"น้องทราย"ภรรยา-แม่ยาย พร้อมด้วยทนาย"อดีตผู้กำกับโจ้"โร่เข้าให้ปากคำตำรวจ ต่างพากันปิดปากสนิทปมมีปากเสียงกับบุคคลที่มาเยี่ยมหรือไม่ ขณะที่ตร.นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรายละเอียดว่าถูกตัดต่อหรือไม่
กรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ผู้ต้องหาใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตในโรงพักสภ.เมืองนครสวรรค์ โดยอดีตตำรวจคนดังก่อเหตุใช้ผ้าขนหนูผูกคอเสียชีวิตในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อคืนวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 10. 25 น.วันที่ 12 มีนาคม 2568 ที่สน.ประชาชื่น น.ส.สิภชา แก่นสุวรรณ หรือทราย อายุ 28 ปี ภรรยาอดีตผู้กำกับโก้ พร้อมมารดาของทราย (แม่ยายผู้กำกับโจ้)และนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความเดินทางเข้าพบพ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.ณัฐพล รัตน์สุภาพงศ์ สว.(สอบสวน)สน.ประชาชื่น เจ้าของคดี เพื่อสอบสวนคดีดังกล่าว โดยยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
มีรายงานว่า ด้านความคืบหน้าล่าขสุดองการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต ผกก.โจ้ จากการสอบปากคำเมื่อวานนี้ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น สอบปากคำพยาบาลเรือนจำที่เข้าไปตรวจสอบร่าง ผกก.โจ้ เพียง 1 ปาก รับข้อมูลมาในระดับหนึ่ง วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกผู้คุมประมาณ 2 นาย และผู้ต้องขังที่อยู่ในห้องใกล้เคียงซึ่งเป็นพยานแวดล้อม ประมาณ 4-5 ปาก มาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อหน้าพนักงานอัยการ ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม
ส่วนอดีตผู้คุมแดน 7 ที่มีข้อพิพาทกับ ผกก.โจ้ ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่ต้องมีการสอบปากคำในคดีชันสูตรการตาย เพราะอดีตผู้คุมเป็นคดีทำร้ายร่างกาย เป็นคนละส่วนกัน แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีของการทำร้ายร่างกาย พนักงานสอบสวนจะทำงานควบคู่กันไป
สำหรับภาพกล้องวงจรปิดภายในพื้นที่แดน 5 ที่ ผกก.โจ้ ถูกคุมขังอยู่นั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดมาแล้ว ได้ส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรายละเอียดว่าถูกตัดต่อหรือไม่
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น มีการประสานงานกับแม่ ผกก.โจ้ เพื่อมาให้ข้อมูลร่วมกับพนักงานอัยการแล้ว แต่เนื่องจากแม่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ กอปรกับยังอยู่ในช่วงจัดพิธีศพ จะดำเนินการนัดหมายในภายหลังอีกครั้ง
สำหรับประเด็นที่มีหยดเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุและผ้าขนหนูนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอผลการตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบภายใน 30 วัน หรือ 1 เดือน ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดในการสอบสวน โดนจะมีการเร่งรัดผลอย่างเต็มที่
ส่วนแนวทางการสอบสวนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตั้งอยู่ที่สองประเด็น คือ 1.ฆ่าตัวตาย และ 2.ถูกทำให้ตาย เหมือนเดิม
ต่อมาเวลา 12.35 น. น.ส.สิภชา แก่นสุวรรณ หรือทราย อายุ 28 ปี ภรรยาอดีตผู้กำกับโก้ พร้อมมารดาของทราย (แม่ยายผู้กำกับโจ้)และนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความ เดินออกจากห้องสอบสวน ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน นานถึง 2 ชั่วโมง ทั้ง 3 คน เดินออกจากสถานีตำรวจ
ผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามว่าวันนี้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยเรื่องอะไร ทนายความกล่าวว่า วันนี้เป็นการมาให้ปากคำเบื้องต้นในเรื่องตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย เพื่อเป็นการตั้งต้นในทางคดี ส่วนประเด็นที่มาให้ปากคำนั้น ขอสงวนที่จะเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากได้ให้การกับพนักงานสอบสวนหมดแล้ว ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน หากมีกำหนดการอะไรตนจะแจ้งให้ทราบในภายหลังและขอให้สัมภาษณ์ที่วัดทีเดียว
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวอ้างว่า วันที่ผู้กำกับโจ้จะก่อเหตุเสียชีวิตนั้น ก่อนหน้านั้น ผกก.โจ้ ได้มีปากเสียงกับบุคคลที่มาเยี่ยมหรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า ยังเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ เมื่อสอบถามย้ำว่ามีการโวยวายจริงหรือไม่ ทนายความไม่ตอบคำถามนี้
เช่นเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามภรรยาอดีต ผกก.โจ้ ว่าวันนั้นมีการพูดคุยอะไรในระหว่างที่มีการเยี่ยม ภรรยาอดีตผู้กำกับโจ้ไม่ตอบคำถามและรีบขึ้นรถไปทันที ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะสอบถามทนายความทิ้งท้ายว่า วันที่มีการเยี่ยมเป็นครั้งสุดท้ายได้มีการอัดเสียงการสนทนากันหรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ที่พนักงานสอบสวน ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป
ทั้งนี้ จากการสังเกตของผู้สื่อข่าวเห็นว่า ทนายความและแม่ยายต้องคอยจูงมือเดินประคองภรรยาของ ผกก.โจ้ ตลอดเวลาจนถึงที่รถเก๋งก่อนขับออกไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี