"สพฐ.-71 รร.กทม."จับมือ"ซีพีออลล์ฯ" เดินหน้าโครงการ"โรงเรียนร่วมพัฒนา" สร้างคุณภาพการศึกษา ต่อยอดสู่อาชีพที่มั่นคง
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ โครงการ “โรงเรียนร่วมพัฒนา” (Partnership School Project) ระหว่าง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กับสถานศึกษาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมด้วย นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ., ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสถานศึกษาพื้นที่กรุงเทพมหานคร 71 แห่ง, นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), คณะทำงาน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามความร่วมมือ ณ โรงเรียนโพธิสารพิทยากร กทม.
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า การลงนามวันนี้เป็นความพร้อมของโรงเรียนคุณภาพทั้ง 71 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งกระบวนการที่อยากให้เกิดขึ้นคือการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันด้านบุคลากรและทรัพยากร ความร่วมมือกับ บริษัท ซีพี อออลล์ จำกัด (มหาชน) อาจจะมีการพาไปศึกษาดูงานที่โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ หรือทางโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์จะศึกษาดูงานโรงเรียนในสังกัด สพฐ.เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนและเกิดการผสมผสานที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยวัตถุประสงค์หลักของเราคือ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา และให้ตอบรับภาคเอกชน เพื่อให้เด็กที่จบการศึกษาได้มีงานทำในสังคมและอยู่ได้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้มากขึ้นและเกิดการแลกเปลี่ยนกันในอนาคต และเชื่อว่าโรงเรียนทั้ง 71 แห่ง ที่ลงนามบันทึกความร่วมมือในวันนี้ จะเกิดแนวคิดหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยพัฒนาและขยายไปจังหวัดอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างนวัตกรรมในมุมธุรกิจ และถือว่าเป็น กระบวนการที่ดีมีประโยชน์ที่จะส่งเสริมให้เด็กใช้ชีวิตในสังคมเมื่อจบการศึกษาแล้วอย่างมั่นคงต่อไป
“ผมมองมิติของซีพีออลล์ ว่าสามารถสร้างบุคลากรที่มีความซื่อตรง มีความรับผิดชอบต่อสังคม ส่งเสริมให้ผู้เรียนเรียนจบแล้วมีงานทำทุกคน เรียนแล้วไม่สูญเปล่า ไปทำงานในสิ่งที่ใช่ ที่ชอบ ตอนนี้มิติของการศึกษาเรายังมีความสูญเปล่า เพราะไปเรียนในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง เรียนตามกระแสสังคม ดังนั้น การเรียนต้องมีความรู้ มีวิธีคิด รู้จักคิด และเป็นคนซื่อตรง มีความรับผิดชอบต่อสังคมซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ ส่วนการส่งเสริมเรียนรู้เทคโนโลยี ซีพีออลล์ก็ทำอยู่แล้ว ซึ่งเด็กในเมืองหลวงก็มีทั้งเด็กกลุ่มที่เป็นเลิศ มีความพร้อมทางครอบครัว ส่วนกลุ่มเด็กที่ไม่มีความพร้อมเราก็จะเติมเต็มให้” รมว.ศธ.กล่าว
ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการจัดการศึกษาภายใต้หลักการ “การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และ การศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต” โดยใช้แนวทางการทำงาน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” โดยพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. เกิดเป็นนวัตกรรมการบริหารและจัดการศึกษาอย่างมีส่วนร่วม ภายใต้การสนับสนุนทรัพยากรองค์ความรู้จากทุกภาคส่วน และเพื่อเป้าหมายสูงสุด คือ พัฒนาผู้เรียนให้ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ให้ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”
สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือวันนี้ ระหว่าง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กลับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 - 2 จำนวน 47 แห่ง และสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร จำนวน 24 แห่ง รวมเป็น 71 แห่ง
ขณะที่ นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหารบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ซีพี ออลล์ มุ่งมั่นตั้งใจให้โครงการ “โรงเรียนร่วมพัฒนา” สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายทุกประการ บริษัทฯ ยินดีกับโครงการนี้ ที่จะร่วมมือกับทุกโรงเรียนในเครือข่ายที่รับผิดชอบอยู่อย่างเต็มที่ และพร้อมจะปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงด้วยการสร้างอาชีพ ด้วยปณิธาน "สร้างเยาวชนสู่มืออาชีพ" เมื่อนักศึกษาสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถบรรจุทำงานได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือศึกษาต่อเนื่อง เราก็พร้อมที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้พัฒนาอาชีพและให้ความรู้ความสนใจทั้งในประเทศและขยายไปต่างประเทศ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะขยายตัวไปทั่วประเทศและไปสู่ภูมิภาคต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี