งวงช้างถล่ม‘ชะอำ’
หลังคาปลิวว่อน
เตือนพายุฤดูร้อน
ซัดเหนือ-กลาง-ใต้
พายุงวงช้างถล่มชะอำ พัดหลังคาบ้านปลิวว่อน เสียหายอื้อ กรมอุตุฯเตือนรับมือ “พายุฤดูร้อน” ภาคเหนือภาคกลาง และภาคใต้ตอนบน ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงบางแห่ง ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือยังน่าเป็นห่วงมีไฟลุกไหม้ลามหลายจุดบนภูเขาสูงชัน ต้องระดมอากาศยานช่วยดับไฟอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 8 มีนาคม 2568 ได้เกิดฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงในพื้นที่ หมู่บ้านหนองโพ, หมู่บ้านหนองคาง ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และมีเกิดพายุงวงช้างขนาดใหญ่ตามมา พัดหลังคาบ้าน ป้ายโฆษณา ปลิวว่อนไปในอากาศ ก่อนที่จะตกลงมาใส่บ้านเรือนของพี่น้องประชาชนในละแวกใกล้เคียงได้รับความเสียหายไปหลาย 10 หลังคาเรือน โดยลมพายุดังกล่าวยังส่งผลให้ต้นไม้ล้มหักโค่นอีกหลายแห่งอีกด้วย แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
ต่อมา นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบวาตภัยในเบื้องต้น พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนรวมถึงร้านค้า ได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน โดยจะส่งทีมเจ้าหน้าที่ฯ เข้าดำเนินการสำรวจมูลค่าความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
นางสมคิด พวงบุปผาบีรุน อายุ 61 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 1214/5 หมู่บ้านหนองโพ ที่ได้รับผลกระทบ ก่อนเกิดเหตุนั้นในพื้นที่ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีลมพายุขนาดใหญ่พัดมาอย่างแรง พัดเอาหลังคาบ้านตนและบ้านของลูกสาวปลิวเสียหายทั้งแถบ นอนไม่ได้ ตั้งแต่ตนมาพักอาศัย
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาเผยบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นอากาศจะคลายความร้อนลง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน
สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณภาคเหนือตอนบนอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง ส่วนภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกอยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง เนื่องจากมีฝนตกในบางพื้นที่
ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันประจำวันของศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าอย่างต่อเนื่อง พบว่า วันนี้จุดความร้อนในภาคเหนือลดลงอย่างมาก แต่ยังคงมีไฟป่าไหม้ลุกลามหลายจุดบนภูเขาสูงชันต่อเนื่องมานานหลายวัน และยังไม่สามารถควบคุมไฟได้หมด ส่งผลให้วันนี้ยังคงต้องระดมอากาศยานช่วยดับไฟป่าต่อเนื่อง
โดยเฮลิคอปเตอร์ Bell 407 ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร สนับสนุนการดับไฟป่าในจังหวัดลำพูน โดยช่วงเช้าเข้าพื้นที่ตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา และช่วงบ่ายปฏิบัติงานที่ตำบลแม่ตื่น อำเภอลี้
ส่วนอากาศยาน BT-67 ของกองทัพอากาศ ช่วยสนับสนุนการดับไฟป่าจากพื้นที่สูง ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ตำบลบ้านนา อำเภอสามเงา จังหวัดตาก
สำหรับจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเช้านี้เกิดจุดความร้อน 100 จุด เกิดในจังหวัดตากมากที่สุด 29 จุด รองลงมาคือจังหวัดลำพูน 18 จุด และจังหวัดแม่ฮ่องสอน 14 จุด
ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ปฏิบัติหน้าที่ดับไฟจากจุดความร้อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี