ศาลจังหวัดพัทยาอ่านคำตัดสิน คดีเหตุเพลิงไหม้เมาน์เทนบี สัตหีบ จำเลยทั้ง 4 มีความผิด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความเสียชีวิต ก่อสร้างและเปิดสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับการอนุญาต 

วันที่ 19 มีนาคม 2568  จากเหตุการณ์เพลิงไหม้เมาน์เทน บี สถานบันเทิงในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทำให้มีผู้เสียจำนวน 26 ศพ บาดเจ็บบาดเจ็บราว 50 ราย เป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความหดหู่และโศกเศร้า โดยเฉพาะญาติผู้สูญเสีย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 5 ส.ค. 2565 ขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน ได้เกิดประกายไฟบนฝ้าเพดาน จากนั้นไม่เกิน 5 นาที เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากตัวหลังคามีการบุโฟมลมดูดซับเสียงที่เป็นวัตถุติดไฟได้ง่าย ทำให้นักท่องเที่ยวตกใจวิ่งกรูไปยังประตูทางออกเบียดเสียดเหยียบกันล้ม บางคนถูกไฟคลอกจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

ล่าสุด เพจทนายคู่ใจ ของทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้โพสต์ข้อความว่า 18 มี.ค. 2568 ศาลจังหวัดพัทยาอ่านคำตัดสินคดีนี้ จำเลยทั้ง4 มีความผิดตามกฏหมาย กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความเสียชีวิต ก่อสร้างโดยได้รับการอนุญาต เปิดสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต

จำเลยที่ 1 (เสี่ยบี) จำคุก 5 ปี 4 เดือน ปรับ 133,000 บาท,จำเลยที่ 2 (เมียเสี่ยบี) จำคุก 10 ปี 10 เดือน ปรับ 266,000 บาท ,จำเลยที่3 (เสี่ยยศ พ่อของเสี่ยบี) จำคุก 10 ปี 10 เดือน ปรับ 266,000 บาท และจำเลยที่ 4 (ช่างไฟฟ้า) จำคุก 5 ปี 1 เดือน ปรับ 125,000 บาท โดยทั้งหมดได้ยื่นประกันตัวไปแล้วตามขั้นตอนทางกฎหมาย

ส่วนค่าเสียหายที่ให้จ่ายให้กับผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตมีอัตราที่ไม่เท่ากันเฉพาะรายที่ทางพวกผมดูแลอยู่จะได้น้อยสุดคนละ 2,000,000 กว่ามากสุดคนละ 5,000,000 กว่าแต่เดี๋ยวต้องรอคำพิพากษาฉบับเต็มจากของทางศาลเพราะรายละเอียดมีทั้งหมด 150 หน้ามันค่อนข้างเยอะจะได้เอามาศึกษาดูประเด็นการยื่นอุทธรณ์ต่อส่วนทางนั้นก็มีสิทธิ์อุทธรณ์ว่าตัวเองไม่ได้กระทำความผิดหรือขอลดโทษได้ตามขั้นตอนทางกฎหมาย

ในฐานะทนายความที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลก็ต้องถือว่าพอใจกับผลการตัดสินของคดีเพราะศาลท่านพิพากษา พยานหลักฐานในคดีที่เราลงไปช่วยกันรวบรวมมาทั้งหลายฝ่ายที่ช่วยเหลือจนทำให้ได้รับความเป็นธรรมในวันนี้อย่างไรก็ตามยังเหลือสำนวนที่เอาผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติยังไม่ได้มีคำสั่งลงมาชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปล่อยประละเลยให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวต้องร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ซึ่งในความเห็นผม ผมมองในแง่ของประชาชนธรรมดาว่าเหมือนเจ้าหน้าที่ของรัฐลอยตัวจากปัญหาที่เกิดขึ้นแต่อย่างไรก็ตามผมก็ยังไปฟ้องไว้ที่ศาลระยองเพื่อเรียกค่าเสียหายจากส่วนราชการที่ต้องรับผิดชอบปัจจุบันคดียังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองระยอง  กราบขอบพระคุณเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่ทำงานอยู่เบื้องหลังทั้งหมดจนกระทั่งเอาความยุติธรรมมาให้พี่น้องประชาชนได้

 โดยในวันนี้ 19 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยัง สถานที่ตั้ง เมาน์เทน บี สถานบันเทิงในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พบว่าได้มีการรื้อโครงสร้างอาคารไปตั้งแต่หลังเกิดเหตุ นานแล้ว ปัจจุบันปล่อยเป็นที่รกร้าง มีหญ้าขึ้นปกคลุม ทั่วพื้นที่ และยังไม่มีใครเข้ามาทำอะไรในบริเวณนี้

โดย เรือตรีภูรี  บิดาของเหยื่อเหตุการณ์ไฟไหม้ “เมาน์เทนบี” ที่ได้ไปจัดงานวันเกิดในคืนเกิดเหตุ กับเพื่อนกว่า 10 คน ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลระยอง และทำให้มีเพื่อนในกลุ่ม รวมผู้ตาย เสียชีวิตไปหลายรายนั้น ได้กล่าวว่า เป็นที่สิ่งที่รับได้และโอเคอยู่โดยตัวจำเลยได้รับการอุทธรณ์ ทุกคนก็รับทราบที่นี้ในการอุทธรณ์มันก็ต้องแก้ต่างมันก็มารอผลต่อไปและ ทุกคนพอใจในคำตัดสิน 

แต่ทุกคนก็ยังเป็นกังวลอยู่ ในการอุทธรณ์ทั้งนี้มันก็ต้องจ้างทนายแก้ต่างกันต่อไปในส่วนการจ้างทนายบ้างคนก็ยังสู้ต่อบ้างคนก็ยอมไปแล้วไปเพราะในด้านการเงินและเดินทางไกล บางคนก็ไม่สามารถมาฟังคำพิพากษาได้ส่วนเรื่องคดีก็เข้าใจ ว่าไม่เจตนาการที่คุณไม่ป้องกันอะไรเลย คุณปล่อยประละเลยมาได้ยังไง ไม่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่หรือเจ้าของคนทำ โดยไฟฉุกเฉินคุณก็ไม่มี มันไม่ได้มาตรฐานขนาดบ้านของตนยังมีไฟฉุกเฉินใครจะอยากขึ้นศาลบ่อยๆอายุมากแล้วทุกวันนี้วันพระจะต้องไปวัดจากไม่เคยไป

จากเคยอยู่ด้วยกันตอนนี้ที่บ้านเองเหลือกันสามคนในส่วนอื่นก็แยกย้ายออกไปอยู่ข้างนอก ถามว่าเจ็บไหมมันเจ็บที่สุดแต่มันก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แต่มีการขอโทษต่อหน้ายังน้อย มันช่วยให้เบาแต่อย่างงี้มันก็ต้องสู้กันไป ในส่วนตัวผมให้อภัยก็ในส่วนที่เค้าทำมาหากิน ในส่วนอุบัติเหตุครั้งนี้ก็ไม่มีใครอยากให้มันเกิด ส่วนคนอยู่ก็ยังห่วงใช้ชีวิตสู้ต่อไปส่วนคดีก็ยังคงต้องดำเนินการกันต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมาย