เจอ‘กระบะ’ต้องสงสัย คนร้ายใช้ก่อเหตุบึ้มหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 9 มีนาคม 2568 พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 (มทภ.4) / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 บินด่วนลงพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประชุมร่วม 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ปกครอง ติดตามสถานการณ์ หลังเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลายจุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 มี.ค.68) โดยมี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) , ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส , ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือที่ 33 หน่วยกำลัง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ร่วมประชุม สรุปสถานการณ์และรายงานผลกระทบ พร้อมหารือแนวทางการปรับแผนการดูแลพื้นที่อย่างเข้มข้น
ภายหลังได้รับฟังสรุปสถานการณ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งทบทวนแผนการปฏิบัติ เน้นย้ำแผนรักษาความปลอดภัยเขตเมือง สถานที่ราชการเป็นสำคัญ เพราะจากพฤติการณ์ของกลุ่มเหตุรุนแรง พบว่า มีการวางแผนเตรียมการมาอย่างดี มีกองกำลังและอาวุธพร้อมครบมือ โดยก่อเหตุอย่างอุอาจไม่เกรงกลัวและคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน แม้จะเป็นช่วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของพี่น้องชาวไทยมุสลิม โดยจากนี้ให้ผู้บังคับหน่วยกำชับและแจ้งเตือนหน่วยให้ชัดเจน ให้ลงให้ถึงผู้ปฏิบัติ และให้มีการปรับแผนการปฏิบัติงาน ยกระดับให้มีความรัดกุม รอบคอบ ไม่ประมาท และเสริมการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ และสิ่งสาธารณูปโภค จุดล่อแหลมต่างๆ รวมถึงการดูแลเส้นทางหลักเส้นทางรอง และให้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงเครือข่ายประชาชนช่วยสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ และเมื่อพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองโดยด่วนทันทีเพื่อเป็นการป้องกันการเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
จากการลงพื้นที่เกิดเหตุ ณ ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก พบร่องรอย อาคาร สถานที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งชุดพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่เก็บวัตถุพยาน เพื่อนำมาขยายผลสืบสวนสอบสวน ค้นหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายโดยเร็ว ในส่วนพื้นที่ใกล้เคียงพบว่ามีพี่น้องประชาชนพ่อค้าแม่ค้า ยังคงเปิดร้านเพื่อขายของตามปกติ แต่ต้องยอมรับว่ารู้สึกตกใจและกังวลเรื่องความปลอดภัยเช่นกัน ส่วนบรรยากาศโดยรอบมีการปิดกั้นเส้นทาง เพื่อต้องการทำให้พื้นที่มีความปลอดภัย
ในส่วนรถที่ก่อเหตุ แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถซื้อมาจากเต็นท์นอกพื้นที่ และมีการโอนลอย ซึ่งตอนนี้รู้แล้วว่าใครเป็นของ จะเร่งดำเนินการขยายผลไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุต่อไป
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า พบรถกระบะ อีซูซู สีบรอนซ์เงิน คาดว่าเป็นต้องสงสัย จากการก่อเหตุที่ อ.สุไหงโก-ลก เข้ามาจอดทิ้งไว้บริเวณสวนปาล์มบ้านกูวา ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส โดยหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงได้เข้าปิดกั้นเส้นทาง และเข้าตรวจสอบแล้ว ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี