เปิดผลจำลองเหตุ
คดีอดีตผกก.โจ้ดับ
ชี้ชัด‘ผูกคอตาย’
ก่อเหตุด้วยตัวเอง
คณะอนุกรรมการฯร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลาง นำหุ่นเท่าขนาดตัว “อดีตผกก.โจ้” เข้าจำลองเหตุการณ์ผูกคอเสียชีวิตในห้องขังเรือนจำกลางคลองเปรม เผยผกก.โจ้ก่อเหตุได้ด้วยตัวเอง เตรียมสรุปรายละเอียดตามกรอบเวลาภายใน 30 วัน ด้าน รองอธิบดีดีเอสไอ สอบญาติ‘ผกก.โจ้’ยันไม่ได้เป็นคดีพิเศษ
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่ก่อเหตุใช้ผ้าขนหนูผูกคอตัวเองภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งญาติติดใจสาเหตุ รวมถึงประเด็นที่ อดีต ผกก.โจ้ ถูกทำร้ายร่างกาย และกลั่นแกล้ง ซึ่งมีการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ พร้อมกับไม่ยอมฌาปนกิจศพ จนกว่าคดีจะกระจ่างชัด ว่า ที่เรือนจำกลางคลองเปรม พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงพนักงานสอบสวน ได้เดินทางมาจำลองเหตุการณ์กรณีการเสียชีวิตของ ผกก.โจ้ ภายในเรือนจำดังกล่าว เพิ่มเติม
พ.ต.อ.สัญญา กล่าวว่า ได้เข้าไปในเรือนจำ เพื่อจำลองเหตุการณ์ที่ ผกก.โจ้ เสียชีวิต รวมทั้งตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติม โดยมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เป็นผู้ที่นำหุ่นขนาดเท่าตัวจริงของ ผกก.โจ้ มาจำลอง ว่าการเสียชีวิตมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดจากการนำผ้าขนหนู มาแขวนคอ และในส่วนที่จะต้องพิจารณาหารือกับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย โดยต้องรอดูในรายละเอียดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ทางคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงฯ ซึ่งประกอบด้วย อัยการ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทยอยเดินทางเข้ามายังเรือนจำฯ เพื่อร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบถามเจ้าหน้าที่ควบคุม ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ ผกก.โจ้ ส่วนจะมีการขอดูกล้องวงจรปิด และไฟล์เสียงหรือไม่ จะต้องมีการหารือเพื่อดูกรอบอำนาจหน้าที่ ว่ามีมากน้อยเพียงใด
ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พิสูจน์หลักฐานกลาง ในฐานะกรรมการในการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ กล่าวว่า เป็นการเข้าปฏิบัติภารกิจในส่วนของการจำลองเหตุการณ์ โดยพนักงานสอบสวนได้เตรียมสิ่งของจริงในที่เกิดเหตุมาทั้งหมด ซึ่งถูกนำมาใช้ในการจำลองเหตุการณ์ แต่จะใช้กับหุ่นจำลองยืนยันว่ามีความพร้อม โดยไม่ว่าจะเป็นการใช้หุ่นหรือคน การจำลองเหตุการณ์จะมุ่งเน้นไปที่การใช้ผ้าขนหนู ยาวประมาณ 1 เมตร เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ถูกใช้ผูกคอจนเสียชีวิต
พล.ต.ต.วาที กล่าวต่อว่า คดีนี้ได้รับการกำชับจาก ผบ.ตร.ว่าเป็นคดีสำคัญและเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชน จำเป็นต้องทำให้สิ้นความสงสัย โดยหลักฐานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ทางกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ยืนยันว่าได้เก็บรวบรวมไปตั้งแต่วันแรกที่เข้าพื้นที่แล้ว ซึ่งมีความสมบูรณ์มากที่สุด ในส่วนของดีเอ็นเอ ในที่เกิดเหตุนั้น ได้ส่งผลตรวจให้พนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าไม่พบสิ่งผิดปกติ ไม่มีดีเอ็นเอ บุคคลอื่นยุ่งเกี่ยวในที่เกิดเหตุ โดยผลค่อนข้างมีความชัดเจน
“ส่วนไฟล์เสียงการสนทนากับครอบครัว ผกก.โจ้ ก่อนจะเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ยังไม่ได้รับจากเรือนจำฯ ได้รับเพียงวงจรปิดตัวสมบูรณ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน โดยขั้นตอนนั้นยังอยู่ระหว่างการคัดลอกคลิปออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อไม่ให้เวลาดึงออกมาตรวจสอบแล้วเกิดความเสียหายกับต้นฉบับ
ขณะที่ พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า การจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นไปตามลำดับขั้นตอนเสมือนวันเกิดเหตุ มีการบันทึกรายงาน โดยสอดคล้องกับคำให้การของพยานแวดล้อมทั้งหมด ส่วนการแขวนคอของ ผกก.โจ้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้หุ่นจำลอง ยืนยันว่าจากการจำลองเหตุการณ์ เชื่อว่า ผกก.โจ้ สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว ในการใช้ผ้าขนหนูมัดคอกับลูกกรง
รอง ผบก.น.2 กล่าวอีกว่า ส่วนเงื่อนไขห้วงเวลาการจำลองที่ทำในช่วงกลางวัน ต่างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในช่วงกลางคืน เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อผลการจำลอง และการพิจารณาของคณะกรรมการการจำลองเหตุการณ์กรณีการเสียชีวิตของ ผกก.โจ้ และกำหนดต้องเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบภายใน 30 วัน สำหรับเงื่อนหรือปมของผ้าที่ผูกไว้กับลูกกรง ตนได้ตรวจดูตั้งแต่วันเกิดเหตุ ดังนั้นในการจำลองเหตุครั้งนี้ก็จะทำให้เหมือนวันเกิดเหตุมากที่สุด แต่รายละเอียดคงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ว่าเป็นการผูกเงื่อนลักษณะใด ส่วนรอยเลือดที่ปรากฏใกล้ที่เกิดเหตุ และรอยบาดแผลจากการถูกสัตว์ขนาดเล็กกัดแทะ ขณะนี้อยู่ในสำนวนการสอบสวน ยังไม่สามารถจำแนกได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด
พ.ต.อ.ธิติพงศ์ กล่าวถึงเรื่องคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง ผกก.โจ้ กับครอบครัว ก่อนเสียชีวิตกับการพิจารณาภาพวงจรปิด ไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการชุดนี้ เป็นส่วนของคดีอาญา ที่มีการดำเนินไปตามกระบวนการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ให้ความสนใจในคดีอื่นเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เพียงคดีนี้ที่มีการระดมหน่วยงานและเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
มีรายงานข่าวในคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงฯ ว่าได้มีการนัดหมายญาติของ ผกก.โจ้ มาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการเสียชีวิตภายในห้องขังหมายเลข 50 แดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อไล่เรียงไทม์ไลน์ทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันสุดท้ายที่ ผกก.โจ้ ตัดสินใจจบชีวิต มูลเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุ เนื่องจากที่ผ่านมาอยู่ในเรือนจำมา 3 ปี ไม่เคยมีปัญหาเกิดขึ้น จากนั้นคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงฯ จะบันทึกถ้อยคำให้การไว้ ก่อนประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งข้อมูลต่อไป
อีกด้านหนึ่ง ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.ธนัญญา และ น.ส.จันทา อุทธนผล น้องสาวและมารดาของ ผกก.โจ้ ว่าในการเชิญตัวมาสอบเป็นเพราะทางครอบครัว ผกก.โจ้ ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมกับดีเอสไอ ทำให้เรื่องนี้ต้องได้รับการพิจารณาโดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงฯ ซึ่งดีเอสไอ เป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการดังกล่าว ก่อนจะเสนอไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย (คณะกรรมการชุดใหญ่) ซึ่งมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานฯ
ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวต่อว่า เรามีหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริงจึงนัดหมายญาติผู้เสียชีวิตมาให้ข้อมูล ประกอบกับวันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้สอบปากคำญาติด้วย ซึ่งมีทั้งคดีชันสูตรพลิกศพ ซึ่งเป็นคดีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รับผิดชอบ และคดีทำร้ายร่างกายที่ขยายผลเป็นคดีตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย ทางตำรวจจึงเป็นผู้รับผิดชอบหลัก มีอัยการกำกับการสอบสวน
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่คดีพิเศษ เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของตำรวจ แต่ดีเอสไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอยู่ในคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงฯ ได้ร่วมดำเนินการสอบสวนและมีการรายงานผลต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ ถ้าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย การสรุปสำนวนหรือความเห็น ก็จะต้องแจ้งอัยการสูงสุดทราบว่าจะแจ้งข้อหาตามมาตราใดบ้าง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การประชุมของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงฯ ซึ่งมี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นประธานฯ จะมีการเรียกประชุมในวันที่ 17 มีนาคมนี้ เวลา 13.00 น.ที่ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กทม.
ที่รัฐสภา วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนักโทษเสียชีวิตในเรือนจำเขาบิน มีการตั้งข้อสงสัยว่าเกิดจากการซ้อมในเรือนจำหรือไม่ ว่าได้รับรายงานเรื่องการเสียชีวิตของนักโทษในเรือนจำทั้งหมด ขณะนี้ได้สั่งการให้คณะกรรมการพิจารณาเรื่องการซ้อมทรมาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งทุกรายต้องผ่านการสอบสวนของคณะกรรมการชุดนี้ และกรมราชทัณฑ์ มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนด้วย จึงอยากแจ้งครอบครัวผู้เสียหาย ว่าเราต้องการให้ความเป็นธรรม ทุกอย่างต้องมีการสอบสวน
เมื่อถามถึงภาพที่เรือนจำนำมาให้ญาติของนักโทษดู เป็นคนละวันกับวันที่เกิดเหตุ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการชี้แจง เพราะต้องเข้าอนุกรรมการตรวจสอบก่อน ต่อข้อถามว่า จากนี้ไปจะมีการให้ความเชื่อมั่นประชาชนได้อย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องความเชื่อมั่น เรามีระบบมาตรฐานที่ใช้อยู่ ขณะนี้ทางผู้ตรวจเรือนจำของสหราชอาณาจักร หรือ EU มาวางแนวทางและพยายามนำแนวทางดังกล่าวมาใช้
“ต่อไปนี้อาจจะมีระบบการสำรวจข้อมูลจากผู้ต้องขังด้วย เพราะบางทีเราฟังจากเจ้าหน้าที่เรือนจำอย่างเดียวไม่ได้ อาจจะมีแบบสำรวจหรือแบบสอบถาม และไปพบปะผู้ต้องขัง ถือว่าเป็นการปฏิรูปราชทัณฑ์ เช่น กรณีเรือนจำกลางคลองเปรม ได้รับรายงานว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้ทุกแดน มีการพัฒนา การประกวด รวมถึงสิทธิมนุษยชนต่างๆ ในเรื่องความเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง” รมว.ยุติธรรม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี