นายวรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรกหลังจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ประธานกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบการให้เหรียญลูกเสือสรรเสริญแก่ผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ เสี่ยงภัย ประจำปี 2567 ชั้นที่หนึ่ง จำนวน 6 ราย ชั้นที่สอง จำนวน 4 ราย และชั้นที่สาม จำนวน 6 รายทั้งยังให้ความเห็นชอบเหรียญลูกเสือสดุดีแก่ผู้บริหารและบุคลากรที่ทำคุณประโยชน์ให้กับการลูกเสือ ชั้น 1-3 ประจำปี 2566 จำนวน 564 ราย จำแนกเป็น ชั้นที่ 1 จำนวน 340 ราย ชั้นที่ 2 จำนวน 94 ราย และชั้นที่ 3 จำนวน 130 ราย
นายวรัท กล่าวอีกว่า ในการประชุมดังกล่าวกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิบางท่านได้ให้ข้อเสนอแนะว่า สลช.ควรมีการจัดทำสมุดบันทึกความดี ซึ่งอาจจะเป็นรูปเล่ม หรือเป็นรูปแบบระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ เพื่อให้ลูกเสือได้บันทึกสิ่งที่ได้กระทำ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการทำงานในอนาคตได้ ขณะที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ได้ฝากให้ สลช.เร่งพัฒนาค่ายลูกเสือที่มีอยู่ทั้ง 16 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่ดินของค่ายลูกเสือที่พบว่าขณะนี้มีผู้เข้าไปบุกรุกครอบครองเพื่อแสวงหาประโยชน์เป็นจำนวนมาก บางแห่งเกิดปัญหาคาราคาซังกันมานับ 10 ปี แล้วยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ดังนั้นจะต้องเข้าไปตรวจสอบ และบริหารจัดการเพื่อสร้างรายได้ให้กับ สลช. แล้วนำรายได้กลับมาพัฒนาการลูกเสือต่อไป โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ได้ขอให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าวได้เข้ามาช่วยดูแล ให้คำแนะนำ และจัดการเรื่องนี้พร้อมกับผู้ว่าราชการในจังหวัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี