'นฤมล'ยกคณะกระทรวงเกษตรฯ พบชาวสวนยาง จ.บึงกาฬ เร่งแก้ปัญหาโรคใบร่วง พร้อมประกาศคิกออฟ'โครงการโฉนดต้นยาง' 1 เม.ย.นี้ ตั้งเป้าแจกครบ 11.17 ล้านไร่ภายใน 1 ปี
เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2568 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ อ.เซกา จ.บึงกาฬ เพื่อร่วมพิธีเปิดโครงการอบรมหลักสูตร การส่งเสริมการใช้น้ำหมักชีวภาพปลาหมอคางดำ เพื่อฟื้นฟูสวนยางพาราที่เป็นโรคใบจุดกลมจากเชื้อ Colletotrichum saimense(ใบร่วงชนิดใหม่)
โดย นางนฤมล กล่าวว่า จ.บึงกาฬ มีรายได้กว่า 60% มาจากยางพารา ราคายางพาราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กรมการยางก็จะทำงานอย่างเข้มแข็งต่อไป รวมถึงทีมพญานาคราช ก็จะออกปราบปรามยางเถื่อนต่อเนื่อง เราจะไม่ยอมให้ยางพาราจากประเทศอื่นมาเป็นปัจจัยทำให้ราคายางพาราในประเทศไทยตกต่ำลง ทั้งนี้ หากประชาชาพบการลักลอบนำเข้ายางพาราเถื่อน ขอให้แจ้งทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯและเราจะกวาดล้างทันที
“กระทรวงเกษตรฯ ต้องการให้ราคาพืชผลทางเกษตรชนิดอื่น ๆ มีการปรับขึ้นราคาขึ้นเช่นเดียวกับ ยางพารา ไม่ว่าจะเป็น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์ม แต่ที่เราทำให้ราคายางพาราขึ้นสำเร็จก่อน เนื่องจากยางพาราอยู่ในการดูแลกำกับของกระทรวงเกษตรฯ เพราะเรามีการยางแห่งประเทศไทยอยู่ที่กระทรวงเกษตรฯ จึงทำให้หน่วยงานอื่น ๆ ของเราสามารถบูรณาการการทำงานเข้าด้วยกันได้อย่างรวดเร็ว และเบ็ดเสร็จ แต่สำหรับราคาข้าว ถึงเราจะมีกรมการข้าว แต่การกำหนดนโยบายตลาด และราคา เป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นผู้กำกับดูแล เช่นเดียวกับมันสำปะหลัง ก็มีคณะกรรมการนโยบายมัน อยู่กับกระทรวงพาณิชย์ ส่วนปาล์มน้ำมันก็เป็นของกระทรวงพลังงาน อ้อยก็ไปอยู่กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งใจจริงเราอยากจะดึงทุกอย่างมาดูแลแบบเบ็ดเสร็จ แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้” นางนฤมล กล่าว
นางนฤมล กล่าวต่อว่า ในส่วนของยางพารา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย การยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ได้เดินหน้าขับเคลื่อนปฎิบัติตามกฎระเบียบ EUDR ของสหภาพยุโรป (EU) เพื่อให้เขารู้ว่า เราไม่ได้ไปบุกรุกป่า ซึ่งตอนนี้มีเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิ จำนวน 11.17 ล้านไร่ เหลืออีก 4 ล้านไร่ ที่ยังไปเป็นที่ดินทับซ้อน โดยเราได้มีการพูดคุยกัน และจะมีการจัดการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับชาวสวนยางพารา เพื่อให้เขามีเอกสารสิทธิที่ถูกต้อง สามารถครอบครองพื้นที่ได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ส่วนเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิ จำนวน 11.17 ล้านไร่อยู่แล้ว เราจะออกโฉนดต้นยางสร้างมูลค่าให้กับต้นยางพาราที่ปลูกอยู่บนที่ดินของตนเอง ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อจาก ธ.ก.ส.และนำไปลงทุนต่อยอดทางธุรกิจได้ โดยจะ Kick off เปิดโครงการในวันที่ 1 เม.ย.นี้
”กระทรวงเกษตรฯต้องการให้เกษตรกรชาวสวนยางเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสถาบันการเงินได้มากขึ้น ซึ่งโครงการนี้จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้สวนยางพาราประมาณ 27,000 บาทต่อไร่ ชาวสวนยางก็จะมีเงินไปพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมของตัวเองได้ เราจึงตั้งเป้าตั้งเป้าที่จะออกโฉนดต้นยางให้ครอบคลุมพื้นที่ปลูกยางพาราทั้งหมด เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง และในอนาคตชาวสวนยางยังสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต เพิ่มเป็นรายได้เสริมด้วย“ นางนฤมล กล่าว
ในส่วนของโรคใบจุดกลมจากเชื้อ Colletotrichum saimense ในต้นยางพารา ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับการยางแห่งประเทศไทย ให้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคใบจุดกลมจากเชื้อ Colletatrichum siamense หรือโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา และศึกษาหาแนวทางการแก้ไขทั้งการเฝ้าระวัง การยับยั้งปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสนับสนุนองค์ความรู้และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจ ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องเกษตรกร อันก่อให้เกิดความมั่นคงยั่งยืนในอาชีพการทำสวนยางและพืชอื่น ๆ ต่อไป
จากนั้น นางนฤมล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้รณรงค์การใช้น้ำหมักปลาหมอคางดำ เพื่อแก้ปัญหาโรคใบร่วงชนิดใหม่ที่กำลังระบาดในภาคอีสาน แต่ในจังหวัดบึงกาฬยังระบาดมากนัก เราต้องรีบมาป้องกัน และวันนี้ได้มอบน้ำหมักเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางไปใช้ป้องกัน ส่วนเรื่องที่ดิน สปก. ตนได้สานต่อนโยบายที่ทำไว้ตั้งแต่สมัย ร.อ.ธรรมนัส ที่ได้เร่งรัดให้มีการแจกโฉนดเพื่อการเกษตร ทำให้วันนี้มีชาวบ้านมารับเอกสารสิทธิ์ 500 คน โดยปี 68 เราตั้งเป้าจะทำให้ครบ 22 ล้านไร่
เมื่อถามถึงปัญหาข้าวนาปรังที่ยังไม่มีนโยบายช่วยเหลือชัดเจน กระทรวงเกษตรฯ จะมีมาตรการอย่างไรในเบื้องต้น นางนฤมล กล่าวว่า เราได้ดูแลปัจจัยการผลิต เรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าว ปุ๋ย ส่วนนโยบายข้าวนาปรังและนาปี จะเป็นอย่างไร ก็ต้องรอกระทรวงพาณิชย์ นำเสนอก่อน แต่เบื้องต้นยังไม่มีการพูดคุยอะไรมาที่กระทรวงเกษตรฯ
ทั้งนี้ นางนฤมล และนายอิทธิ ได้ร่วมกันมอบโฉนดเพื่อการเกษตร จำนวน 500 ราย พร้อมปัจจัยการผลิต อาทิ น้ำหมักปลาหมอคางดำ 1,000 ลิตร จำนวน 33 ราย ,ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังต้านทานโรคใบด่าง, หน่อพันธุ์กล้วยหอมทอง, กล้วยน้ำว้า และพันธุ์มะละกอ รวมถึงพันธุ์ปลาจำนวน 200 ถุง และสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียวจำนวน 130 ตัน แก่ตัวแทนเกษตรกรผู้มาร่วมงานด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี