สังคมเสื่อมหนัก พ่ออารมณ์เปลี่ยวอนาจารลูกแท้ๆ เสพยาจนหลอนคว้ามีดไล่ฟัน เหตุไม่ยอมให้หลับนอน ผงะเป็นคนต่างด้าวสวมบัตร ปชช. มีคำนำหน้าเป็นนางสาว

วันที่ 10 มีนาคม 2568 จากกรณี เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเมืองนครพนม ร่วมกับตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนครพนม เข้าควบคุมตัวนายแสง (นามสมมติ) อายุ 41 ปี ในไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่ง บริเวณสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) เนื่องจากนายแสงมีอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า โดยมีมีดยาวเป็นอาวุธ ก่อนจะจู่โจมควบคุมตัวไปตรวจหาสารเสพติด พบว่าฉี่เป็นสีม่วง ในเบื้องต้นได้นำส่ง พ.ต.ต.จำรัส ศรีหาตา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติด และก่อความวุ่นวาย เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา

ต่อมา  นางพร (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ได้พา ด.ญ.นก (นามสมมติ) ลูกสาวของนายแสงผู้ต้องหาเสพยาคลุ้มคลั่ง ไปขอความช่วยเหลือจากนายเสนอ พันแดง ผู้ใหญ่บ้านห้อม หมู่ 1 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม เนื่องจากถูกนายแสงพ่อแท้ๆข่มขืน ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 68  พร้อมข่มขู่จะฆ่ายกครัวและเผาบ้าน ซึ่งพนักงานสอบสวนฯ ได้มีหนังสือส่งตัว ด.ญ.นกไปตรวจร่างกายที่ รพ.นครพนม หาร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และผู้เสียหายได้แจ้งให้แพทย์ทราบว่า ประจำเดือนไม่มาหลายวันแล้ว แพทย์จึงให้นอนพักที่โรงพยาบาลก่อน เพื่อตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างละเอียด

ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายสหวิชาชีพ ได้ขอตัวด.ญ.นก จาก รพ.นครพนม เพื่อสอบปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดนครพนม  โดยนำรูปถ่ายของนายแสงผู้เป็นพ่อให้ดู ว่า ใช่คนนี้หรือไม่ที่ข่มขืน ซึ่ง ด.ญ.นกเห็นรูปถึงกับเบือนหน้าหนี พร้อมเล่าเรื่องราวที่พ่อแท้ๆประทับตราบาปแก่ตน ว่า จากที่ครอบครัวแตกแยกพ่อกับแม่มีลูกด้วยกัน 2 คน คือตนและน้องชาย จึงแบ่งลูกไปเลี้ยงฝั่งละคน โดยแม่ได้ไปมีสามีใหม่อยู่ จ.สงขลา ส่วนตนได้อยู่กับนางพรผู้เป็นน้าสาว เนื่องจากนายแสงถูกจับในข้อหาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ติดคุกประมาณ 9 ปีเศษ เพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 1 ปีเดียว ก็มาทำงานก่อสร้างทั่วไป โดยเอาตนที่เป็นลูกสาวไปเป็นเพื่อนด้วย อีกอย่างตนเองก็ไม่เรียนหนังหนังสือ จบแค่ชั้น ป.6 ก็ไม่ได้เรียนต่อเพราะไม่มีใครส่งเรียน

วันเกิดเหตุที่ถูกพ่อข่มขืน ขณะทำงานก่ออิฐฉาบปูนอยู่บ้านพักใกล้กับสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 3 คืนนั้นนายแสงนอนดูคลิปวิดีโอโป๊จนเกิดอารมณ์ ได้ใช้กำลังขืนใจจนสำเร็จความใคร่ พร้อมข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใครเด็ดขาด ตนต้องเก็บความขมขื่นไว้ในใจเพียงคนเดียว วันต่อมาก็ถูกพ่อล่วงละเมิดทางเพศอีก จนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พ่อก็ข่มขืนที่บ้านของน้าสาว รวมทั้งหมด 5 ครั้ง

กระทั่งวันที่ 8 มีนาคม 68 หลังพ่อพักกินข้าวเที่ยง จะเปิดดูคลิปโป๊แต่เข้าดูไม่ได้เพราะเน็ตช้า จึงออกปากขอมีเพศสัมพันธ์กับตนแต่ได้ปฏิเสธ พ่อโมโหจึงกระชากผมและจะทำร้ายร่างกาย  ตนจึงวิ่งหนีไปหลบใน รพ.จิตเวชฯ ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน พ่อยังไม่ละความพยายามคว้ามีดวิ่งไล่ฟันตนจึงไปขอความช่วยเหลือกับน้าสาว แจ้งเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ จากนั้นตนได้เปิดปากเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่โดนกระทำ น้าสาวทราบถึงกับช็อกและไปปรึกษากับผู้นำหมู่บ้าน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายแสงพ่อหื่นรายนี้ดังกล่าว

ทางด้านนายแสงหลังถูกลูกสาวแฉความชั่วร้าย ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่ได้ข่มขืนแต่อย่างใด และถูกญาติใส่ร้ายป้ายสี แต่จากพฤติกรรมของผู้ต้องหา ตั้งแต่ถูกจับในข้อหาเสพยาเสพติดแล้ว เจ้าหน้าที่ขอตรวจบัตรประชาชน ปรากฏว่านายแสงได้ยื่นบัตรประชาชนให้ดู แต่มีคำนำหน้าว่า นางสาววารินทร์  อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่จึงเค้นสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ ทราบว่าชื่อดังกล่าวหายไปจากระบบนานแล้ว คาดว่านายแสงสวมบัตรประชาชนคนอื่น อีกทั้งนางพรน้องสาวยืนยันว่าเป็นคนสัญชาติลาว และนายแสงพี่ชายอายุ 41 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่เพิ่มข้อหาปลอมแปลงเอกสาร คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย เสพยาเสพติด ก่อความวุ่นวาย และข้อหาพยายามกระทำชำเราเด็กอายุไม่ถึง 15 ปี ซึ่งหากได้ผลตรวจจากแพทย์ยืนยันก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม