“ยางพารา” หนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญที่นิยมปลูกกันในหลายพื้นที่ของไทย แต่การฝากชีวิตไว้กับผลผลิตเพียงอย่างเดียวย่อมหมายถึงความเสี่ยง ดังที่ น.ส.ลัดดาวัลย์ คมจันทา เกษตรกรในพื้นที่หมู่ 10 บ้านท่าศิลารมย์ ต.บ้านแก้ง อ.นาแก จ.นครพนม เปิดเผยว่า ด้วยปัญหารายได้และหนี้สิน ทำให้เห็นว่าการปลูกแต่ยางพาราอย่างเดียวไม่เพียงพอ จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ แปลงพื้นที่ 14 ไร่ จากทั้งหมด 15 ไร่ 28 ตารางวา ให้เป็นระบบวนเกษตร หรือการปลูกพืชหลายชนิดในลักษณะจำลองสภาพป่าตามธรรมชาติ
โดยมีทั้งไม้ป่า/ไม้พื้นถิ่น เช่น พยุง สักทอง มะค่า ต้นกุง ผักหวาน ยางนา ไม้กินได้/ไม้ผล/สมุนไพร เช่น สละอินโด มะม่วง กล้วย คอนแคน ไผ่ ไพล ขมิ้นชัน กระชาย อีกทั้งยังเลี้ยงไก่ นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมลดต้นทุนการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น เพาะกล้าไม้ ผสมดินพร้อมปลูก ทำปุ๋ยหมัก จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ปัจจุบันมีรายได้จากการเกษตรเฉลี่ย 350,000 บาทต่อปี
“การใช้ประโยชน์ในที่ดินกิจกรรมหลักคือ ปลูกยางพารา ไม้ยืนต้น ไม้ผล ไม้สมุนไพร แซมในพื้นที่ว่าง และมีกิจกรรมเสริมด้วยการเพาะขยายพันธุ์ไม้ ผสมดินพร้อมปลูกและทำปุ๋ยหมัก เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ของครอบครัว” น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี