นรกปอยเปต!
เหยื่อแฉถูกซ้อม-ล่วงละเมิดทางเพศ
อีก 3 พันคนยังอยู่ในมือแก๊งค้ามนุษย์
“มูลนิธิอิมมานูเอล” พา “เหยื่อสแกมเมอร์”ยื่นหนังสือถึง“กัณวีร์”ขอให้เร่งช่วยแก้ปัญหา“ค้ามนุษย์”พร้อมแนะคัดกรองป้องถูกเหมาดำเนินคดี เหตุถูกบังคับใช้เป็น“บัญชีม้า” ด้าน“เหยื่อ”เล่าหลั่งน้ำตาถูกหลอกล่อด้วยรายได้ แต่กลับถูกกักขัง ทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศบังคับใช้ยาเสพติด บางรายได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ นายกฯถก“รมว.ดีอี-ผอ.ศปอส.ตร.” ตามงานปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โชว์มาตรการ“ตัดน้ำ-ตัดไฟ-อินเตอร์เนต” ทำมูลค่าความเสียหาย 1 เดือน ลดลง 200 ล้านลั่นรัฐบาลไม่หยุดแค่นี้
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา นายจารุวัฒน์ จิณห์มรรคา รองประธานมูลนิธิอิมมานูเอล พาผู้เสียหายเหยื่อการค้ามนุษย์จากแก๊งสแกมเมอร์ชาวจีนในประเทศกัมพูชา มายื่นหนังสือขอให้แก้ไขปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ ต่อนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน
โดยนายจารุวัฒน์ กล่าวว่า เนื่องจากผู้เสียหายหลายคนถูกดำเนินคดีอาญา ซึ่งเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์และถูกหลอกไปทำงานสุจริต เช่น งานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน แต่สุดท้ายกลับถูกกักขังและถูกยึดโทรศัพท์ รวมถึงมีการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็ลสาหัส และยังมีคนไทยอีกหลายพันคนที่ติดอยู่ในตึกประเทศกัมพูชาอีกหลายจุด ไม่ใช่แค่ที่ปอยเปต จำนวน 114 คน โดยผู้ที่อายุน้อยที่สุดคือ 14 ปี อายุมากที่สุด 73 ปี วันนี้จึงนำผู้เสียหายมาเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและเรียกร้องความยุติธรรม เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เนื่องจากขณะนี้ผู้เสียหาย ถูกอายัดบัญชีและบางส่วนถูกหมายเรียกหมายจับ ซึ่งมีบางส่วนติดคุกแต่ผู้ค้ามนุษย์ตัวจริงกลับไม่เคยถูกจับยังคงสร้างปัญหาอยู่ จึงนำเรื่องมายื่นเพื่อให้แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนที่สุด
ด้าน นายกัณวีร์ กล่าวว่า จากการปราบปรามอย่างจริงจังของรัฐบาล จากการตัดไฟฟ้า ตัดน้ำมัน ตัดอินเทอร์เน็ตในประเทศเมียนมา ทำให้เกิดเหตุการณ์ลุกลามเป็นโดมิโนไปถึงประเทศกัมพูชา ซึ่งมีคนไทยถูกหลอกลวงไปเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในประเทศกัมพูชาอย่างน้อย 3,000 กว่าคนที่ทางมูลนิธิอิมมานูเอลประสานมาว่ามีคนไทยตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ส่วนนโยบาย 3 ตัดในประเทศเมียนมาและขณะนี้ลามมาถึงประเทศกัมพูชาเราจะมีการติดตามอย่างไร และจะมีมาตรการอย่างไรเพื่อช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์จากประเทศกัมพูชา และต้องมีการคัดกรองก่อนหรือไม่ ก่อนที่จะบอกว่าเขาคือผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรรมาธิการที่จะประสานงานไปยังฝ่ายบริหาร
ขณะที่เหยื่อการค้ามนุษย์ เล่าเหตุการณ์ทั้งน้ำตา ว่า เหยื่อส่วนใหญ่ที่หลอก เป็นคนที่อยากหางานทำ หารายได้เสริม เพื่อเสริมสร้างอนาคตของตัวเอง ก็จะถูกนำเรื่องรายได้มาหลอกลวงว่าจะเพิ่มให้ แต่ความจริงมีการกักขังทรมานและทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงการบังคับให้เสพยาเสพติด ซึ่งเป็นสิ่งทรมานมากตนไม่อยากให้คนไทยที่อยู่ โดนเหมือนที่ตัวเองโดน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ
ขณะที่ นายพงศ์นริศร์ ภาสินีนนท์ ศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ยกตัวอย่างเหยื่อที่ได้ช่วยมาล่าสุด อายุ 21 ปี ซึ่งถูกซ้อมทรมานกักขังและทำร้ายร่างกาย ซึ่งตอนที่ไปรับมาช่วงแรกไม่สามารถเดินได้ และถูกบังคับให้ทำยอดหากไม่สามารถทำได้ก็จะถูกทำร้ายร่างกาย เคยวางแผนหลบหนีแต่ถูกจับได้และถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งทุกวันนี้ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหายแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 5-6 คน
นายกัณวีร์ กล่าวเสริมว่า ทางตำรวจไทยมีการดำเนินการจริงจัง แต่ข้อกังวลในขณะนี้กรณีบัญชีม้า กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติดำเนินการล้ำหน้าการปราบปรามจับกุม ซึ่งกฎหมายของไทยอาจจะปรับใช้ไม่ได้ในกัมพูชา และความร่วมมือควรเป็นระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ขณะเดียวกันยังจำเป็นต้องใช้กรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคทวิภาคี และพหุภาคี โดยเปรียบเทียบการปราบปราม ขบวนการค้ามนุษย์ในฝั่งไทย-เมียนมา ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐของจีนเข้ามามีบทบาทจำนวนมากในการปราบปราม และไทยไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกว่าผู้กระทำผิดเป็นใครบ้างเนื่องจากถูกตัดตอนไปแล้ว แต่การปราบปรามในฝั่งกัมพูชานั้นจะต้องประสานงานกับรัฐบาลกัมพูชาอย่างเดียว ซึ่งขณะนี้ภาคประชาสังคมที่ทำงานอยู่ มีข้อมูลเบาะแสที่พร้อมมอบให้กับทางภาครัฐได้
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวิตข้อความผ่าน X และโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยเป็นภาพร่วมประชุมกับนายนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพคม.ตร.) ว่า ติดตามต่อเนื่องเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และตัวเลขการปราบปรามวันนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลกำลังมาถูกทาง โดยสถิติการรับแจ้งคดีอาชญากรรมออนไลน์ทั้งหมดของประเทศไทย (ข้อมูลวันที่ 1 - 31 ม.ค.2568) มีการแจ้งความทั้งสิ้น 31,159 คดี และหลังจากมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟ และตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต มีจำนวนคดีทั้งสิ้น 25,487 คดี ลดลงเฉลี่ยประมาณ 20% และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และข้อมูลที่ได้จาก AOC 1441 ทำให้มูลค่าความเสียหายที่ลดลงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาประมาณ 200 ล้านบาท
นายกฯ ระบุต่อว่า ถึงสถิติการจับกุมเป็นที่น่าพอใจ แต่รัฐบาลไม่หยุดแค่นี้ เราจะเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมชายแดน ปราบปรามอาชญากรรม รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือในการช่วยประมวลผลอย่างแม่นยำ และทันท่วงทีมากขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อรื้อถอนปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยอีกหนึ่ง KPI ของรัฐบาล คือการทำให้ประชาชนทุกคนรู้สึกปลอดภัยต่อการใช้ชีวิต
“โอกาสนี้ดิฉันขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่จนเกิดการจับกุมและลดความเสียหายลงอย่างต่อเนื่องได้ และขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยของทุกท่าน” นายกฯ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี