ชาวนาที่บุรีรัมย์สวนไอเดีย "รมว.พาณิชย์" หนุนการปลูกกล้วยส่งญี่ปุ่น ระบุอีสานแล้งต่างจากภาคกลางเป็นไปไม่ได้แค่นาข้าวยังเจอปัญหาภัยแล้งแทบเอาตัวไม่รอด ยกเว้นพัฒนาแหล่งน้ำให้เพียงพอ

วันที่ 7 มี.ค.68 กรณีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบกระทู้ของนายณรงเดช อุฬารกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาราคาข้าวและการส่งเสริมรายได้ให้กับเกษตรกรไทย โดย รมว.พาณิชย์ ได้ตอบกระทู้ถึงการแก้ไขแนวทางหลายข้อ เช่น การขยายตลาดข้าว ผลักดันการส่งออกข้าวไปจีนให้เพิ่มขึ้น พร้อมเร่งเจรจาในตลาด แอฟริกาและอินโดนีเซีย ซึ่งเชื่อว่าจะกลับมาซื้อข้าวไทย รวมถึงแนวทางกระจายผลผลิตข้าวผ่านโมเดิร์นเทรด และผลิตข้าวถุงเพื่อดึงซัพพลายออกจากตลาด และเชื่อว่าจะช่วยให้ราคาข้าวไม่ตกต่ำคาดว่าผลผลิตข้าวจะเริ่มเข้าสู่ตลาดมากขึ้นช่วงกลางเดือน มี.ค.โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกล้วย แทนการปลูกนาข้าว เพราะตลาดญี่ปุ่นมีความต้องการสูงถึง 1 ล้านตันต่อปี แต่ไทยสามารถส่งออกได้เพียง 2,000 - 3,000 ตัน จากโควตาทั้งหมด 8,000 ตัน 

ล่าสุดเกษตรกรที่ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกกล้วยแทนนาข้าวว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้เกษตรกรหันมาปลูกกล้วย พื้นที่และแหล่งน้ำจะเอื้ออำนวยหรือไม่ โดยนางศิริวรรณ วงศ์ศรี อายุ 62 ปี อยู่บ้านหนองหว้าปีะชาสรร ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เกษตรกรชาวนา กล่าวว่า การพูดทำได้แต่ภาคปฏิบัติทำไม่ได้แน่นอน เพราะภาคอีสานเป็นพื้นที่ของตำนานแห่งความแห้งแล้ง แค่ทำนาปียังต้องลุ้นว่าฝนจะตกต้องตามฤดูกาลหรือไม่ หากเอากล้วยมาปลูกจะเอาน้ำที่ไหนมารดต้นกล้วย ยกเว้นรัฐบาลมาสนับสนุนหาแหล่งน้ำให้เพียงพอ ถ้าจะปลูกหัวไร่ปลายนาเอาไว้กินพอได้ แต่ถ้าจะปลูกเชิงพาณิชย์ส่วนตัวมองว่าเป็นไปไม่ได้