"สหการณ์"ยันกรมราชทัณฑ์ พร้อมพิสูจน์ความจริง"ผกก.โจ้" เสียชีวิต พร้อมเปิดกล้องวงจรปิดเพื่อให้ความจริงปรากฏว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นในเรือนจำกลางคลองเปรม / ระบุวันพบญาตินาน 3-4 ชม.เจ้าตัวโวยวายญาติและแฟนสาวมีอาการคล้ายร้องไห้ พร้อมวอนสื่องดละเมิดสิทธิ"ลูกผู้คุมสิทธิพร"ซึ่งป่วยซึมเศร้า
วันที่ 13 มีนาคม 2568 เวลา 11.00 น.วันนี้ ที่พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ กรมราช ทัณฑ์ จ.นนทบุรี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ ข.ช.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "อดีตผู้กำกับโจ้" ว่า กรมราชทัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด คือ ชุดแรกตรวจสอบกรณีทางครอบครัวของ"อดีตผู้กำกับโจ้" ร้องเรียนมายังกรมราชทัณฑ์ ซึ่งได้รับเรื่องตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา และตั้งคณะกรรมการฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 10 มี.ค. พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบ ส่วนอีกชุดตรวจสอบกรณีการเสียชีวิต จะมีหน่วยงานภายนอก 3 หน่วย ทั้งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อให้เห็นว่ากรมราช ทัณฑ์พร้อมพิสูจน์ความจริง ถือเป็นเรื่องสำคัญ
นายสหการณ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. กรมราชทัณฑ์ ได้พาตัวแทนสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้ง มอบหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ตอนเช้าที่ อดีตผู้กำกับโจ้ ลงจากเรือนนอนจนกระทั่งเข้าเรือนนอน และหลังการเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งพร้อมเปิดให้ดูมากกว่านี้เพราะอยากให้ความจริงปรากฏว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นในเรือนจำกลางคลองเปรม เนื่องจากตอนนี้สังคมคาดการณ์ไปต่างๆนานา แต่สุดท้ายแล้วความจริงก็คือความจริง
"ส่วนรายละเอียดระหว่างวัน อดีตผู้กำกับโจ้ อยู่แดน 5 คนเดียวในห้องแยกควบคุม ตื่นเช้าทำกิจกรรมปกติ มีการพบทนายหรือญาติบ้าง และร่วมกิจกรรมกับเพื่อนผู้ต้องขัง แต่วันเกิดเหตุได้มีการเยี่ยมญาติเป็นระยะเวลานานพอสมควร จากนั้น เวลาประมาณ 3-4 โมง อดีตผู้กำกับโจ้ เดินกลับไปยังเรือนนอน ส่วนที่ผ่านมาเคยคุยกับญาตินานถึงไหนก็ต้องไปตรวจสอบ นอก จากนี้ ข้อมูลที่พบว่ามีการพูดคุยโวยวายกับทางญาตินั้นเท่าที่ได้รับรายงานเกี่ยวข้องกับสถานการณ์บางอย่าง เช่น ลักษณะท่าทางแฟนอดีตผู้กำกับเหมือนร้องไห้ ซึ่งมีเสียงบันทึกแต่ไม่สามารถยืนยันได้และอยู่ระหว่างตรวจสอบ"
นายสหการณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนคำสั่งให้นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปปฏิบัติหน้าที่ ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม อีกหน้าที่หนึ่ง และให้นายเผด็จ หริ่งรอด กลับไปดำรงตำแหน่ง ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เพื่อต้องการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม สร้างความเชื่อมั่น โดยนายเผด็จ เพิ่งย้ายมารับตำแหน่ง ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อต้นเดือน ก.พ.68 ขณะเดียวกันได้มีการสอบสวนนายสิทธิพร ผู้คุมคู่กรณี และไม่อยากพูดในเรื่องนี้เพราะเหมือนเป็นการกล่าวร้ายอดีตผู้กำกับโจ้ แต่ทุกอย่างมีข้อมูลทั้งหมด พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนเนื่องจากขณะนี้พบว่าผู้คุมสิทธิพรไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะมีสื่อตามไปสัมภาษณ์ลูกชายผู้คุมซึ่งป่วยซึมเศร้า แต่ยัดเยียดสอบถามต่างๆ จนต้องย้ายที่อยู่ ต้องแยกความเป็นส่วนตัวให้ออกและกลายเป็นละเมิดสิทธิเสียเอง
นายสหการณ์ กล่าวยืนยันว่า มีเอกสารที่ระบุว่าอดีตผู้กำกับโจ้ ลงชื่อย้ายแดนคุมขังเอง และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็พร้อมที่จะนำมาเปิดเผย รวมทั้งเอกสารที่อดีตผู้กำกับโจ้ มีการลงลายมือชื่อยินยอมให้ยุติการสืบสวนกรณีการทำร้ายร่างกาย และถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนการยินยอมเซ็นเอกสารดังกล่าวจะมาจากความสมัครใจหรือถูกบังคับนั้นจะต้องมีการตรวจสอบทุกประเด็น
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังระบุว่า เรือนจำกลางคลองเปรมมีลักษณะที่เข้มงวดเพื่อควบคุมดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้ต้องขัง ซึ่งกรณีที่มีสื่อมวลชนหรือสังคมตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำของผู้คุมบางอย่างเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่นักโทษทุกคนต้องทำตามกฎระเบียบ หากมีนักโทษบางคนต้องการแสดงอิทธิพลหรือฝ่าฝืนระเบียบ ก็ต้องถามกลับว่าในฐานะผู้คุมต้องทำอย่างไร ซึ่งกรณีของอดีตผู้กำกับโจ้พบมีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง มีข้อมูลยืนยัน แต่ไม่อยากพูดพาด พิงผู้เสียชีวิต
นายสหการณ์ กล่าวเสริมว่า ส่วนประเด็นที่ครอบครัวระบุว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายนั้นตัวเอง ยืนยันว่าสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งกรณีที่ก่อนหน้านี้มีผลตรวจจากแพทย์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ระบุว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายร่างกายด้วยของแข็งไม่มีคม ได้รับบาดเจ็บที่ซี่โครงนั้น ก็เป็นคนละช่วงเวลากับการถูกคุมขังในแดนที่มีนายสิทธิพรดูแล และเชื่อว่าความจริงจะปรากฏเอง ซึ่งการนำอดีตผู้กำกับโจ้มาแยกขังที่แดน 5 ก็เพื่อเตรียมที่จะดำเนินการสอบสวนประเด็นที่ผู้เสียชีวิตมีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง และเจ้าตัวประสงค์อยากอยู่คนเดียว
สำหรับประเด็นที่มีการมองว่าเหตุใดกรมราชทัณฑ์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายศพเองได้ นายสหการณ์ ขอชี้แจงว่า ตามสัญชาต ญาณเมื่อเห็นผู้ต้องขังมีลักษณะคล้ายกับกำลังจะทำร้ายตัวเองเสียชีวิตหรือเสียชีวิตไปแล้ว ต้องช่วยไว้ก่อนเพราะถูกฝึกมาเช่นนี้ เบื้องต้นผู้คุมจะต้องให้ความช่วยเหลือทันทีจนถึงที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี