‘อธิบดีปกครอง’ นำกำลังตรวจสอบห้องชุดคอนโด ‘ย่านประตูน้ำ’ ลอบปล่อยเช่ารายวันผ่านแอปฯดัง พบผิดชัดชงตร.ดำเนินคดี พร้อมฟันจับกุม ‘ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม’ ผิดกฎหมายย่าน ‘ห้วยขวาง – สุทธิสาร’
วันที่ 6 มีนาคม 2568 นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมการปกครอง ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมกรมการปกครองถึงความเดือดร้อนจากการที่มีเจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องชุดในคอนโดมิเนียมย่านประตูน้ำบางรายนำห้องชุดปล่อยเช่ารายวันให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผ่านแอปพลิเคชันหนึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวฯ บางรายมีพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนรำคาญเจ้าของกรรมสิทธิ์รายอื่น และมีการพาบุคคลภายนอกเข้ามาใช้พื้นที่ส่วนกลางจำนวนมาก ทำให้ผู้พักอาศัยอาจไม่ได้รับความปลอดภัย จึงได้มอบหมายให้สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง โดยเจ้าพนักงานปกครองแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว ใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวการพูดคุยกับผู้ให้เช่า และทำการจองห้องพักจำนวน 2 ห้อง คือ ห้องหมายเลข 1001 และหมายเลข 914 ในอาคารคอนโดมิเนียมที่ได้รับร้องเรียน เป็นเวลา 1 คืน คือ วันที่ 5 มี.ค.68 ในราคาห้องละ 82.40 USD และได้ให้สายลับเข้าไปติดต่อเพื่อขอเข้าพักในเวลา 14.00 น. ตามที่ได้จองไว้ โดยมีผู้มาแสดงตัวนำคีย์การ์ดมามอบให้ และพาสายลับไปเปิดห้อง เมื่อสายลับได้เข้าพักแล้ว พบว่าสภาพห้องพักมีลักษณะเหมือนห้องพักของโรงแรมทั่วไปทุกประการ จึงถือว่าครบองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
จากนั้น อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญชาศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน พร้อมด้วยพนักงานฝ่ายปกครอง จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ โดยได้พบกุญแจห้องพักหมายเลขอื่นอีก จำนวน 3 ห้อง ในกระเป๋าของผู้พาสายลับไปเปิดห้องพัก จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องพักและผู้เกี่ยวข้อง ในความผิดฐานประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่มีใบอนุญาต
ขณะเดียวกัน นายรัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบสถานที่พักที่ให้บริการห้องพักรายวัน ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ห้วยขวาง-สุทธิสาร พบสถานที่พักรายวันไม่มีใบอนุญาตประกอบโรงแรม จำนวน 3 แห่ง โดยแห่งแรก เปิดให้บริการห้องพักรายเดือน -รายวัน จำนวน 53 ห้อง, ส่วนแห่งที่สอง มีห้องพักจำนวน 120 ห้อง เปิดให้บริการห้องพักรายเดือน - รายวัน จำนวน 40 ห้อง และ และแห่งที่ สาม เปิดให้บริการห้องพักรายเดือน - รายวันมีห้องพักจำนวน 98 ห้อง จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบ จับกุม และร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินคดีต่อไป
“การนำห้องชุดมาปล่อยเช่ารายวันลักษณะดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงแรมพ.ศ. 2547 มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ และกรมการปกครองยังได้สืบทราบว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่นำห้องชุดปล่อยเช่ารายวันบางราย มีกลุ่มนายทุนต่างชาติมาถือครองหรือใช้ระบบ Nominee ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและอยู่ระหว่างทำการสืบสวนขยายผลต่อไป” อธิบดีกรมการปกครอง ระบุ
นายไชยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำความผิดกฎหมาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้กำชับให้กรมการปกครอง เร่งประชาสัมพันธ์และสร้างความรับรู้กับผู้ให้บริการห้องพักในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมอย่างเคร่งครัด ตลอดจนนิติบุคคลอาคารชุดได้สอดส่องดูแลลูกบ้านไม่ให้มีการกระทำความผิดลักลอบปล่อยเช่าคอนโดรายวัน โดยขณะนี้กรมการปกครองอยู่ระหว่างทำการศึกษาและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับการสภาวการณ์ปัจจุบันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดในลักษณะการนำอาคารชุดในคอนโด หรือห้องพักที่ไม่ใช่โรงแรมหรือไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายโรงแรม มาเปิดให้เช่าในลักษณะเป็นรายวันเฉกเช่นเดียวกับโรงแรม สามารถแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือแจ้งไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมกรมการปกครอง และศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยได้ทุกวัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี