ครอบครัวส่งร่าง“อดีตผกก.โจ้” ไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมชี้ปมพิรุธทำติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ลั่นยังไม่เผาศพจนกว่าคดีจะสิ้นสุด

เมื่อเวลา 13.10 น.วันที่ 8 มีนาคม จ้าหน้าที่เรือนจำกลางคลองเปรม ได้นำร่างของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ส่งไปชันสูตรพลิกศพที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม  โดย น.ส.ธนัญญา น้องสาว อดีตผกก.โจ้ และทราย แฟนสาว ได้ย้ำการติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของ อดีต ผกก.โจ้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ถูกผู้คุมรายหนึ่งกลั่นแกล้ง และทำร้ายร่างกายต่อยที่ท้อง 2 ครั้งเมื่อวันพุธที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา จนต่อมาวันที่ 13 ม.ค.ทนายเข้าเยี่ยม จึงทราบว่า ผกก.โจ้ถูกแยกขังเดี่ยว โดยผู้คุมรายหนึ่งทำหนังสืออ้างว่าขัดคำสั่ง กระด้างกระเดื่อง อีกทั้ง อดีตผกก.โจ้ เคยแจ้งผู้คุมว่าเหม็นบุหรี่จากห้องข้างๆ ผู้คุมก็ได้ให้นักโทษคนนั้นไปสูบที่อื่น จากนั้นก็ถูกผู้คุมและนักโทษคนนี้รังแกมาโดยตลอด มีการเรียกไปต่อว่าพูดจารุนแรงแบบหยาบๆ และมีการขู่ทำร้ายร่างกาย

น้องสาว อดีตผกก.โจ้ ยังระบุว่า จากนั้น อดีตผกก.โจ้ ได้มอบอำนาจให้ญาติไปแจ้งความที่เคยถูกต่อย 2 ครั้ง เพราะต้องการต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองบ้าง หลังแจ้งความทางตำรวจยังไม่ได้มีการสอบปากคำ เพราะทางราชทัณฑ์ไม่อนุญาตให้ตำรวจเข้าไปสอบ ทั้งที่มีผลการตรวจร่างกายชัดเจน แต่ถ้าเป็นนักโทษคนอื่น ตำรวจก็สามารถเข้าไปสอบปากคำได้ตามปกติ จึงมองว่าเรื่องนี้ไม่ยุติธรรม และในทุกครั้งที่ญาติเข้าไปเยี่ยม สภาพร่างกายของ ผกก.โจ้ ทรุดโทรม การถูกขังในห้องเดี่ยวไม่ได้รับสารอาหารตามโภชนาการที่ถูกต้อง และทาง ผกก.โจ้ กินเผ็ดไม่ได้ ญาติจึงมีการร้องขอนมกับขนมปังให้ แต่กลับไม่ได้รับอนุญาต

"เมื่อวานมีเพื่อนที่เป็นตำรวจเข้าไปเยี่ยมพร้อมกับแฟนของ ผกก.โจ้ เล่าให้ฟังว่า ผกก.โจ้ยังพูดถึงเรื่องอนาคตว่า ถ้าออกไปจะมาทำอะไร ทำธุรกิจอะไรดี นั่งนับวันว่าอีกกี่ปีจะได้ออก แล้วก็ยังพูดอยู่เลยว่าอาทิตย์หน้าเจอกัน และทิ้งท้ายไว้ว่า “เขาจะสู้” ซึ่งดูไม่มีวี่แววของการที่จะฆ่าตัวตาย ตอนนี้ตนติดใจเพราะไปสืบรู้มาว่ามีนักโทษที่โดนกลั่นแกล้งแบบนี้เหมือนกัน และเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายอย่างน้อย 1 คน ซึ่งไม่ทราบว่าฆ่าตัวตายเองหรือถูกจัดฉากฆ่า แต่ทางผู้คุมคนนั้นก็ได้ออกมาโต้ว่า นักโทษอาจมีความเครียดในเรื่องอื่นๆ ไม่เกี่ยวกับตน แต่นักโทษในแดนเดียวกันจะรู้ว่าการฆ่าตัวตายนั้นเกิดจากอะไร"น้องสาว อดีต ผกก.โจ้ ระบุ

สำหรับญาติยังติดใจตรงที่ไม่มีใครพยายามช่วย ผกก.โจ้ หรือพาเขาไปที่โรงพยาบาล เมื่อคืนมีสายจาก จนท.โทรมาหาตนเวลาประมาณ 5 ทุ่ม – เที่ยงคืน ว่าเกิดเหตุขึ้นและขอแสดงความเสียใจ ตนจึงถามว่า ผกก.โจ้อยู่ที่ไหน จนท.ก็บอกว่าอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่กับหมอ แต่ไม่สามารถให้ไปดูได้เนื่องจากเป็นกฎ ให้รอมาตอนเช้า แต่พอวันนี้ได้ดูกล้องวงจรปิด กลับไม่มีการช่วยเหลือใดๆ ไม่มีการพาออกจากห้องขัง ซึ่งมันขัดจากที่ จนท.พูด เพราะว่า ผกก.โจ้ เสียชีวิตตั้งแต่ 20.30 น.หรืออาจจะก่อนหน้านั้น และยังตรวจพบรอยที่ข้อมือ เป็นรอยแดงกลมๆ และมีเลือดที่พื้นเล็กน้อย ในห้องมีผ้าเช็ดตัวอีก 1 ผืน จึงอยากได้ความจริงถึงการเสียชีวิต

น้องสาวของ ผกก.โจ้ ยังผยอีกว่า ตอนที่มีการแจ้งความ มีผู้ใหญ่ในราชทัณฑ์พยายามติดต่อเพื่อจะพูดคุยกับตนและแม่มาตลอดในเรื่องของการถอนแจ้งความ มีครั้งหนึ่งตนไปเยี่ยม อดีตผกก.โจ้ ผู้ใหญ่ท่านนี้ก็ได้มาคุยว่าขอให้ตนไปถอนแจ้งความเพื่อแลกกับการไม่ขังเดี่ยวอดีต ผกก.โจ้ แต่ตอนนั้นตนยังไม่ได้ตอบอะไรเพราะว่าเข้าไปข้างในเพียงคนเดียว จึงบอกกับผู้ใหญ่ท่านนั้นไปว่าจะขอปรึกษากับแม่ก่อน ในส่วนนี้ตนไม่มีหลักฐานอะไรเพราะตอนเข้าไปข้างในมีการเก็บโทรศัพท์และกระเป๋า ส่วนการชันสูตรพลิกศพต้องใช้เวลา 1-2 วัน จึงจะนำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ ทางญาติได้ปรึกษากันแล้วว่าจะจัดงานศพแต่จะยังไม่เผาจนกว่าคดีจะสิ้นสุด