"บิ๊กเปีย"รับชันสูตรร่าง ‘ผกก.โจ้'ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม เผยกว่า ตร.จะไปเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุก็ผ่านไป 14 ชม.แล้ว พบเลือดหยดข้างศพเป็นของมนุษย์ส่งตรวจดีเอ็นเอ ส่วนแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ตั้งไว้ 2 ประเด็นคือ ตายเองหรือถูกทำให้ตาย คาดใช้เวลา 30 วันจะกระจ่างชัด
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 11 มี.ค. ที่สน.ประชาชื่น ภายหลังจากพล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท่วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2, พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.ณัฐพล รัตน์สุภาพงศ์ สว.(สอบสวน)สน.ประชาชื่น เจ้าของคดี ร่วมประชุมกับ พล.ต.ต.วาที อัศววุฒมางกุร ผบก.พฐก. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์สถาบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ เพื่อเร่งรัดติดตามคดีการตายของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ เป็นเวลากว่า 3 ชม.
พล.ต.ท.สมประสงค์ เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุมเร่งรัดติดตามสำหรับคดีการตายของผู้กำกับโจ้ พนักงานสอบสวนได้ทำคดีไปคืบหน้าเยอะแล้วในหลายๆเรื่อง ทั้งพยานหลักฐานต่างๆ รวมไปถึงภาพกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ โดยมีกล้องทั้งหมด 2 ตัวที่อยู่บริเวณหน้าห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจดูแล้ว ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ ไม่พบความผิดปกติ โดยในที่เกิดเหตุผู้กำกับโจ้ยังทักทายผู้คุมตามปกติ นอกจากกล้องในวันที่เกิดเหตุแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการร้องขอกล้องวงจรปิดตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุไปแล้วเช่นกัน แต่ต้องรอทางกรมราชทัณฑ์ส่งมาให้เพิ่มเติม
พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่วาว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า การจะเข้าห้องขังนั้นจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยไขกุญแจห้องขังของผู้กำกับโจ้ทุกครั้ง ยืนยันไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าออกจากห้องขังนอกจากผู้กำกับโจ้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เรือนจำให้การว่า ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เรือนจำได้พบผู้กำกับโจ้เสียชีวิตประมาณ 20.00 น. วันที่ 7 มี.ค.68 ขณะที่กำลังจะนำยาแก้เครียดไปให้ เจ้าหน้าที่พยายามเรียกชื่อแต่ไม่มีการตอบรับ จึงก้มมองผ่านช่องประตูและพบว่าผู้กำกับโจ้ นั่งอยู่ก่อนจะทำการเขย่า แต่ก็ไร้การตอบรับ จึงนำมือสอดเข้าไปปรากฏว่าพบผ้าที่คอที่ถูกผูกไว้กับกรงประตู เจ้าหน้าที่ได้รีบนำกรรไกรมาตัดออกแต่ตัดไม่ขาด รีบวิ่งกลับไปนำคัตเตอร์มาตัดผ้าออกเพื่อช่วยชีวิต ตนตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดแล้วเป็นไปตามคำให้การ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุการเสียชีวิตประมาณ 23.00 น. วันที่ 7 มี.ค. 68 แต่สามารถเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ในเวลา 10.00 น. ของอีกวัน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุได้ตั้งแต่ได้รับแจ้งเนื่องจากจะต้องมีหลายฝ่ายเข้าไปร่วมตรวจสอบพร้อมกัน กรมราชทัณฑ์เป็นผู้นัดให้เข้าไปในเวลาดังกล่าว
"ศพของผู้กำกับโจ้ได้อยู่ตรงที่เกิดเหตุตั้งแต่เสียชีวิตจนถึงเวลาที่พนักงานสอบสวนได้เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุเป็นเวลา 14 ชม. และจากการเข้าไปตรวจสอบพบว่าศพนั้นถูกนำมานอนหงายตรงและคลุมด้วยผ้าสีขาว และพบตัวผ้าขนหนูที่ถูกตัดมีชิ้นหนึ่งผูกอยู่ที่กรง และอีกชิ้นอยู่ที่พื้น ขนาดผ้าความยาวรวม 2 ชิ้น อยู่ที่ประมาณ 1.6 เมตร ขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐานนำผ้าขนหนูไปตรวจหา DNA คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจประมาณ 1 สัปดาห์ ตอนที่ตำรวจไปพบศพมีการทิ้งระยะเวลาไว้นาน และมีการเปลี่ยนแปลงท่าการตายของศพก่อนที่ตำรวจจะไปพบเป็นศพ (จากนั่งเป็นนอน) จะทำให้การชันสูตรศพยากขึ้น"พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าว
นอกจากนี้ยังพบรอยเลือดเล็กน้อยที่อยู่ใกล้ศพจำนวน 2 หยด แต่กองพิสูจน์หลักฐานสามารถยืนยันได้ว่าเป็นเลือดมนุษย์ และได้มีการเก็บเลือดดังกล่าวไปเพื่อตรวจ DNA แล้ว และยังพบว่ามีรอยกัดจากสัตว์ขนาดเล็กอยู่ที่บริเวณแขนซ้ายของศพอีกด้วย
"วันนี้ได้มีพนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ผู้คุมที่อยู่เวร ผู้ต้องขังที่อยู่ห้องบริเวณรอบข้าง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน โดยคดีการตายและคดีการถูกทำร้ายร่างกาย จะทำไปควบคู่กัน การตายนั้นตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ตายเองหรือถูกทำให้ตาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งกรอบระยะเวลาในการทำคดีนี้ไว้ 30 วัน เพื่อทำทุกอย่างให้กระจ่างแก่ประชาชน"พล.ต.ท.สมประสงค์ ระบุ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรับรายงานว่า ผ้าขนหนูที่ใช้ก่อเหตุถูกผูกปมไว้ทบเดียว โดยใช้วิธีการสอดปลายผ้าขนหนูเข้าไปในซี่ลูกกรงประตู
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี