"ทวี” ยัน ไม่ปกป้องคนผิด คดีอดีต ผกก.โจ้ หลังข้อมูลคลาดเคลื่อนหลุดบ่อยครั้ง ลั่น จะทำให้กระจ่าง ชี้ กฎหมายอยู่เหนือระเบียบราชทัณฑ์ ระบุ ยังไม่ย้าย ผบ.คุก ให้รอผลสอบสวน
วันที่ 11 มีนาคม 2568 เวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายไม่เชื่อว่าอดีตผู้กำกับโจ้ ฆ่าตัวตายในเรือนจำ และเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมนำภาพวงจรปิดฉบับเต็มมาเปิดเผย ว่า ตอนนี้ทราบว่าพนักงานสอบสวนเอาเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดไปแล้ว ซึ่งมีภาพวงจรปิดในเบื้องต้นให้กระบวนการสอบสวนดำเนินการ เนื่องจากเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ ส่วนรายละเอียดหากสื่อสงสัยก็ขอให้ราชทัณฑ์เปิดให้ดูทั้งหมดทุกแง่มุมดูได้ เพียงแต่ส่วนที่พนักงานสอบสวนยึดไปแล้ว อาจต้องประสานพนักงานสอบสวนเอง
นอกจากนี้ ตนได้สั่งให้อนุกรรมการกลั่นกรองการป้องกันและปราบปรามการซ้อมทรมานและการอุ้มหาย ไปตรวจสอบข้อมูล ทราบว่าขณะนี้มีการร้องไปที่อัยการและกระทรวงยุติธรรม เราก็จะให้ความเป็นธรรม และจะเร่งทำให้กระจ่างเร็วที่สุด โดยมีพยานหลักฐานชี้ชัดคือผลการชันสูตรพลิกศพของทั้ง 2 โรงพยาบาล ซึ่งจะมี 2 ส่วนคือ สาเหตุการเสียชีวิต และ ก่อนเสียชีวิตมีการทรมานหรือไม่ ในขณะที่กระทรวงยุติธรรมการจะไปดูเรื่องการบังคับบัญชา การบริหารภายใน และจะเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้กรมราชทัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการ มีหลายส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงเปิดโอกาสให้คนนอกด้วย
เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่ากระทรวงยุติธรรมไม่ได้ปกป้องบุคลากรและองค์กรของตัวเอง เนื่องจากการให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนเป็นรายวัน พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่คิดจะปกป้อง ในทางตรงข้ามอย่างช่วยกันตรวจสอบให้ความจริงปรากฏ อีกทางเราต้องการปฏิรูปกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว โดยเฉพาะเรือนจำคลองเปรม ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีผู้ต้องขังมากที่สุด ผรพมาณกว่า 6,000 คน
เมื่อถามว่า ผบ.เรือนจำ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่กรณีอดีตผู้กำกับโจ้ เนื่องจากญาติไปร้อง ป.ป.ช. จะต้องสั่งการให้ย้ายออกจากตำแหน่งก่อนหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่ในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องดู อีกทั้ง ผบ.เรือนจำ ก็เพิ่งมารับตำแหน่ง
เมื่อถามว่า ผบ.เรือนจำ ได้ชี้แจงหรือไม่ว่า เหตุใดหลังได้รับเรื่องร้องเรียนถึงไม่ได้ทำอะไรเลย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า รอให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการในการสอบสวน เราต้องฟังความทั้ง 2 ข้าง
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะลงพื้นที่เรือนจำในช่วงบ่ายวันนี้ พ.อ.ต.ทวี กล่าวว่า หากตนไม่ติดภารกิจ ครม. ก็จะไปร่วมด้วย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีสิ่งของที่ทางเรือนจำอนุญาตให้ผู้ต้องขังนำไปใช้ได้ โดยเฉพาะผ้าขนหนูที่อดีตผู้กำกับโจ้ใช้ ซึ่งแตกต่างจากเรือนจำอื่น ขึ้นอยู่กับหลักฐานในการซื้อ ว่าผ้าขนหนูที่กรมราชทัณฑ์แจกให้คนละ 1 ผืน ซึ่งรายละเอียดแต่ละเรือนจำก็ว่าไป แต่จะให้มีการสอบสวน ว่าเรือนจำไหนไม่แจก มีเหตุผลอะไร ของพร้อมยืนยันว่า ผ้าขนหนูเป็นของหลวง ไม่ใช่ของผู้ต้องขัง ซึ่งเรือนจำต้องดูแลทั้งเรื่องการกิน การอยู่ การนอน รวมถึงเสื้อผ้า ขณะเดียวกันย้ำว่า ผ้าขนหนูไม่ว่าจะเป็นแดนไหน ก็ต้องมีขนาดเดียวกัน แต่บางเรือนจำก็ไม่ให้มีขนาดที่ใหญ่เกินไป ขึ้นแยู่กับเหตุผลของแต่ละเรือนจำ ซี่งผ้าขนหนูที่มีขนาด 30-40 นิ้ว ทางเรือนจำเป็นคนซื้อให้
“ในแต่ละยุคก็มีการปรับเปลี่ยนขนาดของผ้าขนหนู แต่ปัจจุบันเป็นขนาดที่บอกไปเพราะเราจะมีการปฏิรูประบบอยู่แล้ว โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพ จะเหลือเพียงนักโทษระวาง (คดียังไม่ถึงที่สุด) ส่วนนักโทษเด็ดขาด ส่งไปที่เรือนจำคลองเปรม ให้แยกกันอยู่ชัดเจน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี ยังชี้แจงเพิ่มเติมกรณีนักโทษที่อยู่ข้างห้องอดีตผู้กำกับโจ้ โดยยอมรับว่า ข้อมูลที่ตนพูดไปวานนี้คลาดเคลื่อน ซึ่งในเรือนจำ มีนักโทษที่เป็น LGBT ประมาณ 88 คน แปลงเพศแล้ว 18 คน ซึ่งขณะนั้นตนยืนอยู่กับปลัดกระทรวงยุติธรรมได้ยินเสียงนักโทษห้องข้างๆ ไม่ค่อยชัดเจน ตนจึงสั่งการให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมไปพูดคุย เจตนาคือการหาพยานในที่เกิดเหตุ เพียงแต่ภาพที่เห็นเขาคล้ายผู้หญิง จึงเข้าใจคลาดเคลื่อน
“ผมได้คุยเอง และปลัดกระทรวงยุติธรรมก็คุยด้วย ซึ่งในห้องของอดีตผู้กำกับโจ้ อยู่ระหว่างการชันสูตรพลิกศพแต่แต่ข้างห้อง มีน้องคนนี้อยู่ผมจึงให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมไปสอบถามว่าเห็นหรือได้ยินเหตุการณ์หรือไม่ ส่วนตกใจหรือไม่ที่เห็นคนที่มีลักษณะคล้ายผู้หญิง แต่อยู่ในเรือนจำผู้ชาย ผมแค่มุ่งพาญาติของอดีตผู้กำกับโจ้ ไปดูการชันสูตรพลิกศพ เพียงแต่ห้องมันติดกัน และทางเรือนจำจะให้คนที่เป็น LGBT ที่แปลงเพศแล้ว จะให้นอนด้วยกัน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ตนขอให้ความมั่นใจกับครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้และสังคม ว่าจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง ตรงไปตรงมา เรือนจำไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร และเราต้องดูแลผู้ต้องขังทุกคน เพื่อให้เป็นสถานที่ฟื้นฟู ไม่ใช่สถานที่มาทรมานใคร และเป็นไปตามกฎระเบียบของเรือนจำ ใครทำผิดก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่า กฎระเบียบภายในเรือนจำต้องกวดขันหรือไม่ เพราะจุดเล็กๆคือการสูบยาเส้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อาจเป็นเพียงเสียงบอกเล่า ต้องรอให้คณะกรรมการตรวจสอบ
เมื่อถามว่า จะเรียกความเชื่อมั่นให้เรือนจำอย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา วันนี้สังคมอยากให้มีการสอบสวน เราก็ดำเนินการอยู่ อีกทั้งเรื่องของกฎหมายก็ให้ทางตำรวจดำเนินการ และทำให้รวดเร็ว ทั้งสาเหตุการตาย และมูลเหตุที่ทำให้เขาตาย เช่น หากเป็นการฆ่าตัวตาย อะไรเป็นมูลเหตุที่ทำให้เขาต้องทำอย่างนั้น และต้องดูว่าการปฎิบัติ ผิดกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการ 19 คน ว่าเรือนจำคลองเปรมมีอะไรต้องปรับปรุงหรือไม่
เมื่อถามว่า อยากให้ชี้แจงระเบียบของกระทรวงยุติธรรมที่ ผบ.เรือนจำ ได้กล่าวอ้างว่าไม่สามารถให้ตำรวจเข้าสอบสวน หลังได้รับการร้องเรียนอดีตผู้กำกับโจ้ถูกทำร้ายร่างกายได้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีระเบียบ คนจะเข้าราชทัณฑ์หากไม่มีหมายจำคุกก็เข้าไม่ได้ คนที่จะเข้าไปเยี่ยมก็ต้องมีการขออนุญาตจาก ผบ.เรือนจำ ก่อน ว่าเข้าไปทำหน้าที่อะไร ซึ่งยอมรับว่าการเข้าไปสอบสวนก็มีระเบียบ เพียงแต่การสอบสวนเป็นกฎหมายที่ใหญ่กว่ากฎหมายราชทัณฑ์ จะต้องให้ความร่วมมือ เพราะต้องสอบสวนโดยเร็ว
เมื่อถามว่า เพราะเหตุใด ผบ.เรือนจำ ถึงอ้างระเบียบของกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นคำกล่าวอ้าง รอให้คณะกรรมการตรวจสอบ จากนั้นก็จะพิจารณา ผบ.เรือนจำ ก็ใช้ระเบียบที่มีอยู่แต่โดยหลักการคนที่เสียหาย รัฐธรรมนูญคุ้มครอง วันนี้ไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย และใช้กฎหมายโดยหลักนิติธรรม
เมื่อถามถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดย้ายผู้คุมเรือนจำ และนักโทษคู่กรณี ของอดีตผู้กำกับโจ้ ล่าช้า พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นอำนาจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี