อลังการ! สมการรอคอย พบกับ “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23” ใหญ่ที่สุดในอาเซียน มาในธีม “ย ยักษ์ อ่านใหญ่” งานหนังสือครั้งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม พบกับ 7 โซนหนังสือดีที่น่าอ่าน ทั้งไทย และต่างประเทศ ให้เลือกช้อปอย่างจุใจกับ 1,200 บูธ จาก 400 สำนักพิมพ์ พร้อมขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 20,000 ตร.ม. จัดเต็มนิทรรศการ – กิจกรรมกว่า 100 อีเว้นท์ สำหรับบุ๊คเลิฟเวอร์ ที่สำคัญ “Bangkok Rights Fair 2025” งานเจรจาซื้อขายลิขสิทธิ์กับ 115 บริษัท จาก 14 ประเทศและเขตแดน ครั้งแรก! กับ PUBAT Café จิบกาแฟหอมกรุ่น จากร้านดัง, บริการนวดแผนไทย ช่วยผ่อนคลายนักช้อป ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5 - 8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 (53rd National Book Fair & 23rd Bangkok International Book Fair 2025) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568 ณ ฮอลล์ 5 - 8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งปีนี้มีความพิเศษสุด คือ การขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 ฮอลล์ เพิ่มเป็น 4 ฮอลล์ ส่งผลให้มีพื้นที่การจัดงานจากเดิม 15,000 ตร.ม. เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ตร.ม. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับนักอ่านที่เดินทางมาร่วมงานซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งจำนวนผู้ประกอบการสำนักพิมพ์และบริษัทต่าง ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศที่ต้องการเข้าร่วมงานที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
การจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 ในครั้งนี้ จึงยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 53 ปี และเป็นงานซื้อขายหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ภายใต้แนวคิดในธีม “ย ยักษ์ อ่านใหญ่” งานหนังสือครั้งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม ซึ่ง “ย ยักษ์” เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ อลังการ สะท้อนถึงการเติบโตของงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่เป็นมากกว่าการขายหนังสือ แต่ยังรวบรวมหนังสือดีหลากหลายประเภท ทั้งไทยและต่างประเทศ จากสำนักพิมพ์ชั้นนำ พร้อมเสริมทักษะสาระ ความรู้ ความบันเทิง มารวมไว้ในงาน นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
ภายในงาน แบ่งออกเป็น 7 โซน ประกอบด้วย 1. โซนหนังสือนิยายและวรรณกรรม 2. โซนหนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น (Book Wonderland) 3. โซนหนังสือเด็กและการศึกษา 4. โซนหนังสือทั่วไป 5. โซนหนังสือเก่า 6.โซนหนังสือต่างประเทศ และ 7. โซน Non – Book รวมหนังสือมากกว่า 2 ล้านเล่ม จาก 400 สำนักพิมพ์และร้านหนังสือชั้นนำรวม 1,200 บูธ พร้อมพื้นที่พิเศษ PUBAT Creative Zone ภายในงานยังมีนิทรรศการให้ชมกว่า 10 นิทรรศการ และกิจกรรมสร้างสรรค์อีกกว่า 100 กิจกรรม อาทิ
#ไฮไลท์ นิทรรศการและกิจกรรมประกอบไปด้วย
1. นิทรรศการเยี่ยมยักษ์ : การจำลองโต๊ะทำงานของยักษ์พิเภก พร้อมข้าวของเครื่องใช้ขนาด Oversized ที่เปิดให้นักอ่านเข้าไปเยี่ยมชม ขณะที่พี่ยักษ์กำลังนอนหลับ ซึ่งในนิทรรศการจะมีการจัดแนะนำหนังสือในหัวข้อ "หนังสือธรรมดา ๆ เล่มนั้น ที่เธอก็น่าจะลองอ่านนะ" ซึ่งเป็นหนังสือที่แนะนำโดยผู้อ่านทางบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นหนังสือธรรมดา ๆ แต่มีความพิเศษสุด
2. นิทรรศการแปลหนังสือไทย เพื่อเผยแพร่ไปยังต่างประเทศ : การแสดงหนังสือไทยที่ถูกคัดเลือกให้รับทุนสนับสนุนการแปลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเผยแพร่ไปยังต่างประเทศ จาก สศร. จำนวน 15 เล่ม ผ่านห้องลับในหนังสือกองยักษ์ที่พลาดไม่ได้ อาทิ จิ้งจกหางด้วน โดยฤทัย จงสฤษดิ์ จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA Shop), เที่ยวบ้านเพื่อนสนุกจัง โดยกฤษณะ กาญจนาภา, วชิราวรรณ ทับเสือ จากสำนักพิมพ์สานอักษร, วินาทีไร้น้ำหนัก โดยวุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ จากสำนักพิมพ์มติชน, กี่บาดโดยประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด จากสำนักพิมพ์คมบาง, ผ่านพบไม่ผูกพัน โดยเสกสรรค์ ประเสริฐกุล จากบริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด เป็นต้น
3. นิทรรศการ Book Power : การแสดงหนังสือที่ถูกแนะนำจากคนสำคัญของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ Soft Power ทั้งยังมีกิจกรรมเขียนหนังสือให้ยักษ์อ่าน เปิดให้ผู้ร่วมงานช่วยกันแต่งเติมเรื่องราวให้สอดคล้องกับคนที่เขียนประโยคก่อนหน้า, กิจกรรม สอยยักษ์ รับมิชชั่นจากฟ้า การสอยดาวจากต้นถั่วของแจ็ค เพื่อลุ้นรับภารกิจที่แนะนำให้ลองทำในงานหนังสือ หรือลุ้นรับของรางวัล โดยผู้ร่วมงานสามารถนำใบเสร็จที่ซื้อหนังสือครบ ทุก 500 บาท มาแสดงเพื่อร่วมกิจกรรมลุ้นสอยดาวได้ 1 ครั้ง
4. นิทรรศการ ๗๐ พรรษา ๗ พระราชนิพนธ์แปลทรงคุณค่าในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดย บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด
5. นิทรรศการวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2568 โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร์ และรัฐสภา
6. นิทรรศการหนังสือดีเด่น ประจำปี 2568 โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
7. นิทรรศการ Little Read Storyverse จักรวาลล้านเรื่องเล่า : จัดแสดงหนังสือภาพ มุมวาดเขียน และกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ จากเหล่านักอ่านที่พร้อมจะนำทุกคนออกเดินทางสู่ “จักรวาลล้านเรื่องเล่า” ดินแดนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแสนมหัศจรรย์ละลานล่องลอย นำมาซึ่งความสุข และเพลิดเพลินใจเมื่อได้อ่านและได้ฟัง
8. นิทรรศการ “หนึ่งอ่านล้านตื่น” โดย มูลนิธิหนึ่งอ่านล้านตื่น : พบกับ “ทุนหนังสือตรงใจ ”กิจกรรมมอบทุนจำนวน 10,000 บาท ให้กับโรงเรียนและสถานที่ขาดแคลนจำนวน 20 แห่ง มูลค่ารวม 200,000 บาท เพื่อให้นำไปเลือกซื้อหนังสือภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 ได้ด้วยตนเองตามที่ต้องการ, BookterflyEffect ปรากฏการณ์หนึ่งอ่าน ที่สามารถสร้างล้านการเปลี่ยนแปลง ให้แก่ผู้อ่านและสังคม พร้อมการแชร์ชื่อหนังสือของคนดังที่จะมาสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคม, Donation sale สนับสนุนให้นักอ่านได้เลือกซื้อหนังสือที่ต้องการเพื่อส่งมอบให้กับผู้รับได้อ่านแบบ One Stop Service, “Bookathon” การแข่งขันส่งเสริมการอ่านเสนอไอเดียเพื่อพลิกโฉมวงการหนังสือ การอบรมเวิร์คช็อป “Incubation ครั้งที่ 1” การเสวนา BooKATrend จับกระแสสังคมที่จะเปลี่ยนแปลงวงการหนังสือไทย, DesAI Thinking กระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และ Mentoring Session พบกับผู้เชี่ยวชาญที่จะเป็นพี่เลี้ยงแนะนำไอเดียอย่างใกล้ชิด, ABC Killer Pitching เทคนิคการนำเสนออย่างไรให้โดนใจผู้ฟัง เป็นต้น
9. กิจกรรม Author’s Salon : การเปิดพื้นที่ให้นักเขียนอิสระและนักเขียนทุกประเภท รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ได้มาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์การเขียนกับนักอ่าน ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และแรงบันดาลใจให้กับนักอ่าน รวมทั้งได้รับแนวคิดและข้อมูลที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ และเป็นพื้นที่ให้นักอ่านได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ และวัฒนธรรม
10. โครงการ Global Author Spotlight : จัดโครงการเชิญนักเขียนต่างประเทศ (Global Author Spotlight) เพื่อให้นักอ่านไทยได้พบปะและทำกิจกรรมร่วมกับนักเขียนที่มีผลงานโดดเด่นจากนานาชาติ โดยในปีนี้ มีนักเขียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ 6 ราย/หน่วยงาน ได้แก่
1. เอซรา คีริลล์ เออร์เกอร์ จากเยอรมัน ผู้เขียน Salaryman Unbound (เกมฆาตกร) 2. เมาริ กุนนัส จากฟินแลนด์ผู้เขียน Good Night Mr. Clutterbuck (ราตรีสวัสดิ์นะคุณปุ๊บปั๊บ), Santa and the Magic Drum (ซานตาคลอสกับกลองมนตรา) และอื่น ๆ 3. ทองใบ โพทิสาน ศิลปินดีเด่นสาขาวรรณกรรม นักประพันธ์รางวัลซีไรต์ ประธานสมาคมนักประพันธ์ลาว และ รศ.แสงฟ้า โหลานุพาบ นักประพันธ์รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง จากสปป.ลาว 4. สมาคมนักเขียนแห่งประเทศกัมพูชา 5. เดวิด ซิมส์ จากสกอตแลนด์ ผู้เขียน Soft City: Building Density for Everyday Life 6. เว็กซ์ คิงส์ จากอังกฤษ ผู้เขียน GOOD VIBES, GOOD LIFE ใช้คลื่นพลังบวกดึงดูดพลังสุข
11. โครงการ PUBAT Contest : พบกับ กิจกรรม “ย ยักษ์นักพรูฟ” การแข่งขันค้นหาคำไทย คำไหนผิด, “ย ยักษ์นักอ่าน” การแข่งขันทดสอบความรู้ของนักอ่าน ในหมวดหนังสือประเภทต่างๆ
ทั้งนี้นิทรรศการแปลหนังสือไทย นิทรรศการ Book Power นิทรรศการ Little Read Storyverse กิจกรรม Author’s Salon และกิจกรรม Global Author Spotlight จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ PUBAT และ THACCA ด้วยการสนับสนุนหลักจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
นายสุวิช กล่าวอีกว่า โดยกิจกรรมข้างต้น อีกหนึ่งกิจกรรมที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญคือ Bangkok Rights Fair 2025 งานจับคู่ธุรกิจเพื่อการซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระหว่างวันที่ 28 - 29 มีนาคม 2568 ณ ห้อง MR208 ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในครั้งนี้มีสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์เข้าร่วมกว่า 115 บริษัท จาก 14 ประเทศและเขตแดน อาทิ สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี ไต้หวัน พม่า ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย โดยภายในงานตั้งเป้าหมายที่จะมีการเจรจาการค้า (Business Matching) มากกว่า 200 คู่ คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายลิขสิทธิ์เกิดขึ้นในงานกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 68.5 ล้านบาท
“หลังประสบความสำเร็จจากการเจรจาธุรกิจ Bangkok Rights Fair 2024 ในครั้งก่อน ทำให้การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์จากหลายประเทศ ที่กำลังมองหาผลงานเขียนจากนักเขียนไทย โดยภายในงานนอกจากจะเปิดให้มีการพบปะระหว่างนักเขียนไทยกับสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์จากประเทศต่าง ๆ แล้ว สมาคมฯ ยังมีแผนลงนามข้อตกลงการแลกเปลี่ยนและร่วมพัฒนางานหนังสือ และงานซื้อขายแลกเปลี่ยนลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศกับองค์กรต่าง ๆ ได้แก่ 1. Taiwan Creative Content Agency (TAICCA) ข้อตกลงแลกเปลี่ยนการสนับสนุนทุนสำหรับเข้าร่วมงานซื้อขายลิขสิทธิ์ในงาน Taipei International Book Exhibition และ Bangkok Rights Fair 2. Kota Buku ข้อตกลงการร่วมพัฒนางานซื้อขายแลกเปลี่ยนลิขสิทธิ์ ระหว่าง Asian Rights Fair และ Bangkok Rights Fair อีกด้วย ขณะที่ภายในโซนต่างประเทศ ยังมีบูธจากต่างประเทศที่มานำเสนอหนังสือ ลิขสิทธิ์หนังสือ รวมถึงเผยแพร่วัฒนธรรมจาก อังกฤษ จีน เกาหลี อินเดีย อิหร่าน ไต้หวัน กัมพูชา และยูเครน ด้วย”
พิเศษสุด! ในปีนี้เอาใจสายคาเฟ่ “PUBAT Cafe” ครั้งแรกกับบูธจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟ จากร้านดัง ROWIE’S x PUBAT café มาพร้อมเมนูพิเศษ Exclusive เฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีพื้นที่พิเศษ โดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด มาเนรมิตพื้นที่ให้นั่งอ่านหนังสือแบบชิล ชิล หลังจากเดินช้อปจนจุใจ และยังมีบริการนวดแผนไทย โดยการสนับสนุนจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รวมทั้งยังมีไปรษณีย์ไทย มาเปิดให้บริการจัดส่งสินค้าให้ในราคาพิเศษอีกด้วย
สำหรับการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5 - 8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 1.3 ล้านคน มียอดขายกว่า 420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5 - 10%
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ ThaiBookFair
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี