ไฟป่าเหนือยังหนัก
แม่ฮ่องสอน/พะเยา
ความร้อนพุ่งพรวด
ทั้งภาคจมค่าฝุ่นพิษ
สถานการณ์ไฟป่าภาคเหนือยังหนัก แม่ฮ่องสอน ส่งผลจุดความร้อนพุ่ง 114 จุด ขณะที่ จ.พะเยา จุดความร้อนอันดับ 3 ของไทย ภาพรวมภาคเหนือค่าฝุ่นPM2.5 เกินค่ามาตรฐาน กรมอุตุฯเตือน ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ระวังพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง-ลูกเห็บตก
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ จ.แม่ฮ่องสอน รายงานจุดความร้อน (Hotspot) ดาวเทียม NOAA-20 ระบบ VIIRS รอบเช้า เวลา 01.42 น.พบจุดความร้อน 31 จุด ต่อมาเวลา 02.04 น.พบจุดความร้อน 83 จุด รวม 114 จุด โดยพบว่ามีการลักลอบจุดไฟเผาป่าในพื้นที่ตามเทือกเขาห่างไกล และบริเวณสองข้างทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 108 แม่ฮ่องสอน–แม่สะเรียง เจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่าแต่ละอำเภอ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ช่วยกันดับไฟป่าโดยใช้ทั้งกำลังคนและรถดับเพลิง เข้าทำการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างเข้มแข็ง และสามารถดับไฟป่าได้ภายในไม่ถึงชั่วโมง
สำหรับบางพื้นที่ โดยเฉพาะเทือกเขารอยต่อเขต ต.หมอกจำแป่ กับ ต.ห้วยผา ใกล้อุทยานถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ไฟป่าเกิดเป็นกลุ่ม cluster จุดความร้อน ซึ่งเกิดต่อเนื่องประมาณ 2 วัน พื้นที่ดังกล่าวเป็นภูเขาลาดชัน และเกิดไฟป่าบริเวณหน้าผา เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าปางตองฯ ได้เข้าควบคุมไฟป่าและจัดทำแนวกันไฟบางจุด แต่ยังคงเกิดจุดความร้อน ซึ่งยากแก่การส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมไฟป่าโดยตรง จึงใช้โดรนบินสำรวจแนวไฟไหม้ และวางแผนการควบคุมไฟป่า มีการจัดเชื้อเพลิงในพื้นที่ (ระบบ Fire D)และพิจารณาใช้วิธีดับไฟป่าทางอ้อม เพื่อควบคุมไฟป่า
ส่วนค่าปริมาณฝุ่น PM2.5 ใน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน วัดได้ 87.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ด้านทัศนวิสัยในการมองเห็น ไม่ดี มีปริมาณฝุ่นละอองเจือปนในอากาศสูง
ที่ จ.พะเยา วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน โดยปกคลุมกระจายไปทั่วจังหวัด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา พบปริมาณฝุ่น PM 2.5 มีค่า 88.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ พบจุดความร้อน 64 จุด โดย จ.พะเยา อยู่ในลำดับ 3 ของประเทศ เกิดขึ้นมากที่สุดที่ อ.ปง 32 จุด รองลงมาคือ อ.เชียงคำ 10 จุด อ.เชียงม่วน อ.ดอกคำใต้ อ.ภูซาง และ อ.เมือง อำเภอละ 4 จุดตามลำดับ จุดความร้อนสะสม รวม 1,805 จุด ทั้งนี้ จ.พะเยา ยังเกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่องจนหน่วยงานต่างๆ ทั้งผู้นำท้องถิ่น และอาสาสมัคร ได้เร่งดับและเฝ้าระวังไม่ให้ไฟป่าขยายพื้นที่ออกไป
ขณะที่ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ดังนี้ ภาพรวมปริมาณฝุ่น PM 2.5ในประเทศ พบเกินค่ามาตรฐานใน จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.เลย และ จ.อุบลราชธานี ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 25.6–143.0 ไมโครกรัม (มคก.)/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 12.3–51.3 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 14.5–31.1 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 8.9–31.7 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 9.0–18.5 มคก./ลบ.ม.ส่วน กทม.และปริมณฑล ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 8.3–31.4 มคก./ลบ.ม.
ด้าน น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (มีผลกระทบบางพื้นที่ช่วงวันที่ 17-20 มีนาคม 2568) มีใจความว่าบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีสภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่นๆ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาฯ
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 17-20 มีนาคม 2568 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างและห่างฝั่งทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว
ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ร.ต.ต.สมชาย ภิรมย์ชาติ นายกเทศมนตรีเมืองชุมเห็ด พร้อมด้วยนายเฉิน ฉ่ำศิริกุล กำนัน ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ผู้ใหญ่บ้าน ปลัดเทศบาล และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองชุมเห็ด ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของบ้านเรือน คอกสัตว์ ยุ้งข้าว ที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มจนพังเสียหาย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา โดยพบว่ามีหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ รวม 5 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 4 บ้านตราดตรวน หมู่ 8 บ้านหนองม่วง หมู่ 10 บ้านหนองตราดน้อย หมู่ 14 บ้านหนองถนน และหมู่ 21 บ้านหนองไทรงาม มีบ้านเรือน ยุ้งข้าว คอกสัตว์และโรงเรือน ถูกพายุพัดเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่หลังคาเสียหาย และมีต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้มทับบ้านเรือน 2 หลัง เคราะห์ดีที่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลความเสียหาย เพื่อรายงานไปยังอำเภอ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.บุรีรัมย์ เพื่อขอรับความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของทางราชการต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี