ไล่ล่า 4 กิโลเมตร ชาย 2 คนหลบหนีไม่เข้าด่านตรวจตำรวจ ก่อนแหกโค้งตกข้างทางดับคาที่ 1 สาหัสอีก 1 ญาติติดใจ เปิดภาพถ่ายหลักฐาน ตร.สายตรวจล็อคกุญแจมือ ทั้งที่กำลังนอนหายใจรวยรินก่อนสิ้นใจ ไม่ช่วยคนเจ็บก่อน ด้านพ่อ-พี่สาวเผย สาเหตุที่หลบหนีอาจตกใจไม่มีใบขับขี่และมีน้ำต้มพืชกระท่อม ทางด้าน ตร.ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
วันที่ 18 มี.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.นรชัย แก้วหนู รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุ รถ จยย.หลบเลี่ยงไม่เข้าด่านจุดตรวจขับหลบหนี ก่อนมาเสียหลักลงข้างทาง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดบริเวณริมถนน พื้นที่หมู่ 4 บ้านป่าหมาก ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง ภายหลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก.(สอบสวน) นายสมพร อ่อนชาติ ปลัด อ.เมืองตรัง พนักงานอัยการ จ.ตรัง ตำรวจสายตรวจชุดอินทรีย์ ตำรวจจราจร ฝ่ายปกครอง พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ตรัง หน่วยกู้ชีพ รพ.ตรัง หน่วยกู้ชีพเทศบาลนาตาล่วง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง
ที่เกิดเหตุริมถนนพบผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นายธนกฤต อายุ 19 ปี ชาวบ้าน ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับบาดเจ็บ ไม่รู้สึกตัว แต่ยังสามารถจับชีพจรได้ มีบาดแผลหลายจุดตามร่างกาย ก่อนเจ้าหน้าที่จะเร่งนำตัวส่ง รพ.ศูนย์ตรังอย่างเร่งด่วน ถัดลงมาบริเวณขอบถนน ซึ่งเป็นพื้นดินลาดเอียง ความลึกประมาณ 4 เมตร พบที่ต้นกระถินมีร่องรอยการถูกชน และถัดลงมา พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ 125 สีดำ ทะเบียน จทม 9XX ชลบุรี ล้มตะแคงสภาพหัวรถได้รับความเสียหาย
ห่างจากตัวรถไปประมาณ 5 เมตร พบร่างของ นายธีรพงศ์ อายุ 30 ปี อยู่ที่หมู่ 1 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล นอนหงายหน้าเสียชีวิต แพทย์ทำการชันสูตรเบื้องต้น พบบาดแผลถลอกหลายจุดตามร่างกาย บริเวณเบ้าตามีรอยฟกช้ำ เบื้องต้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า กระดูกคอหักหรือไม่ หรืออาจจะมีเลือดออกภายในอวัยวะภายใน เป็นสาเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก่อนจะนำร่างส่งไปชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุดอินทรีย์ชุดที่ 2 สภ.เมืองตรัง กำลังตั้งด่านตามแผนพิทักษ์เมือง บริเวณถนนสายต้นปริง-แยกป่าหมาก (หน้าโรงเรียนท่ากลางสอนขับรถยนต์) หมู่ 1 ถนนน้ำผุดใต้ ต.นาตาล่วง อ.เมือง ในห้วงเวลา 09.30-10.30 น. ปรากฏว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้ขับขี่รถ จยย.คันดังกล่าว ส่วนผู้เสียชีวิตนั่งซ้อนท้าย ได้กลับหัวรถก่อนที่จะเข้ามาถึงด่านตรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่ดักซุ่มอยู่อีกฝั่งได้เข้ามาขวาง แต่ทั้งคู่ได้ขับหลบหนีออกได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย ได้ขับรถ จยย.สายตรวจขับติดตาม โดยมุ่งหน้ามายังถนนเลียบแม่น้ำตรัง จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง ได้มีรถกระบะตู้ทึบขับสวนมา ทำให้รถ จยย.คันดังกล่าวต้องหักหลบ และเสียหลักหลุดโค้งและเกิดอุบัติเหตุลงไปในจุดเกิดเหตุดังกล่าว โดยระยะทางจากจุดที่หลบหนีไม่เข้าด่านมาถึงจุดที่เกิดอุบัติเหตุเป็นระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร เบื้องต้นจากการตรวจสอบภายในตัวและภายในรถไม่พอสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
สอบถาม น.ส.พรลภัส อายุ 33 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า น้องชายทำงานเป็นลูกจ้างขับรถส่งของภายในตลาด ก่อนเกิดเหตุทราบว่าได้ซ้อนท้ายเพื่อนที่เป็นคนขี่รถ จยย.เพื่อจะไปทำงาน แต่ปรากฏว่าระหว่างทาง ได้แวะซื้อไปขนมที่ร้านค้าใกล้ๆจุดที่ตั้งด่านเพื่อนำไปกินที่ทำงาน ก่อนจะขับมาเห็นด่านตรวจตำรวจ จึงน่าจะคิดว่าจะกลับรถไม่เข้าด่านตรวจเพราะน้องไม่มีใบขับขี่ แต่ตำรวจขี่รถตามมา ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่จากการสอบถามคนขับ ที่ตอนนี้ได้สติแล้วบอกว่า ระหว่างที่ล้มไปแล้วนั้น ผู้ตายยังมีสติและบอกว่าหายใจไม่ออก แต่ตำรวจกลับกวมร่างใส่กุญแจมือ เมื่อพ่อของตนมาถึงน้องชายตนกำลังหายใจรวยริน และก็เสียชีวิตพอดี
ด้าน นายสุชาติ อายุ 62 ปี พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวยืนยันว่า เมื่อมาถึงเห็นลูกชายถูกใส่กุญแจมือ จึงร้องบอกตำรวจให้ปลดออก และโวยวายว่า ‘จะใส่กุญแจมือทำไมลูกชายตายแล้ว’ ผิดถูกก็ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย แต่ทำไมไม่ช่วยคนเจ็บก่อน ทั้งๆที่ลูกบาดเจ็บสาหัส วิ่งหนีไม่ได้แล้ว นอนหายใจรวยรินแล้ว ตำรวจไม่น่าจะทำอย่างนั้น ส่วนสาเหตุที่กลับรถก่อนเข้าด่าน อาจเพราะว่าลูกชายพกน้ำกระท่อมไปด้วยจึงตกใจ
เบื้องต้นทาง พนักงานอัยการ จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ และชันสูจน์พลิกศพร่วมกัน จากนั้นได้พูดคุยกับพ่อและพี่สาวของผู้เสียชีวิต เพื่อพูดทำความเข้าใจอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้แสดงคลิปวีดีโอบอดี้แคมของตำรวจและคลิปที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ระหว่างการขับขี่ รถจยย.สายตรวจของตำรวจนายดังกล่าว เพื่อให้ญาติสิ้นข้อสงสัยในการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่ใช่เกิดจากการทำร้ายของตำรวจที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต จนทำให้ญาติพึงพอใจในสาเหตุการเสียชีวิตว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการถีบรถหรือประกบจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนประเด็นที่ญาติติดใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจลงมากวมร่างและใส่กุญแจมือ ในขณะที่กำลังได้รับบาดเจ็บสาหัสและชีวิตในเวลาต่อมานั้น ทางเจ้าหน้าที่จะแยกออกมาสอบสวนในอีกประเด็น เบื้องต้นมีพยานหลักฐานคือภาพถ่ายที่พลเมืองดีได้บันทึกไว้ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมีการใส่กุญแจมือ พร้อมทั้งจะดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และดำเนินการส่งสำนวนคดีให้อัยการจังหวัดต่อไป ///-026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี