สธ. - กทม. ให้รถฉุกเฉินเถื่อน เข้าระบบ-แบ่งพื้นที่ใหม่ เพิ่มจำนวนบริการครอบคลุมทุกพื้นที่
วันที่ 13 มี.ค.68 นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับชาติ ครั้งที่ 9 ประจำปี พ.ศ.2568 ภายใต้แนวคิด ท้องถิ่นก้าวไกล การแพทย์ฉุกเฉินไทยเข้มแข็ง ซึ่งจัดขึ้นโดย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. คณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข สำนักการแพทย์ ผู้เกี่ยวข้อง และเครือข่ายมูลนิธิต่างๆ เข้าร่วม ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่
นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าววัตถุประสงค์การประชุม เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากทั่วประเทศ ได้เพิ่มพูนความรู้ด้านวิชาการ พัฒนาทักษะการปฏิบัติงาน และร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการบริหารจัดการระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สำหรับเผยแพร่ผลการดำเนินงาน การศึกษาวิจัย และนวัตกรรมด้านการแพทย์ฉุกเฉินให้กับประชาชนได้รับทราบ รวมถึงเป็นเวทีจัดทำข้อเสนอ เพื่อการปรับเปลี่ยน ปรับปรุง และพัฒนาเครือข่ายด้านการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศและเมืองขนาดใหญ่
นายกิตติกร กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ความสำคัญของระบบแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ทั้งในด้านของการพัฒนานวัตกรรม เพิ่มศักยภาพบุคลากร และสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เชื่อ ว่าผู้เข้าร่วมประชุมจะสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปต่อยอดพัฒนาระบบแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ลดความพิการและการสูญเสียชีวิตของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหารถพยาบาลที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย หรือรถพยาบาลนอกระบบ นั้น เนื่องจากผู้ให้บริการรถพยาบาล หรือรถฉุกเฉินทุกคน มีภารกิจเดียวกันคือการช่วยชีวิตคน และนำผู้ป่วยส่งต่อให้กับโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด จึงอยากให้รถพยาบาลทุกคันที่อยู่นอกระบบ ทำการลงทะเบียนเข้าในระบบให้เรียบร้อย ถูกต้องตามกฎหมาย และในอนาคต สพฉ. มีแนวคิดในการออกบัตรประจำตัว หรือทะเบียนรถ หรือชุดยูนิฟอร์ม อย่างใดอย่างหนึ่งที่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความเป็นผู้ให้บริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลให้การให้บริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินในมิติต่างๆ ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย”
ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ จะช่วยพัฒนาแนวทางการให้บริการประชาชนได้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับที่กทม.สามารถเรียนรู้จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดอื่น ๆ และร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของระบบการแพทย์ฉุกเฉินให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
น.ส.ทวิดา กล่าวว่า ปัจจุบันกทม.มีรถในระบบเพียงพออยู่แล้ว ยกเว้นในบางช่วงเวลา ที่อาจจะมีรถไม่เพียงพอ กทม.พยายามจัดรถให้เพียงพอในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนการแก้ไขปัญหารถพยาบาลที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย หรือรถพยาบาลนอกระบบนั้น กทม.ยินดีที่จะให้รถพยาบาลที่อยู่นอกระบบ ทำการลงทะเบียนเข้าในระบบ และจะมีการปรับพื้นที่การให้บริการใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ให้มากที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย.65 น.ส.ทวิดา เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินระดับพื้นฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่าง กรุงเทพมหานคร และ หน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินระดับพื้นฐาน 8 มูลนิธิ ได้แก่ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิร่มไทร มูลนิธิจีเต็กลิ้ม ฮู้ก๊กตึ๊ง (พิรุณ) มูลนิธิอาสาหนองจอก (ราชพฤกษ์) มูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) กู้ชีพกูบแดง กู้ชีพหงส์แดง และศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์
เพื่อให้การปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินของหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วยฉุกเฉินที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมตามมาตรฐานการปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน ลดปัญหาการปฏิบัติงานร่วมกัน รวมถึงกำหนดแนวทางการดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการพัฒนาการแพทย์ฉุกเฉินระดับพื้นฐาน โดยแบ่งโซนการปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินออกเป็น 9 โซน และมีหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินระดับพื้นฐานครอบคลุมทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตามเนื้อหาใน MOUระบุว่าการแบ่งพื้นที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการฯ ซึ่งมีตัวแทนจากมูลนิธิทั้ง 8 แห่งดังกล่าวด้วย
037
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี