ระทึกกลางดึก!! หนุ่มผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลในนครพนมกลายเป็นผู้ประสบภัย ทาสยาคลั่งทุบน่วมทั้งตัว อีกเคสแม่ติดกรงเหล็กขังตัวเอง หนีลูกชายทำร้ายขอเงินซื้อยาเสพไม่ได้
กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Nakhonchai Doungsron" โพสต์ข้อความว่า "สมเป็นนักรบขาวจริงๆ มรึงขึ้นมาก็ตีเอาตีเอา ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำพอลงเตียงก็ตีเอาแล้วคิดว่าผมเป็นอะไร และแล้วยังไม่พอยังพังห้องเข้าไปตีในห้องอีก มันก็เกินไปนะสำหรับคนไข้เสพยาบ้ามานี้" พร้อมภาพร่องรอยถูกทำร้ายทั้งมือ แขน หน้า และที่ศีรษะมีบาดแผลด้วย ทราบต่อมาว่าผู้บาดเจ็บชื่อนายนครชัย ดวงศร ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนครพนม
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลทราบว่าที่เกิดเหตุอยู่ที่ห้องอายุรกรรมชายชั้น 3 ซึ่งมีผู้ป่วยแน่นจนล้นออกมานอกห้อง เจ้าหน้าที่ต้องเอาเตียงมาเสริมไว้ที่หน้าลิฟท์ ส่วนนายนครชัย ผู้ช่วยพยาบาลคนเจ็บ ได้ออกเวรกลับบ้านไปแล้ว และตามระเบียบไม่สามารถให้รายละเอียดได้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้บริหาร
ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายสุริยา อายุ 40 ปี ชาว ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม นอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้ เจ้าหน้าที่ต้องล็อคกุญแจมือและมัดเท้าไว้ เนื่องจากเมื่อกลางดึกเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทุบทำลายข้าวของในโรงพยาบาลและไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่เวรบาดเจ็บ 2 คน ที่หนักสุดคือนายนครชัย เพราะเอาตัวเองบังไม่ให้คนไข้ทำร้ายผู้อื่น ต้องใช้เจ้าหน้าที่ถึง 5 คนถึงจะสยบความบ้าคลั่งของผู้ป่วยรายนี้ได้
สอบถามนางแต๋ว (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ภรรยาของนายสุริยาเล่าว่าสามีเสพทั้งยาบ้าและเหล้าจนหลอน พูดบ่นพึมพำคนเดียว ตนจึงแยกไปอยู่ที่อื่นปล่อยให้นายสุริยาอยู่กับพ่อแม่เขา ก่อนเกิดเหตุสามีไม่หลับไม่นอน และไม่ยอมพูดกับใคร จนคนในบ้านหวาดผวาแจ้งให้กู้ชีพ อบต.บ้านค้อมารับตัวไปพบแพทย์ที่ รพ.โพนสวรรค์ ก่อนจะส่งต่อมาที่โรงพยาบาล ช่วงกลางดึกสามีบอกอยากกลับบ้านแต่แพทย์ยังไม่อนุญาตต้องนอนดูอาการก่อน ทำให้นายสุริยาคลุ้มคลั่งลุกจากเตียงเข้าทุบตีเจ้าหน้าที่จนเลือดตกยางออก และยังเข้าไปทำลายข้าวของในห้องพักพยาบาล
ทั้งนี้ ในห้องอายุรกรรมชายส่วนใหญ่มีผู้ป่วย ที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ พยาบาลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งญาติคนไข้ต่างตกใจ บางคนพอลุกขึ้นไหวก็ลงจากเตียงไปหลบที่ระเบียง กว่าสยบความบ้าคลั่งของสามีได้ก็นานกว่า 10 นาที ยอมรับว่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูก อยากให้สามีกลับมาเป็นคนเดิมที่รักครอบครัว แต่หลังตกเป็นทาสยาเสพติดก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
นายไหล อายุ 64 ปี พ่อเลี้ยงของนายสุริยาเผยว่า ลูกเลี้ยงคนนี้ติดยาบ้ามาตั้งแต่อายุ 20 ปี ทั้งกินเหล้าและเสพ จนกลายเป็นคนป่วยจิต หากแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน คงอยู่ด้วยความหวาดระแวง อยากให้เอาตัวไปอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวช เพราะที่บ้านมีเด็กเล็กลูกหลายอยู่ด้วยกันหลายคน
ด้านผู้บริหารโรงพยาบาลหลังทราบว่าพนักงานเวรดึกถูกผู้ป่วยจิตทำร้ายได้เรียกประชุมด่วนเพื่อหามาตรการป้องกัน เพราะในแต่ละวันทางโรงพยาบาล จะรับผู้ป่วยลักษณะนี้ไม่เว้นวัน แต่ละเคสจะมาด้วยอาการคลุ้มคลั่งโวยวายในห้องฉุกเฉิน แต่ไม่ขอให้รายละเอียดแก่สื่อมวลชน เป็นการประชุมกันภายในเท่านั้น
นอกจากนี้ทราบเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันทางโรงพยาบาลติดลบจำนวน 40 ล้านบาท จึงมีขีดจำกัดในการใช้เงินงบประมาณ และก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุแพทย์ถูกผู้ป่วยจิตทำร้ายมาแล้ว ความปลอดภัยของแพทย์ พยาบาล รวมถึงบุคลากรแทบไม่มี ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขควรจะเหลียวมองผู้ใต้บังคับบัญชาตามโรงพยาบาลทั่วประเทศ ที่ต้องเสี่ยงในการดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวช ควรมีแบบแผนในการป้องกัน เพราะไม่ทราบว่าผู้ป่วยจะของขึ้นคลุ้มคลั่งตอนไหน
ล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หัสดี ทัดสา” ชาว อ.นาหว้า จ.นครพนม ลงคลิปวีดีโอพร้อมข้อความ “แม่ขังตัวเอง กลัวลูกทำร้าย ขอเงินไปเสพยา” ผู้ที่เข้าไปอ่านต่างแสดงความคิดเห็นในลักษณะเดียวกัน เป็นห่วงความปลอดภัยที่ต้องอยู่กับคนที่ป่วยจิตจากการตกเป็นทาสยาเสพติด แม้จะนำไปบำบัดก็หวนกลับมาเสพอีกเหมือนเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี