"กลุ่มอดีตพนักงานการท่าเรือฯ"เฮ!!! ศาลยกฟ้อง พ้นผิดทุจริตเบิกเงินค่าล่วงเวลา ทำงานวันหยุด เบิกความเท็จ ศาลระบุหัวหน้างานไฟเขียวให้เบิกค่าล่วงเวลาได้ก็ไม่ผิด
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 มีนาคม 2568 ที่ห้องพิจารณาคดี 303 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.เลียบทางรถไฟ ย่านตลิ่งชัน ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อท 150/2567 ที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีปราบปรามทุจริต 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายจงเด่น บุตรสุทธิวงศ์ อายุ 62 ปี อดีตพนักงาน การท่าเรือแห่งประเทศไทย กับพวกรวม 34 คน ร่มกันเป็นจำเลย ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารรับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารอันเป็นเท็จ และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
กรณี การท่าเรือแห่งประเทศไทย มอบอำนาจให้ นายโกมล ศรีบางพลีน้อย ผู้กล่าวหา ร้องทุกข์กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ให้ดำเนินคดีกับนายจงเด่นกับพวกพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่ถูกกล่าวหาว่า ทุจริตเบิกจ่ายค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดเพิ่มเติม ในห้วงปี 2545 - 2555 และกล่าวหาว่า ร่วมกันจัดทำเอกสารใบเบิกเงิน เพื่อใช้เบิกเงินดังกล่าว ทั้งที่ไม่ได้ทำงานจริง และใช้เอกสารดังกล่าวเป็นหลักฐานในการฟ้องการท่าเรือแห่งประเทศไทย ต่อศาลแรงงานกลาง เพื่อเรียกร้องค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดเพิ่มเติมในห้วงเวลา ปี 2545 - 2555 ทั้งที่ไม่ได้ทำงานจริง
พวกจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้ว เห็นว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งหมด กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า โจทก์มีพยานขึ้นเบิกความในทำนองเดียวกันว่า หากหัวหน้าหน่วยทำเรื่องเบิกเงินค่าทำงานล่วงเวลา ก็สามารถเบิกได้ตามระเบียบ อีกทั้งการเบิกจ่ายก็ไม่พบการทุจริต เท่ากับว่าผู้บังคับบัญชาสามารถขอเบิกเงินล่วงเวลาได้ตามระเบียบ ซึ่งโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานที่ระบุว่า จำเลยไม่มาทำงาน ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 - 34 ไม่มาปฏิบัติงาน การเบิกเงินทำงานล่วงเวลา จึงเป็นไปตามระเบียบ จำเลยทั้งหมดจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง
ส่วนความผิดฐานเบิกความเท็จนั้น เอกสารที่การท่าเรือฯ ยื่นต่อศาลแรงงานกลาง เป็นเอกสารชุดเดียวกับที่จำเลยนำมาใช้เป็นหลักฐานยื่นฟ้องต่อศาลแรงงานกลาง เท่ากับว่าการท่าเรือฯ ยอมรับความถูกต้องในเรื่องการเบิกเงินค่าทำงานในวันหยุด การเบิกความของจำเลยที่ 1 ถึง 21 จึงไม่ใช่การเบิกความเท็จ และจำเลยอื่นก็ไม่ได้กระทำผิด พยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานเบิกความเท็จ
พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้ว ยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง ไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลย พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังฟังคำพิพากษายกฟ้อง จำเลยทั้ง 34 คน ส่งเสียงปรบมือด้วยความดีใจ ซึ่งจำเลยส่วนใหญ่อยู่ในวัยเกษียณ จากนั้นทั้งหมดได้ลงลายมือชื่อ และทำเรื่องขอเบิกหลักประกันขอปล่อยชั่วคราวคืนจากทางศาล
ด้าน นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความของจำเลย เผยว่า ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมดทั้ง 2 ข้อกล่าวหา หลังจากนี้ต้องดูต่อไปว่าทางพนักงานอัยการจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ หากยื่นอุทธรณ์ก็ต้องสู้คดีกันต่อไป หากไม่ยื่นอุทธรณ์คดีก็ถึงที่สุด แต่ในขณะนี้ผู้ถูกกล่าวหาทุกคนถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์หมดแล้ว ส่วนจะมีการยื่นฟ้องกลับหรือไม่อยู่ที่สิทธิของแต่ละคนว่าจะยื่นฟ้องหรือไม่อย่างไร ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี