‘อนุกรรมการฯ’ร่วมสังเกตการณ์ ชันสูตรพลิกศพ‘อดีต ผกก.โจ้’ เตรียมประชุม ยันพร้อมให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียหาย
9 มีนาคม 2568 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี บรรยากาศช่วงเช้าที่ผ่านมา มีรายงานว่าครอบครัวของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผกก.โจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ จำเลยในคดีฆาตกรรมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จะเดินทางมารับศพอดีตผกก.โจ้ ซึ่งมีรายงานว่าทางครอบครัวจะเดินทางมาในเวลา 10.00 น.
จากการสังเกตการณ์ในช่วงเช้า พบว่า มีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรพลิกศพอดีตผกก.โจ้ ก่อนเวลาที่ญาติแจ้งว่าจะเดินทางมา ในเวลาต่อมา บรรดาอนุกรรมการฯได้เดินออกมาจากอาคาร เพื่อไปประชุมสรุปผลที่อาคาร 2 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ร.ต.อ.ดร.โชคชัย สิทธิผลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะรองประธานอนุกรรมการฯ เปิดเผยกับสื่อมวลชน ว่า เบื้องต้นการผ่าชันสูตรพลิกศพอดีตผกก.โจ้ นั้น เริ่มต้นในเวลา 09.00 น.
ในขณะเดียวกัน วันนี้ทางอนุกรรมการจะมีการประชุมเพื่อหารือในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีที่อดีตผกก.โจ้ ได้มอบหมายให้ทนายความไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่เจ้าหน้าที่ควบคุมเรือนจำทำร้ายร่างกายว่าจะเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายและซ้อมทรมานหรือไม่ ก่อนจะวางแนวทางว่าหลังจากนี้จะดำเนินการกำกับดูแลการสอบสวนอย่างไร
“แต่แนวทางเบื้องต้น จะให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เป็นผู้ดำเนินการและมีเจ้าหน้าที่อัยการเข้าไปติดตามกำกับดูแลการสอบสวน หากพบว่ามีการทำความผิดที่เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”
ส่วนประเด็นที่ก่อนหน้านี้ ทางพนักงานสอบสวนจะเข้าไปสอบสวนกรณีดังกล่าว แต่ทางเรือนจำไม่อนุญาตให้เข้าไปในการสอบสวน จะมีการหารือในการประชุมในวันนี้ด้วย ยืนยันว่าคณะอนุกรรมการฯจะดำเนินการติดตามผลเพื่อเยียวยาและให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียหายอย่างแน่นอน
สำหรับกรณีการเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้ นั้น เมื่อได้ผลชันสูตรแล้ว ทางพนักงานอัยการจะทำสำนวนการเสียชีวิตและนำเสนอต่อศาล เพื่อให้ศาลเปิดการไต่สวนการเสียชีวิตของ อดีตผกก.โจ้ ต่อไป
ต่อมาเวลา 09.10 น. คณะอนุกรรมการฯได้เดินทางมาประชุมร่วมกัน โดยมี ผศ.นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่ระบุกับสื่อมวลชนว่า จะออกมาให้ข้อมูลหลังจากประชุมแล้วเสร็จ
สำหรับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย โดยมีองค์คณะได้แก่
1.อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หรือผู้แทน ประธานอนุกรรมการ
2.อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หรือผู้แทน รองประธานอนุกรรมการ
3.ผู้ช่วยศาสตราจารย์รณกรณ์ บุญมี อนุกรรมการ
4.นายสมชาย หอมลออ อนุกรรมการ
5.ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมที่รับผิดชอบท้องที่ที่เกิดเหตุ อนุกรรมการ
6.ผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อนุกรรมการ
7.ผู้แทนกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อนุกรรมการ
8.ผู้แทนกรมการปกครอง อนุกรรมการ
9.ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ อนุกรรมการ
10.ผู้แทนสภาทนายความ อนุกรรมการ
11.ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย อนุกรรมการและเลขานุการ
12.ผู้อำนวยการกองนิติวิทยาศาสตร์บริการ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อนุกรรมการและเลขานุการร่วม
13.เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายที่ได้รับมอบหมาย อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
คณะอนุกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
1.พิจารณากลั่นกรองเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ติดตาม และตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำทรมาน การกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือการกระทำให้บุคคลสูญหาย รวมทั้งกรณีผู้ถูกควบคุมตัวถึงแก่ความตาย
2.แสวงหาข้อมูล ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน หรือเชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น หรือให้จัดส่งเอกสารหรือพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ให้คณะอนุกรรมการฯ
3.ดำเนินการ มอบหมาย หรือประสานบุคคลหรือหน่วยงานเพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ
4.ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการฯ มอบหมาย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี