ขณะที่การสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดย น.ส.ธันยนันท์ ขอให้การเป็นเอกสาร” พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าว