ประกาศล่าตัว"พระ"รอยสักทั่วตัวทำตัวโจร ขโมยอัฐบริขารหลวงปู่หวา พระสายป่าศิษย์หลวงปู่ศรี อ้างขอภาวนาในเจดีย์ ก่อนจะกวาดเกลี้ยงเกือบหมดตู้
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kittichai Kaenjan โพสต์ข้อความว่า “#ประกาศตามหาพระโจร (จับได้มีรางวัล) เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา มีพระภิกษุ 1 รูป ใบหน้ามีรอยสักทั่วตัว รูปร่างอวบท้วม ห่มจีวรสีกรัก มาขอพักแรมที่วัดป่าศรีสมพร (วัดหัวดง) ข้างบิ๊กซี ซึ่งทางวัดก็คงไม่ได้สอบถามที่ไปที่มาที่แน่ชัด จากนั้นได้เข้าไปปฏิบัติธรรม ทำสมาธิด้านในเจดีย์พิพิธภัณฑ์บูรพาจารย์หลวงปู่หวา (อดีตเจ้าอาวาส) ศิษย์หลวงปู่ศรี มหาวีโร แต่ปรากฏว่า หลังจากปฏิบัติกิจเสร็จ ทางพระสงฆ์รูปดังกล่าว ได้แอบเปิดตู้อัฐบริขารในเจดีย์เพื่อขโมยสิ่งของเครื่องใช้ที่เป็นเตรื่องสมณบริขาร(ตามภาพ) ของหลวงปู่หวาจนเกลี้ยงตู้ และได้หลบหนีออกจากวัดไป โดยพระภิกษุภายในวัดไม่ทราบว่าไปที่ใด เวลาไหน และไปอย่างไร”
ต่อมา วันที่ 17 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดป่าศรีสมพร ตั้งอยู่ริมถนนบายพาสบ้านน้อยหนองเค็ม เขตเทศบาลเมืองนครพนม พบกับพระมหาจิรายุทธ คุณสังวโร หรือครูบาบอม อายุ 29 ปี พรรษา 8 เปรียญ 3 ประโยค พระลูกวัดที่มีกุฏิอยู่ตรงข้ามกับเจดีย์พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่หวา จัตตสัลโล เปิดเผยว่าวัดแห่งนี้เดิมเป็นป่าช้า ภายหลังหลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้ธุดงค์มาพำนักปฏิบัติสมาธิภาวนา ต่อมาก็สร้างเป็นวัดเพื่อปฏิบัติกรรมฐาน ตั้งชื่อวัดป่าหัวดง และได้เปลี่ยนเป็นวัดป่าศรีสมพร ปัจจุบันมีหลวงพ่อประกาศ กันตธัมโม เป็นเจ้าอาวาส
ครูบาบอม เล่าว่า วันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา มีพระรูปหนึ่งลักษณะท้วม ใบหน้าสักลาย มาขออนุญาตนั่งภาวนาสงบจิตสงบใจที่เจดีย์หลวงปู่หวา อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าศรีสมพร เหตุที่อนุญาตเพราะพระรูปนี้เคยมาแล้ว 2 ครั้ง ก็ไม่มีปัญหาอะไร พระก็เลยชะล่าใจสงสัยจะมาภาวนาจริง แต่ครั้งที่ 3 นี้ พระที่ไว้ใจกลับแอบขโมยอัฐบริขารของหลวงปู่หวาที่เก็บไว้ในตู้จนเกือบเกลี้ยง แถมยังตบตาเอาบาตรหลวงปู่ไป แล้วเอาบาตรของตนมาวางไว้ในตู้แทน รวมถึงสิ่งของอื่นๆอีก ไม่เว้นแม้แต่ใบสุทธิ ทั้งหมดถือเป็นสิ่งสำคัญที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพระในวัด โดยทางวัดเก็บรักษาไว้เกือบ 30 ปี หลังหลวงปู่หวามรณภาพ หากใครพบเห็นพระลักษณะนี้ ขอให้บอกหน่อย จะตามไปเอาของกลับคืนสู่เจดีย์พิพิธภัณฑ์เหมือนเดิม
ทั้งนี้ภายในรอบบริเวณวัด ติดกล้องวงจรปิดทั้งหมด 19 ตัว แต่เวลาต้องการจะเปิดกล้องดู ปรากฏว่ากล้องส่วนใหญ่ใช้ไม่ได้ เหลือเพียงไม่กี่ตัวที่พอจะจับพฤติกรรมของพระรูปที่ขโมย อัฐบริขารหลวงปู่หวาออกไปจากวัด โดยจะมอบหมายไวยาวัจกรเข้าแจ้งความ เพื่อติดตามตัวพระผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
ประวัติหลวงปู่หวา จัตตสัลโล นามเดิมหวา โนนิล เกิดวันอังคารที่ 2 มกราคม 2454 ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม อุปสมบทวันที่ 16 มกราคม 2506 มรณภาพวันที่ 25 กรกฎาคม 2538 ณ วัดป่าศรีสมพร รวมสิริอายุ 84 ปี 32 พรรษา โดยหลังอุปสมบทท่านได้ขอติดตามหลวงปู่กอง ปุญญราสี ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกัน เพื่อออกธุดงค์แสวงหาความวิเวกหลายจังหวัด
ต่อมาท่านได้เดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่ศรี มหาวีโร ที่วัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด และอยู่จำพรรษาที่นั่น 4 ปี จนถึงปี 2510 หลวงปู่ศรีได้นำพระนวกะจาก จ.ร้อยเอ็ดมายัง จ.นครพนม โดยให้หลวงปู่หวาติดตามมาด้วย และเห็นว่าหลวงปู่หวาเป็นผู้มีอุปนิสัยสุขุม รอบคอบ สงบเสงี่ยม อดทน โอบอ้อม อารีต่อเพื่อนผู้ประพฤติพรหมจรรย์อย่างเสมอต้นเสมอปลาย มีความรู้ความฉลาดสามารถแสดงธรรมได้อย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง จึงมอบหมายให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสที่วัดป่าศรีสมพร บ้านน้อยหนองเค็ม อ.เมืองนครพนม ซึ่งท่านก็ได้ทำหน้าที่สมกับเป็นพุทธชิโนรส ทำให้มีญาติโยมทั้งไทย จีน เวียดนาม หลั่งไหลเข้ามาทำบุญ และรับฟังอรรถธรรมอย่างไม่ขาดสาย
กระทั่งวันที่ 13 กรกฎาคม 2538 หลวงปู่หวาอาพาธหนัก ญาติโยมได้นำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น หมอวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในถุงน้ำดี ผ่าก็ตายไม่ผ่าก็ตายเพราะท่านมีอายุมากแล้ว จึงนำท่านกลับมารักษาตัวที่วัดอยู่ได้ 9 วันท่านก็ละสังขารด้วยอาการสงบ ลูกศิษย์จึงสร้างเจดีย์เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บกระดูกและอัฐบริขาร ไม่คาดคิดวาจะโดนพระโจรแอบมาขโมยไปดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี