9 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระธาตุศรีคุณ ตั้งอยู่ที่บ้านนาแกน้อย หมู่ 3 ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม เป็น 1 ใน 8 พระธาตุประจำวันเกิด คือ 1.พระธาตุพนม (อาทิตย์) 2.พระธาตุเรณู (จันทร์) 3.พระธาตุศรีคุณ (อังคาร) 4.พระธาตุมหาชัย (พุธ) 5.พระธาตุมรุกขนคร (พุธ กลางคืน) 6.พระธาตุประสิทธิ์ (พฤหัสบดี) 7.พระธาตุท่าอุเทน (ศุกร์) และ 8.พระธาตุนคร (เสาร์) โดยจะมีงานนมัสการพระธาตุทั้ง 8 ประจำทุกปี ในห้วงเดือนสาม,สี่ และ เดือนห้า ตามปฏิทินจันทรคติไทย โดยใช้วิถีของดวงจันทร์ที่โคจรรอบโลก เพื่อบอกข้างขึ้นข้างแรม บอกเดือนมี 12 เดือน ได้แก่ เดือนอ้าย เดือนยี่ เดือนสาม เดือนสี่ เดือนห้า เดือนหก เดือนเจ็ด เดือนแปด เดือนเก้า เดือนสิบ เดือนสิบเอ็ด เดือนสิบสอง
เริ่มตั้งแต่ บุญเดือนสามหรือบุญข้าวจี่ งานนมัสการพระธาตุพนม ถือเป็นเจดีย์องค์ปฐมแห่งภาคอีสาน จากนั้นก็จะมีงานนมัสการพระธาตุองค์อื่น ๆ มากที่สุดคือบุญเดือนสี่ (บุญเผวส) ได้แก่ พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประสิทธิ์ พระธาตุเรณู พระธาตุมหาชัย และพระธาตุศรีคุณ ส่วนบุญเดือนห้าก็เป็นงานนมัสการพระธาตุนคร ถือเป็นเดือนปิดท้าย
สำหรับพระธาตุศรีคุณ กำหนดจัดงานนมัสการในวันที่ 12-15 มีนาคม 68 (ขึ้น 14 ค่ำ-แรม 2 ค่ำ เดือน 4) ใกล้เคียงกันเป็นโบสถ์หรืออุโบสถที่มีความเข้มขลังมาก มีใบเสมาหินปักอยู่รอบโบสถ์ในลักษณะการยึดคติตามทิศทั้งแปด จำนวน 11 ใบ และมี 2 แบบคือ แบบที่มีลวดลายสลักและแบบเรียบ เสมาหินแบบสลักนั้นลวดลายลักษณะเป็นภาพสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนาเช่น สถูป หม้อปุรณฏะ ลายกลีบบัว ลายคั่นลูกประคำ ซึ่งจัดอยู่ในสมัยทวารวดี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 14-16 คือประมาณพันกว่าปีล่วงมาแล้ว และรูปปั้นพญานาค 9 เศียรที่หน้าโบสถ์
นอกจากนี้ มีพระนอนปางไสยาสน์ พระประจำวันของคนเกิดวันอังคาร ตั้งไว้ในศาลาการเปรียญ มีชื่อว่าพระพุทธเจ้าใหญ่องค์ต้องแสนสุข ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากต้นกระท้อน หรือชาวอีสานเรียกว่า ต้นหมากต้อง มีอายุเกือบ 200 ปี ลำต้นใหญ่สูงเกือบ 10 เมตร วงรอบประมาณ 3 เมตร ถือเป็นไม้มงคลตามความเชื่อ ที่เติบโตอยู่คู่กับวัดธาตุศรีคุณมาแต่อดีต แต่เมื่อปี 2559 ช่วงฤดูฝน ได้หักโค่นล้มลง พระครูบวรโพธิวัฒน์ อายุ 60 ปี เจ้าคณะอำเภอนาแก เจ้าอาวาสวัดธาตุศรีคุณ และ พระครูใบฎีกาศิริชัย ถิรสุทโธ อายุ 30 ปี พระเลขาเจ้าอาวาสวัด เกิดความเสียดาย เพราะเป็นต้นไม้ที่เกิดมากับวัด จึงได้ปรึกษาญาติโยม ร่วมกันนำช่างแกะสลักไม้มาแกะสลักเป็นพระนอนทั้งลำต้น ความสูงประมาณ 1 เมตร ยาว 3 เมตร เนื้อไม้มีความละเอียดสวยงาม เป็นการสร้างคุณค่าทางจิตใจ และสร้างจิตสำนึก ในเรื่องการส่งเสริมทะนุบำรุงพระศาสนา อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม
ประวัติวัดธาตุศรีคุณ เดิมเป็นวัดร้าง สร้างมาแต่สมัยโบราณ ชื่ออะไรไม่ปรากฏ ถูกค้นพบเมื่อประมาณ พ.ศ.2340-2360 โดยคณะผู้อพยพที่เข้ามาอยู่ในตำบลนาแกรุ่นแรก ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นชาวผู้ไทวัง และ ผู้ไทกะโป ที่อพยพหนีภัยสงครามมาจากประเทศลาว จากบ้านกวนกุ กวนงัว เมืองก่องแก้วมหาชัย ผู้นำคนรุ่นแรกที่อพยพเข้ามานั้นได้แก่ นายโสมแผ้ว นายอ้อน และนายจ่า ได้เดินสำรวจที่ทั้งหมู่บ้าน ได้พบเจดีย์เก่ากลางป่ามีขนาดฐานกว้าง 12 เมตร ก่อด้วยอิฐถือปูน เจดีย์มีลักษณะเอียงไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ และตรงกลางเจดีย์จะมีโคลนตมเกาะอยู่ มีรูปทรงคล้ายกับพระธาตุพนม
ในบริเวณเดียวกันนั้นได้พบหอคุณ (ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง) ซึ่งทำด้วยท่อนซุงไม้เนื้อแข็งขนาดใหญ่อยู่ในบริเวณเดียวกัน เมื่อสำรวจไปรอบ ๆ ชัยภูมิเหมาะที่จะตั้งบ้านเรือนอยู่ จึงได้อพยพผู้คนมาสร้างที่อยู่อาศัย ถากถางต้นไม้ทำไร่ทำนา และบูรณะวัดขึ้นได้ตั้งชื่อว่า วัดธาตุศรีคุณ ซึ่งคำเหล่านี้นำมาจากสิ่งสำคัญที่คณะสำรวจค้นพบ คำว่าธาตุมาจากเจดีย์ คนโบราณเรียกว่าธาตุ คำว่าศรีมาจากคำว่าสี หมายถึงการที่ช้างสีแก้คันบริเวณข้าง คำว่าคุณมาจากสิ่งที่พบเห็นถึงหอคุณ เมื่อเอาคำเหล่านั้นมารวมกันเข้าจึงกลายเป็น " วัดธาตุศรีคุณ "หมายถึงวัดที่มีเจดีย์อันเป็นศรีสง่าและมีพระคุณต่อศาสนา
ครั้นต่อมาเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2490 ข้าหลวงวิทย์ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และนายอำเภอสิทธิ์ ณ นครพนม ได้อัญเชิญอัฐิของพระอรหันต์ ซึ่งนำมาจากประเทศอินเดียรวม 3 พระองค์ คือ พระโมคัลลานะ พระสารีบุตร และพระกัจจายะ เพื่อมาให้ชาวนาแกได้สักการะบูชาแล้วจึงได้มีโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์ องค์พระธาตุศรีคุณขึ้นมาใหม่เมื่อ พ.ศ.2497 ชาวนาร่วมกับเจ้านายทางเมืองเวียงจันทน์ประเทศสาว เป็นเจ้าภาพร่วมกัน เริ่มแรกได้ขุดรอบฐานเจดีย์องค์เก่าแล้วสร้างเจดีย์ใหม่ครอบฐานเจดีย์เดิม
ในช่วงที่บูรณะนั้นได้ขุดพบของสำคัญคือ พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปหิน และพระพุทธรูปเนื้อผงเป็นจำนวนมาก และได้พบแก้วสีนวนขนาดเท่าไข่เป็ด ซึ่งผู้คนสมัยก่อนมักจะเห็นในวันขึ้นหรือแรม 14-15 ค่ำ เสด็จไปมาระหว่างดอนสักกับวันธาตุศรีคุณ สิ่งของมีค่าเหล่านี้ เมื่อสร้างพระธาตุองค์ใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้นำมาบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ รวมทั้งอัฐิธาตุของพระอรหันต์ทั้ง 3 องค์ด้วย ความศักดิ์สิทธิ์พระธาตุศรีคุณ ชาวอำเภอนาแกเคารพนับถือเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันอังคาร เชื่อกันว่าผู้ใดได้มานมัสการจะมีโชคลาภทวีคูณเจริญด้วยสติปัญญา มีอานุภาพมาก และเจริญด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ทุกประการ
ทั้งนี้ พระมหาโมคคัลลานะ เป็นพระเถระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า เป็นพระอสีติมหาสาวกผู้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้มีฤทธิ์มาก คู่กับพระสารีบุตร ผู้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวา ปรินิพพานวันแรม 15 ค่ำ เดือน 12 หลังจากพระสารีบุตรนิพพานได้ 15 วัน สถานที่ปรินิพพานกาฬศิลาแห่งมคธชนบท
ส่วนพระสารีบุตร เพระภิกษุผู้เป็นอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นเลิศกว่าพระภิกษุทั้งปวงในด้านสติปัญญา นอกจากนี้พระสารีบุตรยังมีคุณธรรมในด้านความกตัญญู และการบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่พุทธศาสนาอีกด้วย จึงมีคำยกย่องว่าเป็นธรรมเสนาบดี (แม่ทัพธรรม) คู่กับพระพุทธเจ้าที่เป็นธรรมราชา พระสารีบุตรเกิดเมื่อใดไม่ปรากฏ แต่นิพพานเมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนสิบสอง ก่อนพระพุทธเจ้าปรินิพพาน
พระมหากัจจายนะ หรือพระสังกัจจายน์ เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในพระอสีติมหาสาวกของพระพุทธเจ้า จากที่ท่านมีรูปลักษณ์คล้ายพระพุทธเจ้ามาก ภิกษุรูปอื่นมักจะพากันเข้าใจผิดว่าเป็นพระพุทธเจ้า ท่านจึงเนรมิตกายให้อ้วนเตี้ย ลงพุง แต่ศาสนิกชนกลับนำรูปท่านไปสร้างเพื่อสักการะบูชา เพราะเชื่อว่ารูปร่างอ้วนของท่าน แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ ท่านจึงเป็นพระอรหันต์ที่มีชื่อทางให้โชคลาภ ความร่ำรวย สติปัญญา และเมตตามหานิยม
.025
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี