13 มีนาคม 2568 พ.ต.ท.ผจญ เนียมรินทร์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.กันตัง ได้รับแจ้งเหตุ รถไฟพุ่งชนรถยนต์กระบะ บริเวณจุดตัดถนน พื้นที่ หมู่ 2 บ้านพรุใหญ่ ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 4 ราย บาดเจ็บอีก 7 ราย หลังเกิดเหตุจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.กันตัง นายสนั่น เพชรสนั่น กำนัน ต.บางหมาก ปภ.ตรัง แพทย์เวร รพ.ตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง หน่วยกู้ชีพ รพ.ตรัง , รพ.ธนบุรี , หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง , กู้ชีพสว่างภักดี , กู้ชีพเทศบาล ต.โคกหล่อ และหน่วยกู้ชีพ อบต.ควนปริง
ที่เกิดเหตุพบ รถไฟขบวนรถเร็วที่ 168 สถานีกันตัง-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จอดนิ่งสนิทอยู่บนราง ห่างมาจากท้ายขบวนประมาณ 100 เมตร บริเวณบนถนนจุดตัดทางรถไฟ ติดกับเสาสัญญาณไฟ และเสียงสัญญาณเตือนที่ติดตั้งอยู่และได้รับความเสียหาย พบรถยนต์กระบะสภาพช่วงหัวรถ และท้ายรถด้านซ้ายพังเสียหายจากการถูกรถชน พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 รายอยู่ภายในตัวรถ และอีก 4 รายกระเด็นออกมาจากตัวรถนอนรอความช่วยเหลืออยู่บนพื้นหญ้าริมรางรถไฟ รวมบาดเจ็บทั้งหมด 6 ราย แบ่งเป็นสาหัส 1 ราย ไม่สาหัส 5 ราย ก่อนที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจะเร่งให้ความช่วยเหลือ และเคลื่อนย้ายไปยัง รพ.ศูนย์ตรัง อย่างเร่งด่วน ส่วนคนขับรถยนต์กระบะทราบชื่อคือ นายสุรชัย ชาว จ.สงขลา ไม่ได้รับบาดเจ็บ และยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ
ขณะเดียวกันในที่เกิดเหตุยังพบผู้เสียชีวิตคาที่จำนวน 4 ราย ซึ่งทั้งหมดนั่งท้ายกระบะ แบ่งเป็นเพศหญิง 3 ศพ เพศชาย 1 ศพ ก่อนจะชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ และเคลื่อนย้ายไปยัง รพ.กันตัง เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
ในเบื้องต้นได้ทำการตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดในตัวของพนักงานขับรถไฟ และนายสุรชัย คนขับรถยนต์กระบะ โดยในตัวของพนักงานขับรถไฟ ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ และสารเสพติด ส่วนนายสุรชัย ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ แต่พบฉี่ม่วง ซึ่งมีการใช้สารเสพติด
สอบถาม นายสุรชัย คนขับรถยนต์กระบะ อ้างว่า ตนเดินทางมาทั้งหมด 11 คน ทั้งหมดเป็นคนงานจับกุ้งกุลาดำ โดยนั่งภายในห้องโดยสารจำนวน 4 คน นั่งท้ายกระบะ 7 คน โดยทั้งหมดเดินทางออกจากบ้านเช่าในพื้นที่ อ.กันตัง เพื่อที่จะเดินทางไปรับจ้างจับกุ้งกุลาดำ ในพื้นที่ จ.กระบี่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนขับมาตามปกติ ไม่ได้ยินเสียงหรือเห็นอะไรเลย พอมาถึงถนนจุดตัดรถไฟ กำลังจะขับพ้นแล้วรถไฟได้พุ่งชนเข้าที่ช่วงท้ายรถ โดยตนไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนหรือเสียงหวูดรถไฟเลย โดยตนยังยืนยันว่าสัญญาณเสียงที่ติดตั้งอยู่ในจุดเกิดเหตุไม่เตือน
ส่วนพนักงานขับรถไฟไม่ขอให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว บอกเพียงแค่ให้การกับทางตำรวจเท่านั้น เนื่องจากยังไม่สามารถประมวลในขณะนี้ได้ เพราะแต่ละฝ่ายก็จะต้องไปแก้ต่างกัน ส่วนตนเห็นเหตุการณ์อยู่
ทางด้าน พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.กันตัง เปิดเผยว่า จากการสอบถามพนักงานขับรถไฟบอกว่า ขณะรถไฟกำลังขับผ่านจุดตัดถนน เห็นรถยนต์กระบะอยู่ด้านหน้าประมาณ 200 เมตร จึงได้ส่งสัญญาณเสียงเตือน โดยมีคนที่นั่งท้ายกระบะ ด้วยความตกใจได้ยืนขึ้นแล้ว แต่คนขับยังไม่รับรู้ ยังคงขับรถต่อไปจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น หลังเกิดเหตุได้ตรวจแอลกอฮอล์ทั้งคนขับรถไฟและคนขับรถกระบะไม่พบว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกาย ส่วนการตรวจหาสารเสพติด พบสารเสพติดในตัวคนขับรถกระบะ ซึ่งคนขับก็ยอมรับว่าเสพสารเสพติดมา
ขณะที่ นายสนั่น เพชรสนั่น กำนัน ต.บางหมาก กล่าวว่า จุดนี้เคยเกิดอุบัติเหตุมาหลายครั้ง แต่ไม่มีเสียชีวิต ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับรถยนต์กระบะและรถยนต์เก๋ง ปัญหามองว่าส่วนใหญ่ที่เกิดอุบัติเหตุเพราะคนขับคุยโทรศัพท์บ้าง เปิดเพลงเสียงดังบ้าง ส่วนสัญญาณไฟกระพริบและเสียงเตือนก็มีติดตั้งอยู่ และรถไฟก็จะใช้เสียงหวูดเตือนก่อนจะถึงจุดตัดถนนก่อนตลอด แต่จุดนี้ไม่มีราวหรือแผงกั้น หากมีคงจะดีกว่ามาก ๆ ที่ผ่านมาเคยขอไปแล้ว แต่ปรากฏว่าทางการรถไฟมาติดตั้งให้อีกจุดที่อยู่ห่างจากจุดนี้ไป 1 กิโลเมตร ก็ได้ท้วงติงไปแต่มีการตอบกลับมาว่าจุดนี้ไม่ได้อยู่ในแผน จึงอยากเรียกร้องให้มีราวกั้น เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก
เบื้องต้น ได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาตินำไปประกอบพิธีการตามศาสนา ก่อนจะควบคุมตัว นายสุรชัย อายุ 41 ปี คนขับรถยนต์กระบะไปยัง สภ.กันตัง ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติดให้โทษ (เมทแอมเฟตามีน) และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.025
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี