รองผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยให้น้ำหนักการเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้ จากการผูกคอ ไม่ใช่รัดคอ แจ้งญาติรอผลตรวจอย่างละเอียดอีก 2-4 สัปดาห์ ด้านคณะอนุกรรมการฯ ร่วมถกหาข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิต โดยญาติอดีตผกก.โจ้เข้าร่วมสังเกตการณ์ขณะที่ตร.เร่งรัด คดีอดีต ผกก.โจ้ถูกทำร้ายร่างกาย
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ จำเลยในคดีใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ และภายหลังอดีต ผกก.โจ้ ต้องโทษและถูกคุมตัวในเรือนจำกลางคลองเปรม ได้ก่อเหตุใช้ผ้าขนหนูผูกคอเสียชีวิตในห้องขัง หมายเลข 50 ตึกนอน แดน 5 เรือนจำดังกล่าว เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ว่า ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานีได้มีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรพลิกศพ ผกก.โจ้ ก่อนเวลาที่ญาติแจ้งว่าจะเดินทางมาติดตามการพิสูจน์การเสียชีวิต
ร.ต.อ.ดร.โชคชัย สิทธิผลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะรองประธานอนุกรรมการฯ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เบื้องต้นการผ่าชันสูตรพลิกศพ ผกก.โจ้ จะเริ่มต้นในเวลา 09.00 น.ขณะเดียวกัน ทางอนุกรรม การฯ จะประชุมเพื่อหารือในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีที่ อดีต ผกก.โจ้ มอบหมายให้ทนายความไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ที่เกี่ยวข้องกับการที่เจ้าหน้าที่ควบคุมเรือนจำทำร้ายร่างกายว่าจะเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายและซ้อมทรมานหรือไม่ ก่อนจะวางแนวทางว่าหลังจากนี้จะดำเนินการกำกับดูแลการสอบสวนอย่างไร
ร.ต.อ.ดร.โชคชัย กล่าวว่า แนวทางในเบื้องต้น จะให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เป็นผู้ดำเนินการและมีอัยการเข้าไปติดตามกำกับดูแลการสอบสวน ซึ่งหากพบว่ามีการทำความผิดที่เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนประเด็นที่ก่อนหน้านี้ ทางพนักงานสอบสวนจะเข้าไปสอบสวนกรณีดังกล่าว แต่ทางเรือนจำไม่อนุญาตให้เข้าไปก็จะมีการหารือในที่ประชุมด้วย ยืนยันว่า คณะอนุกรรมการฯจะดำเนินการติดตามผลเพื่อเยียวยาและให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียหายสำหรับกรณีการเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้นั้น เมื่อได้ผลชันสูตรแล้ว ทางอัยการจะทำสำนวนการเสียชีวิตและเสนอต่อศาล เพื่อให้ศาลเปิดการไต่สวนการเสียชีวิตของ อดีตผกก.โจ้ ต่อไป
ต่อมาเวลา 09.10น.คณะอนุกรรมการดังกล่าวได้เดินทางมาประชุมร่วมกัน โดยมี ผศ.นพ.วรวีร์ไวยวุฒิ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมประชุมด้วย
สำหรับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย โดยมีองค์คณะได้แก่ 1.อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หรือผู้แทน ประธานอนุกรรมการ 2.อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หรือผู้แทน รองประธานอนุกรรมการ 3.ผศ.รณกรณ์ บุญมี อนุกรรมการ 4.นายสมชาย หอมลออ อนุกรรมการ 5.ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมที่รับผิดชอบท้องที่ที่เกิดเหตุ อนุกรรมการ 6.ผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อนุกรรมการ 7.ผู้แทนกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อนุกรรมการ 8.ผู้แทนกรมการปกครอง อนุกรรมการ 9.ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ อนุกรรมการ 10.ผู้แทนสภาทนายความ อนุกรรมการ 11.ผอ.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย อนุกรรมการและเลขานุการ 12.ผอ.กองนิติวิทยาศาสตร์บริการ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อนุกรรมการและเลขานุการร่วม และ 13.เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายที่ได้รับมอบหมาย อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่ดังนี้ 1.พิจารณากลั่นกรองเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ติดตาม และตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำทรมาน การกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือการกระทำให้บุคคลสูญหาย รวมทั้งกรณีผู้ถูกควบคุมตัวถึงแก่ความตาย
2.แสวงหาข้อมูล ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน หรือเชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น หรือให้จัดส่งเอกสารหรือพยานหลักฐานต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ให้คณะอนุกรรมการฯ
3.ดำเนินการ มอบหมาย หรือประสานบุคคลหรือหน่วยงานเพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ และ 4.ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการฯ มอบหมาย
ผศ.นพ.วรวีร์กล่าวภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการฯ ว่าการผ่าชันสูตรเบื้องต้นเท่าที่ได้ตรวจบริเวณคอให้น้ำหนักการเสียชีวิตจากการผูกคอมากกว่า เพราะว่าในการทำร้ายอื่นๆเราไม่เห็นบาดแผลที่มีความชัดเจน ส่วนร่องรอยมีลักษณะของบาดแผลพบบริเวณร่างกายของสะโพกและหลังเป็นลักษณะของรอยช้ำเก่า ทางห้องตรวจปฏิบัติการจะตรวจเพิ่มเติมโดยตรวจเนื้อเยื่อ รวมทั้งเวลาบาดเจ็บเกิดขึ้นช่วงใด
ส่วนกรณีที่ญาติบอกว่าพบเลือดบริเวณที่เกิดเหตุเกิดจากสาเหตุอะไร ผศ.นพ.วรวีร์กล่าวว่า เลือดที่ออกตนยังไม่ได้ดูในที่เกิดเหตุ แต่ได้สอบถามคณะชันสูตรที่เกิดเหตุ เป็นไปได้ 2 กรณี โดยกรณีแรก สงสัยว่าจะเป็นเลือดที่ออกจากการเสียชีวิต โดยสันนิษฐานว่าเป็นของเหลวที่ออกจากร่างกายภายหลังเสียชีวิตแล้ว ส่วนเลือดออกพบว่าออกมาจากทางปากเท่านั้น และกรณีที่2จากบาดแผลแต่พบเพียงรอยถลอกที่แขนเท่านั้น คิดว่าไม่น่าใช่เลือดน่าจะเป็นสารของเหลวที่ออกมาร่างกายภายหลังเสียชีวิต
ทั้งนี้ ทราบว่าสำนักงานพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำไปเก็บตรวจแล้วเพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของหยดตรงนี้ ก็จะบอกได้ว่าเป็นหยดของเลือดหรือหยดของซีรั่มที่เกิดภายหลังการเสียชีวิต สำหรับแผลถลอกไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งจากการสอบถามพนักงานฝ่ายปกครองเห็นตั้งแต่ช่วงไปชันสูตรศพที่เกิดเหตุแล้ว เป็นบาดแผลใหม่ที่อาจจะเกิดระหว่างที่นำร่างลงมา อาจจะไปครูดกับของแข็งบางอย่างซึ่งเป็นสิ่งที่เจอช่วงชันสูตรศพ
ต่อข้อถามถึงการวินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอะไร รองผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่าเกิดจากการขาดอากาศจากการผูกคอส่วนจะเป็นการกระทำโดยผู้อื่นหรือไม่นั้น เราให้น้ำหนักเรื่องของการกระทำด้วยตนเองมากกว่า เพราะว่าลักษณะของแรงที่เกิดขึ้น ไม่พบรอยช้ำที่บริเวณเนื้อเยื่อบริเวณใต้ลำคอ ใต้รอยรั้ง ไม่พบรอยช้ำกล้ามเนื้อลำคอ ไม่พบการบาดเจ็บของกระดูก กล่องเสียง จึงให้เหตุผลว่าแรงที่มากระทำไม่เยอะมาก เข้าได้กับการใช้การผูกคอเสียชีวิต ไม่ใช่จากการรัดคอ
เมื่อถามว่าจากรอยบาดแผลบอกได้หรือไม่เข้ากับขนาดของผ้าขนหนู 30 -40 เซนติเมตรนั้น ผศ.นพ.วรวีร์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เห็นผ้าขนหนู เพียงแต่ว่ารอยแผลเข้ากันได้กับลักษณะของผ้าที่มีความกว้างค่อนข้างกว้างกว่าจะเป็นรอยเชือก กว้างประมาณ 1.4 เซนติเมตร สำหรับผ้าที่รัดคอ ได้ส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เป็นผู้พิสูจน์ อาจจะต้องใช้ข้อมูลทางนั้นในส่วนของผลการตรวจอย่างละเอียดได้แจ้งให้ญาติผู้เสียชีวิตทราบแล้วว่าจะมีการตรวจองค์ประกอบของเลือดและปัสสาวะเพื่อหาสารพิษและสารยาต่างๆด้วย ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ส่วนการตรวจอื่นๆนั้นญาติได้แจ้งว่าอดีต ผกก.โจ้มีอาการบาดเจ็บชายโครงเมื่อ2สัปดาห์ก่อน จึงได้ทำการCT scan ด้วย
ต่อมา มารดา น้องสาวและแฟนสาวของอดีต ผกก.โจ้ ได้เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อติดตามกรณีการพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิต ขณะที่นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่าได้มีเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนเข้ามาสังเกตการณ์ผ่าพิสูจน์ร่างอดีต ผกก.โจ้ ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ ในขณะนี้
ที่ สน.ประชาชื่น วันเดียวกัน พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเร่งรัดการทำคดีการเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้ โดย พล.ต.ต.เจษฎา กล่าวภายหลังการประชุม ว่าได้มีการติดตามเร่งรัดคดี ทั้งในส่วนของคดีที่อดีต ผกก.โจ้ เสียชีวิต และคดีการถูกทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นมีการเก็บพยานหลักฐานครบแล้ว รวมถึงกล้องวงจรปิดทั้งหมด หลังจากนี้จะตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียด โดยเฉพาะผ้าขนหนูที่อดีต ผกก.โจ้ใช้ก่อเหตุ ความยาวของผ้าตอนนี้ยังระบุไม่ได้ เนื่องจากพบว่าเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้ตัดออก เพื่อรีบช่วยเหลือและเข้าไปในห้องขังเดี่ยว
ผบก.น.2 กล่าวต่อว่า ส่วนคดีที่อดีต ผกก.โจ้ถูกทำร้ายร่างกาย และได้มอบอำนาจทนายความ เข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ภายหลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการมาตลอด และได้ข้อมูลความเห็นแพทย์ว่าอดีต ผกก.โจ้มีรอยฟกช้ำถูกทำร้ายร่างกายมาแล้ว แต่เบื้องต้นยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและยังไม่ได้สอบสวน รวมถึงยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร รวมทั้งยังไม่ได้สอบปากคำอดีต ผกก.โจ้ เพียงแต่เข้าไปพูดคุยเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากการเข้าไปสอบปากคำ ต้องมีขั้นตอนการเข้าไปในเรือนจำ แต่เมื่อประสานไปแล้ว ทางเรือนจำฯ แจ้งว่ามีความขัดข้องเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะดำเนินการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยอมรับว่าคดีนี้เมื่อผู้ร้องทุกข์เสียชีวิตไปแล้วทำให้การดำเนินการยากขึ้น แต่ก็อยู่ในวิสัยที่ทำได้ ส่วนประเด็นที่ญาติ ระบุว่ามีนักโทษอีก 5 คนที่ถูกผู้คุมคนเดียวกันทำร้าย เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบความผิดจะเร่งดำเนินการ ซึ่งทางตำรวจไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร พร้อมดำเนินการตามหลักวิทยาศาสตร์ และจะทำทุกอย่างให้โปร่งใสที่สุด
ด้าน นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของอดีต ผกก.โจ้ เปิดเผยว่า ทางครอบครัวของอดีต ผกก.โจ้จะส่งร่างอดีต ผกก.โจ้ไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณือีกรอบ โดยจะนำร่างออกจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ช่วงเวลา 14.00 น.วันเดียวกันนี้ เคลื่อนไปที่สถาบันนิติเวช รพ.จุฬาฯ เพื่อทำการผ่าชันสูตรเพื่อเป็นการเปรียบเทียบข้อมูล ทั้งนี้ ไม่ได้มีอะไรที่ขัดแย้งกับทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติ ธรรมแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการเปรียบเทียบข้อมูลจากทั้ง 2 แห่ง
ส่วนผลการผ่าชันสูตรที่ออกมาในเบื้องต้น ทางครอบครัวพอใจหรือไม่ นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า พอใจแต่ว่าต้องรอดูผลจากทางคุณหมออีกทีในส่วนของรายละเอียดต่างๆ สำหรับขนาดของผ้าที่ผูกคอเสียชีวิตนั้นทางญาติเห็นไม่ชัด เพราะว่ามีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้ ส่วนทางครอบครัวจะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของอดีตผกก.โจ้ อย่างไรบ้าง ทนายความ ระบุว่า ต้องดูข้อเท็จจริงในส่วนของพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ซึ่งกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ โดยจะขอรวบรวมข้อมูลก่อน
สำหรับกรณีที่ก่อนหน้านี้อดีต ผกก.โจ้ได้มอบหมายให้ไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น หลังจากถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีการอ้างว่าทางเรือนจำ ไม่ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริง แล้วถึงจะมีการพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยญาติได้ลงบันทึกประจำวันไว้กับทางตำรวจ ว่าญาติติดใจการเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้ เนื่องจากยังคาใจเรื่องมูลเหตุและแรงจูงใจ ก็ต้องให้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการต่อไปก่อน
ต่อข้อถามถึงกรณีอดีต ผกก.โจ้ ถูกขังเดี่ยว เป็นการร้องขอเอง หรือเป็นการถูกทำโทษ นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยืนยันได้ว่าเขาแจ้งมาตลอด ว่าต้งอการออกจากขังเดี่ยว ไม่ได้ต้องการเข้าไปอยู่ เพราะเขาขอที่จะออกอย่างเดียว ซึ่งได้แจ้งญาติกับทนายความว่าจะทำเรื่อง ที่ผ่านมาทราบว่าเป็นการทำโทษถูกขังเดี่ยวแยกควบคุมประมาณ 2 เดือนกว่า เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการสอบวินัยนักโทษอดีต ผกก.โจ้ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการไปแจ้งความที่สน.ประชาชื่น ว่าถูกทำร้ายร่างกาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี