"ทวี“สั่งย้ำกรมราชทัณฑ์ต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดคลี่ปมสงสัยการเสียชีวิตของ"อดีต ผกก.โจ้" ยอมรับการผูกคอตายในเรือนจำมีสถิติสูงสุด ระบุปีที่แล้วกว่า 30 ราย เผยให้รอผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการฯ คาดภายใน 17 มี.ค.นี้น่าจะมีความคืบหน้า ล่าสุด ตร.นำวงจรปิดฉบับเต็มไปตรวจสอบแล้ว ส่วนขนาดผ้าขนหนูพร้อมนำมาให้สื่อมวลชนดูได้ ไม่มีอะไรซับซ้อนเพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
วันที่ 11 มี.ค.68 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีครอบครัวของ"อดีตผู้กำกับโจ้" ไปยื่นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบการเสียชีวิตภายในเรือนจำคลองเปรมว่า เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้เร่งรัดให้อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เร่งจัดการประชุม แต่ก่อนที่จะมีการประชุมได้นั้น จะต้องมีการพิจารณาเรื่องข้อมูลรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งจะมีอยู่ 4 หน่วยงานที่มีอำนาจในการสอบสวนตามกฏหมายอุ้มหาย ได้แก่ อัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมการปกครอง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเราต้องการข้อมูลไปใช้ในการพิจารณา เพราะมีเรื่องของสิทธิการได้รับการเยียวยา เราจึงต้องใช้กฎหมายฉบับนี้ให้ความเป็นธรรมกับเขา พร้อมย้ำว่า คดีการเสียชีวิตของผู้กำกับโจ้ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงยุติธรรม ต้องร่วมกันทำไม่ว่าหน่วยงานใดทำสำนวนคดีก็ตาม
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีการเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดตัวเต็มได้เมื่อใดนั้น ทราบว่าทางตำรวจได้กล้องวงจรปิดไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ก็สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ หากสื่อมวลชนมีความสงสัยในประเด็นใดให้ถามได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์นี้เราก็รู้สึกเสียใจกับครอบครัวที่ต้องสูญเสียและเราไม่อยากช่วยเหลือใครทั้งสิ้น แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ปฏิบัติงาน แล้วต้องยอมรับว่าเหตุการณ์นี้ทั้งเจ้าหน้าที่ของเรือนจำและผู้ต้องขังต่างฝ่ายต่างอยู่กันลำบาก ทั้งนี้ เชื่อว่าโดยหลักแล้วผู้คุมไม่คิดร้ายกับผู้ต้องราชทัณฑ์สักคน เพราะเขาต้องอยู่กันเป็นครอบครัวอยู่แล้ว
ส่วนจะมีมาตรการใดที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกนั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า การเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติภายในเรือนจำ พบว่ามีสถิติการผูกคอตายมากที่สุด แต่สถิติปีนี้ถือว่าน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเพราะปีที่แล้วมีกว่า 30 ราย แต่อย่างไรแล้ว การเสียชีวิตภายในเรือนจำก็มีน้อยกว่าการเสียชีวิตข้างนอก
พ.ต.อ.ทวี ระบุอีกว่า สำหรับความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้นั้น คาดหวังว่าในวันที่ 17 มี.ค.นี้ จะได้รับรายงานความคืบหน้าและความชัดเจนเพิ่มขึ้น ส่วนจะมีเรื่องของการทำร้ายร่างกายผู้ต้องขังเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการได้ตรวจสอบก่อน
เมื่อถามว่าหากพบว่ามีการทำร้ายผู้ต้องขังจริง ฝ่ายใดจะเป็นคนแจ้งความผิดตามมาตรา 157 พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า อย่าเพิ่งตั้งสมมุติฐาน ขอให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการ แต่ยืนยันจะไม่ช่วยเหลือใครทั้งนั้น ส่วนครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้มีความประสงค์จะให้ย้าย รรท.ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมนั้น ตนขอให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อน เราต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย แต่จะไม่ปกป้องใคร ซึ่งทุกข้อเท็จจริงจะต้องเป็นไปตามข้อมูลพยานหลักฐาน
ส่วนที่ครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้อ้างว่าเคยยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังเรือนจำถึง 4 ครั้ง แต่กลับถูกเพิกเฉย ไม่ได้รับคำตอบ จนเกิดเหตุสลดขึ้นนั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ขอให้รอการสอบสวน เพราะความทุกข์ของทุกคนต้องได้รับการดูแล เพราะถือเป็นจริยธรรมของข้าราชการ ทั้งนี้ หากพบว่าไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบนั้น ก็ต้องเป็นผู้ที่ทำให้ตาย ที่ต้องรับผิดชอบ
ส่วนประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์คำสัมภาษณ์ของตนเอง กรณีห้องขังที่ติดกับห้องของอดีตผู้กำกับโจ้เป็นผู้หญิงหรือ LGBTQ นั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ตนเองเข้าใจผิดว่าผู้ต้องขังรายนั้นเป็นผู้ชายที่แปลงเพศ ซึ่งในเรือนจำกลางคลองเปรมมีผู้ต้องขังที่เป็น LGBTQ ถึง 88 ราย และแปลงเพศแล้ว 18 ราย ซึ่งหลักปฏิบัติทั้งหมดเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน เพราะเราไม่สามารถให้ผู้ต้องขังที่แปลงเพศแล้ว ไปนอนรวมกับผู้ต้องขังชายได้ ส่วนเรื่องของประจำเดือน ตนก็เข้าใจผิดเช่นกัน ทั้งนี้ เรื่องที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ออกมาคลาดเคลื่อนตั้งแต่วันแรก และสร้างความสับสนให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นนั้น ข้อเท็จจริงทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับหลักฐาน ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
ส่วนในเรื่องประเด็นและขนาดผ้าขนหนูเช็ดตัวของอดีต ผกก.โจ้ ที่ใช้ก่อเหตุนั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ขนาดของผ้าขนหนูเป็นในส่วนของงบประมาณที่กรมราชทัณฑ์นำไปจัดซื้อ เพื่อนำมาให้ผู้ต้องขัง ซึ่งขนาดผ้าที่ชัดเจนต้องถามจากพนักงานสอบสวน โดยถ้าหากหน่วยงานใดให้คำตอบว่าผ้าที่ ผกก.โจ้ ใช้ก่อเหตุนั้น เป็นผ้าเช็ดตัว ก็ให้เป็นตามที่หน่วยงานนั้นตอบ
และเมื่อผู้สื่อข่าวย้ำถามว่าผู้ต้องขังจะไม่สามารถนำผ้าเช็ดตัวนอกเหนือจากผ้า 3 ผืนเข้ามาได้หรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์ที่จัดสรรให้ รวมถึงเครื่องแต่งกายด้วย ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ทางกรมราชทัณฑ์จะนำผ้าขนหนูตัวอย่างนำมาโชว์แก่สื่อมวลชน พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ก็สามารถทำได้ เพราะไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อนที่ต้องปิดบัง เราต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน ย้ำว่าไม่เห็นมีอะไรต้องปิดบัง มีอะไรก็ขอให้เปิดเผยทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี