ตำรวจตรังบูรณาการจู่โจมบุกจับ ‘ไอ้ต๊ะ’ เครือข่าย ‘ไอ้จริง สันติสุข’ นักค้ายานรกรายใหญ่ได้คาบ้านพักน้องเขยกลางหมู่บ้านการเคหะ ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ หลังถูกจ้างแลกค่ายาให้ลงมือก่อเหตุยิงลูกซอง 5 นัดถล่มบ้านทวงค่ายาของลูกหนี้ที่ติดค้างอยู่ 7 หมื่นบาท คมกระสุนดันพลาด สลดเจาะร่างปู่วัย 82 ปีดับรับกรรมแทนหลานทาสยา ขณะเดียวกัน ตร.ยังรวบเด็กวัย 16 ปีได้อีกรายหลังถูก ‘ไอ้ต๊ะ’ จ้าง 5 พันบาท ให้ขับรถและถือปืน เตรียมขยายผลผู้บงการรายใหญ่
วันที่ 6 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการและสั่งการโดย พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ตรัง ชุดปราบปรามและขยายผลยาเสพติด ภ.จว.ตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.9 ตำรวจกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.9 ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร ภาค 9 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง และชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง
ร่วมกันจับกุมตัว นายชัชฤทธิ์ แก้วอินทร์ หรือต๊ะ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.ตรัง ที่ 80/2568 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2568 ฐานความผิด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน, ร่วมพกพาอาวุธปืน ,ยิงปืนโดยใช้เหตุ และได้ร่วมกันแจ้งข้อกล่าวหา นายปรเมศวร์ หรือคิม (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี ได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 54/38 ถนนบางรักซอย 1 ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ในฐานความผิด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน , ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน , ร่วมกันพกพาอาวุธปืน
สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 03.20 น. วันที่ 1 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยาวชนิดบรรจุ 5 นัด ยิงถล่มบ้านเลขที่ 24 หมู่ 5 ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง จำนวนทั้งหมด 5 นัด ส่งผลทำให้กลุ่มกระสุนเจาะเข้าเต็มประตูบ้าน และคมกระสุนยังไปถูก นายระเบียบ กำเนิด อายุ 82 ปี เจ้าของบ้าน เข้าที่คิ้วซ้าย 1 นัด หน้าอกขวา 1 นัด และไหล่ขวา 1 นัด ขณะเปิดประตูบ้านออกมาพอดี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่ รพ.ศูนย์ตรัง ในเวลาต่อมา โดยในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนลูกซองจำนวน 5 ปลอก ห่างออกมาจากบ้านประมาณ 15 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า มูลเหตุมาจากปัญหาความขัดแย้งเรื่องยาเสพติดของ นายศิริศักดิ์ กำเนิด หรือปอน อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของผู้เสียชีวิต ที่ขณะนั้นอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังเดียวกัน แต่คมกระสุนกลับไปถูกนายระเบียบ ผู้เป็นปู่เสียชีวิต ขณะกำลังเปิดประตูบ้านออกมาพอดี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวคนร้าย
จนกระทั่งวันที่ 4 มี.ค.68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าค้นบ้านเลขที่ 54/38 ถนนบางรักซอย 1 ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง พบอาวุธปืนลูกซองยาว สีดำ จำนวน 1 กระบอกที่ใช้ในการลงมือก่อเหตุ พันด้วยผ้าขาวม้า ซุกซ่อนอยู่ภายในป่าหลังบ้าน หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ 1 ใบที่ใช้สวมก่อเหตุ ปลอกกระสุนปืนลูกซองผ่านการใช้งานแล้ว 1 ปลอก และ รถ จยย.ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมส สีดำ ทะเบียน 1 กข 435 ตรัง ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการก่อเหตุ พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา นายปรเมศวร์ หรือคิม (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นผู้ร่วมในการก่อเหตุครั้งนี้ได้ที่บ้านหลังดังกล่าวอีกด้วย
ต่อมาวันนี้ 6 มี.ค.68 ได้ขยายผลโดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายชัชฤทธิ์ หรือต๊ะ มือยิง ได้หลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเลขที่ 40/558 หมู่บ้านการเคหะตรัง หมู่ 1 ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของน้องเขย จึงได้อาศัยอำนาจบุกเข้าไปภายในบ้าน พบผู้ก่อเหตุหลบซ่อนตัวอยู่กับนายสมประสงค์ ทองอร่าม หรือแบงค์ ซึ่งเป็นน้องเขย จึงได้แสดงหมายจับและจับกุมในทันที ตรวจค้นภายในบ้านพบยาบ้า จำนวน 20 เม็ด และยังพบอาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ COLT พร้อมแม็กกาซีนอีก 1 กระบอก และเครื่องกระสุน พกอยู่สะเอวข้างขวาของ นายสมประสงค์ หรือแบงค์ พร้อมทั้งทำการตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาและน้องเขยพบผลเป็นบวกฉี่ม่วง จึงได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับทั้งคู่ ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียด เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ
แนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า นายศิริศักดิ์ กำเนิด หรือปอน อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของผู้เสียชีวิต ได้ค้างค่ายาเสพติดของ นายสันติสุข เพชรสวัสดิ์ หรือจริง อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ลำดับต้นๆ เป็นที่ต้องการตัวของตำรวจ และมีหมายจับติดตัวนับ 10 หมาย โดยขณะนี้หลบหนีอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยนายศิริศักดิ์ หรือปอน ค้างค่ายาเสพติดอยู่ประมาณ 70,000 บาท ทำให้นายสันติสุข หรือจริง สั่งการให้ นายชัชฤทธิ์ หรือต๊ะ (มือยิง) ที่ค้างค่ายาเสพติดของ นายสันติสุข หรือจริง อยู่ประมาณ 30,000 บาท
โดยให้ไปลงมือยิงถล่มบ้าน นายศิริศักดิ์ หรือปอน เพื่อทวงค่ายาเสพติดที่ติดอยู่ ซึ่งมีเงินค่าจ้างให้จำนวน 50,000 บาท โดยมีเครือข่ายนักค้าเสพติดติด นำเอาอาวุธปืนที่จะใช้สำหรับลงมือก่อเหตุมาซุกซ่อนไว้สถานที่ที่มีการนัดหมายกันไว้ ต่อมา นายชัชฤทธิ์ หรือต๊ะ (มือยิง) ได้จ้างนายปรเมศวร์ หรือคิม (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี เพื่อให้เป็นผู้ขับรถและถืออาวุธปืนให้ ในจำนวนเงิน 5,000 บาท กระทั่งก่อเหตุดังกล่าวตามคลิปภาพวงจรปิดที่เป็นพยานหลักฐาน แต่ปรากฏว่าคมกระสุนกลับไปถูก นายระเบียบ อายุ 82 ปี ปู่ของนายศิริศักดิ์ หรือปอน ที่ไม่เกี่ยวข้องจนเสียชีวิต
โดยภายหลังจากก่อเหตุ นายสันติสุข หรือจริง ได้ให้ค่าจ้าง นายชัชฤทธิ์ หรือต๊ะ (มือยิง) ในจำนวน 20,000 บาท ตามที่ตกลงกันในจำนวน 50,000 บาท โดยหักเป็นค่ายาเสพติดที่ติดค้างอยู่จำนวน 30,000 บาทไป ต่อมานายชัชฤทธิ์ หรือต๊ะ ได้จ่ายค่าจ้างนายปรเมศวร์ หรือคิม อายุ 16 ปี ในจำนวน 5,000 บาทตามที่ตกลงกัน ส่วนเงินค่าจ้างอีกจำนวน 15,000 บาท ที่ยังคงเหลืออยู่ ได้นำไปซื้ออาวุธปืนพกสั้น ชนิดลูกโม่ ขนาด .38 ให้กับน้องเขยในราคา 15,000 บาท โดยที่นายนายชัชฤทธิ์ หรือต๊ะ (มือยิง) ได้หลบหนีไปหลบซ่อนอยู่จังหวัดข้างเคียง ก่อนที่จะกลับมาซ่อนตัวในพื้นที่เพื่อรอเวลาหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด จึงเชื่อได้ว่ายังหลบหนีอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ก่อนจะเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้ยังมีพยานหลักฐานซึ่งเป็นกล้องวงจรปิดในช่วงเกิดเหตุมีเสียงการยิงอาวุธปืนลูกซองรัวติดต่อกันจำนวน 5 นัดซ้อน ก่อนที่ นายชัชฤทธิ์ หรือต๊ะ (มือยิง) และนายปรเมศวร์ หรือคิม อายุ 16 ปี จะใช้รถ จยย. ซูซูกิ รุ่นสแมส สีดำ ทะเบียน 1 กข 435 ตรัง ที่ตรวจยึดได้ในการหลบหนี รวมถึงกล้องวงจรปิดเส้นทางการหลบหนี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหารายนี้และบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและ พรบ.อาวุธปืน ก่อนจะนำตัวมาบันทึกจับกุม ที่ กก.สส.ภ.จว.ตรัง แล้วนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งจะขยายผลถึงเครือข่ายยาเสพติดที่เกี่ยวข้องมารับผิดตามกฏหมายต่อไป.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี