เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2568 ที่ตึกนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ รถมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำร่าง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ มาที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาฯ แล้ว โดยมี น.ส.จันทา ผู้เป็นมารดา และ น.ส.สิภชา ซึ่งเป็นแฟนสาว ของผู้กำกับโจ้ นั่งรถมาด้วย โดยเมื่อมาถึง ผู้เป็นแม่ได้จุดธูป 1 ดอก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำร่างลงมาจากรถ หลังจากนั้นนำร่างเข้าไปยังห้องเพื่อรอชันสูตร
น.ส.สิภชา เผยว่า ที่ผ่านมาตนรู้ว่าพี่โจ้เป็นทุกข์มากๆ ชีวิตที่อยู่เรือนจำนั้น เขาถูกกลั่นแกล้งและถูกทำร้ายร่างกาย โดยหลังเกิดเรื่อง ตนได้ดูข่าวคร่าวๆ แล้ว ยอมรับว่ารู้สึกเหมือนทางเรือนจำฯ จะออกมาบอกว่าพี่โจ้มีความต้องการจะอยู่ขังเดี่ยวเอง แต่ตนและครอบครัวยืนยันได้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง โดยในวันนี้ที่เราออกมาร้องเรียนและต่อสู้ ก็เพื่อต้องการจะสื่อสารให้ทุกคนรู้ว่า เราพยายามจะเอาเขาออกมาจากการขังเดี่ยวตลอด ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้มีความผิด เขาถูกกล่าวหาว่ากระด้างกระเดื่อง แม้ว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเลยก็ตาม
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาทางครอบครัวได้พยายามยื่นเรื่องเพื่อช่วยเหลือพี่โจ้มานานแล้ว แม้กระทั่งไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจเข้าไปสอบปากคำที่พี่โจ้ถูกทำร้ายร่างกายในเรือนจำ แต่ก็ยังทำไม่ได้ ทางผู้บัญชาการเรือนจำฯ ก็ยังไม่อนุญาตให้เข้าไป ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งทางเรือนจำให้เหตุผลว่า "จะแจ้งความผู้คุมของเขา เขาจะต้องทราบเรื่องก่อน เพราะมันเป็นสิทธิที่เขาต้องอนุญาต"
น.ส.สิภชา ยังบอกอีกว่า ตนเชื่อว่าการตายครั้งนี้ พี่โจ้น่าจะถูกกดดัน เพราะเขาพยายามที่จะสื่อสารกับเราว่าเขาถูกกลั่นแกล้ง ทำร้าย เราถึงพยายามช่วยเหลือ
น.ส.สิภชา กล่าวถึงผู้กำกับโจ้ ว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ผ่านมา 2 เดือน ไม่มีวันไหนที่ครอบครัวไม่เต็มที่ ไม่ว่าสิ่งที่ตนจะทำในวันนี้จะสามารถช่วยพี่โจ้ได้หรือไม่ ไม่ว่าจะทวงความยุติธรรมได้หรือไม่ ตนกับครอบครัวก็จะทำเต็มที่จริงๆ และยังเชื่อว่าถึงแม้ว่าทางเรือนจำฯ จะพยายามบิดเบือนความจริง เปลี่ยนแปลง หรือปกปิด หรือช่วยเหลือใครใดๆ ก็แล้วแต่ แต่ตนก็ยังเชื่อมั่นในรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เชื่อในคุ้มครองสิทธิฯต่างๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือเรา เพราะว่าเราถูกรังแกจริงๆ
"ฝากถึงผู้คุมคนที่ทำร้ายผู้กำกับโจ้ด้วยว่า "พี่โจ้ทำผิดด้วยความประมาททำให้คนอื่นถึงแก่ชีวิต พี่โจ้ก็ต้องรับโทษ แต่ท่านทำร้ายร่างกายคนโดยไม่มีเหตุจำเป็น ท่านกดดัน กลั่นแกล้ง ดูถูก เหยียดหยาม ท่านก็ต้องได้รับโทษเหมือนกัน" น.ส.สิภชา กล่าวอ้าง
ส่วนสาเหตุที่วันนี้ทางครอบครัวนำร่างผู้กำกับโจ้มาชันสูตรรอบ 2 นั้น น.ส.สิภชา กล่าวยืนยันว่า "อยากจะทำทุกอย่างให้ได้มากที่สุด และดีที่สุด เพราะถือเป็นสิ่งสุดท้ายเขาอยากจะให้ทำ นั่นก็คือ ทวงคืนความยุติธรรมให้เขา"
ขณะที่ น.ส.จันทา ผู้เป็นมารดา บอกว่า ที่ผ่านมาแม่ได้ยื่นเอกสาร 2 ฉบับ ให้กับทางผู้บัญชาการเรือนจำฯ คนเก่า แต่ก็เงียบ คนใหม่ก็ยื่นไปอีกเรื่องก็เงียบ และยังมีการเรียกให้เราไปตกลงกับเขาเพื่อให้ถอนแจ้งความ ซึ่งเรายืนยันไม่ถอน แต่มันจะเอาหลักฐานอะไรมาสู้เขาได้ เขาก็ต้องปกป้องคนในบ้านของเขา ที่ผ่านมา แม่เองก็สุดช้ำใจ รับรู้มาโดยตลอดในสิ่งที่ลูกชายโดนรังแก ยอมรับว่าสงสารลูกมากที่สุด
ส่วนคลิปวงจรปิดที่กรมราชทัณฑ์ปล่อยออกมานั้น น.ส.จันทา ผู้เป็นมารดา บอกว่า ก็ยังแคลงใจตั้งแต่การที่เขาถูกทำร้าย ทำไมเขาถึงไม่พาไปหาหมอ พร้อมยอมรับว่าสงสัยเรื่องผ้าขนหนูที่มีความยาวแค่นั้นด้วย จะเอาไปผูกคอตัวเองได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม สำหรับในวันพรุ่งนี้ (10 มี.ค.) หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการชันสูตรพลิกศพผู้กำกับโจ้ รอบ 2 แล้ว ทางครอบครัวจะเดินทางมารับศพในช่วงเวลา 15.00 น.ก่อนจะรับศพไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน โดยจะสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 7 คืน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี