แม่ติดเหล็กดัดขังตัวเองป้องกันลูกแฝดติดยาทำร้าย เล่าปนสะอื้นลูกชายไปบำบัดมาแล้วกว่า 20 ครั้งก็หวนกลับมาเสพเหมือนเดิม

คืบหน้ากรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊กลงคลิปวีดีโอพร้อมข้อความ "แม่ขังตัวเอง กลัวลูกทำร้าย ขอเงินไปเสพยา" และมีผู้ที่เข้าไปแสดงความคิดเห็น และเป็นห่วงความปลอดภัยที่ต้องอยู่กับคนที่ป่วยจากการตกเป็นทาสยาเสพติด แม้จะนำไปบำบัดแล้ว  ก็จะหวนกลับมาเสพอีกเหมือนเดิม ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุดวันที่ 12 มี.ค.68 นางสาวกรณ์กาญจน์ แก้วดี นายอำเภอศรีสงคราม ลงพื้นที่บ้านหนองนกทา หมู่ 5 ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ปรากฏข่าวตามสื่อโซเชียลมีเดีย ว่าแม่สร้างกรงเหล็กขังตัวเอง เพราะกลัวลูกทำร้ายและขอเงินไปซื้อยาบ้าเสพ ซึ่งจากการลงพื้นที่ นายอำเภอศรีสงคราม ได้พูดคุยกับผู้หญิงในข่าวพบว่านางหัสดีเป็นประชาชน ต.นาคูณใหญ่ อ.นาหว้า จ.นครพนม โดยมีบุตรชายฝาแฝด 2 คน อายุ 23 ปีทั้ง 3 คนอยู่ในพื้นที่ ต.นาคูณใหญ่ อ.นาหว้า จ.นครพนม ได้มาสร้างบ้านและกรีดยางอยู่ที่บ้านหนองนกทา ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่าง อ.ศรีสงคราม กับ อ.นาหว้า โดยผู้เป็นแม่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากลูกชายฝาแฝดติดยาเสพติดทั้งคู่และจะขอเงินเพื่อไปซื้อยาบ้าอยู่เป็นประจำ

นางทัสดีเล่าว่าตลอดระยะเวลาหลายปี ได้ส่งลูกชายเข้าบำบัดรักษา ที่มินิธัญญารักษ์นาหว้า 18 ครั้ง มินิธัญญารักษ์ศรีสงคราม 1 ครั้ง และผ่านการบำบัดจากค่ายทหารในพื้นที่จังหวัดนครพนม มาโดยตลอดแต่ก็ไม่หาย เนื่องจากลูกหวนกลับไปเสพยาเสพติดซ้ำ จนหมดความอดทนจึงตัดสินใจติดตั้งเหล็กดัดประตูทางเข้าและหน้าต่างห้องนอนเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกชายพังประตูมาทำร้ายขอเงิน ในเวลาหลับนอนเท่านั้น

ส่วนการถ่ายคลิปเนื่องจากเกิดความเครียดและหาทางออกไม่ได้จึงถ่ายคลิปโพสต์เล่นๆ และส่งไปให้เพื่อนๆ ดู โดยไม่ได้ขังตัวเองตลอดเวลาตามที่เป็นข่าว ในส่วนของลูกชายเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสงคราม ได้ควบคุมตัวไปเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ส่วนลูกชายฝาแฝดอีกคน ได้หลบหนีออกจากบ้านเข้าไปในเขต อ.นาหว้า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป