ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ “ม้าโทรจัน”  (CIB Trojan Horse) แฝงตัวเปิดบัญชีม้า ทลายคอกม้าและจับกุมเครือข่ายลักลอบพาบัญชีม้าข้ามแดนส่งแก๊งคอลเซนเตอร์

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี, พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์, พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ  รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.สัญญา นิลนพคุณ, พ.ต.ท.เสริมศักดิ์ น้อยหัวหาด,  พ.ต.ท.อิสรพงศ์ ทิพย์อาภากุล รอง ผกก.3 บก.ปอท. เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.เสริมศักดิ์ น้อยหัวหาด รอง ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.หญิง สุธัญดา เอมเอก  รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.ประดิษฐ์ สุวรรณดี, พ.ต.ท.ประทีป จันทร์เพชรบุรี, พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง, พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จอมเล็ก, พ.ต.ท.หญิง ภาพิมล ชัยขันธ์ สว.กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.ประมุข ภิรมย์เจียว,  ร.ต.อ.หญิง ศรุตา ขันธรูจี, ร.ต.ท.สุคนธ์ กองทอง รอง สว.กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.นันทณัฐ ปิณะวันนา,  ร.ต.อ.นนทนันท์ นวนงาม รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ร่วมกันจับกุม 1. นายสันติภาพฯ อายุ 28 ปี 2. นายนพดลฯ อายุ 31 ปี  3. นายรุ่งเรืองฯ อายุ 46 ปี 4. นายชำนาญฯ อายุ 39 ปี

ซึ่งต้องหาว่ากระทความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่าหรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”  สถานที่จับกุม บริเวณบ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี (ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 2.5 กิโลเมตร)

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง ได้มีนโยบายให้สายตรวจออนไลน์โดย กก.3 บก.ปอท. ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำความผิดกฎหมายในสื่อออนไลน์ทุกรูปแบบ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และทางสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีลักษณะพฤติกรรมการชักชวนให้บุคคลทั่วไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อนำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย เพื่อรับค่าตอบแทน 3,000-5,000 บาทต่อบัญชี และมีเงื่อนไขให้เดินทางไปที่ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินการสแกนใบหน้าก่อนใช้งานบัญชี โดยให้ติดต่อผ่านนายหน้าด้วยการพูดคุยผ่านแอปพลิเคชันไลน์

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงทำการแฝงตัวเป็นบัญชีม้าเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ต้องหา  ซึ่งมีการชักชวนให้เปิดบัญชีและเสนอค่าตอบแทน 20,000 บาท สำหรับการเปิด 5 บัญชี และได้นัดหมายให้มารับ เมื่อถึงเวลานัดหมายได้มีนายสันติภาพฯ ขับรถยนต์มารับบัญชีม้าที่จุดนัดหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สะกดรอยติดตามรถคันดังกล่าวไป  พบว่านายสันติภาพฯ ได้พาไปเปิดบัญชีธนาคารในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยมอบเงินให้บัญชีม้า 1,000 บาท เป็นค่าเปิดบัญชีธนาคาร คนละ 1 บัญชี และเมื่อเปิดบัญชีธนาคารเรียบร้อยแล้ว ได้ขับรถพาบัญชีม้าเดินทางต่อไปส่งให้นายนพดลฯ ซึ่งเป็นคนสั่งการ ที่บริเวณห้องแถวแห่งหนึ่ง ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี 

จากนั้น นายนพดลฯ ได้ขับรถพาบัญชีม้าไปส่งต่อให้กับนายรุ่งเรืองฯ และ นายชำนาญฯ คนที่จะพาบัญชีม้าข้ามแดนที่บริเวณบ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี (ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 2.5 กิโลเมตร) เพื่อพาบัญชีม้าข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ และขณะที่นายรุ่งเรืองฯ และ นายชำนาญฯ กำลังจะพาบัญชีม้าเพื่อไปข้ามพรหมแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหา ทั้ง 4 ราย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดี
ตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาทุกรายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ดังนี้

นายนพดลฯ รับว่าเป็นผู้สั่งการและเป็นคนติดต่อกับนายหน้าบัญชีม้าคนไทยฝั่งประเทศกัมพูชาผ่านทาง แอปพลิเคชันไลน์ เพื่อไปรับบัญชีม้าจากพื้นที่ต่างๆ ไปเปิดบัญชีธนาคารและพาข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ     โดยทำมาแล้วหลายครั้ง ได้ค่าตอบแทนรายละ 3,000 บาท จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ทั้งขบวนการในครั้งนี้ 

นายสันติภาพฯ รับว่าเป็นคนไปรับบัญชีม้าจากกรุงเทพมหานครและพาบัญชีม้าไปเปิดบัญชีที่ จ.ชลบุรี ก่อนมาส่งให้กับนายนพดลฯ ที่บริเวณ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จริง โดยได้รับค่าจ้าง 5,000 บาท และทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก

นายรุ่งเรืองฯ และ นายชำนาญฯ รับว่าเป็นคนพาบัญชีม้าข้ามแดน ตามคำสั่งของนายนพดลฯ โดยจะพาบัญชีม้าไปข้ามแดนบริเวณสวนลำไย โดยจะพาข้ามวันละ 1 รอบ ในเวลากลางคืน โดยจะต้องเดินเท้าเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่และไปส่งบริเวณริมคลองฝั่งไทยและให้บัญชีม้าเดินข้ามคลองซึ่งจะมีคนกัมพูชารอรับอยู่ โดยทำมาแล้ว 3 ครั้ง ได้รับค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท