ผบ.ทสส.ตรวจชายแดน ถก ศอ.ปชด.รุกปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต พบคนไทยร่วมขบวนการอื้อ เร่งประสานกัมพูชาส่งกลับ ย้ำข้อเสนอ 5 อำเภอเขตพิเศษ เข้าที่ประชุมรอ"ภูมิธรรม"ไฟเขียว

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ จ.สระแก้ว พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) ร่วมประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด ชายแดน จ.สระแก้ว ติดฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เข้าร่วม

จากนั้น พล.อ.ทรงวิทย์ ตรวจจุดผ่านแดนถาวร บ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า มีรายงานการปฏิบัติงานหลายประเด็น เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ถูกเพ่งเล็ง 3 ประเด็น คือ สัญญาณอินเตอร์เน็ต , บัญชีการเงิน , การลักลอบข้ามไปมา มีความคืบหน้าพอสมควร และเป็นความท้าทาย เรื่องการสอบสวนขยายผลจากคนที่ถูกส่งกลับมา ที่มีเวลาจำกัด รวมถึงพยานหลักฐานต้องขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น เชื่อว่ามีคนไทยอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวนมาก

สำหรับสัญญาณโทรศัพท์ ทาง กสทช.ได้กำหนดมาตรการแล้ว ทั้งระยะทาง ความแรงจากชายแดนเป็นอย่างไร เรื่องระเบียบขนาดเสาสัญญาณได้ทำตามระเบียบหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ประชาชนในพื้นที่ได้ร้องขอหากดำเนินการเรื่องเสาถูกระเบียบแล้วให้ปล่อยสัญญาณโทรศัพท์เหมือนเดิม เพราะได้รับความเดือดร้อน ตนจะกลับไปดูในเรื่องของบริษัทที่ส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตว่ามีจำนวนเท่าไหร่

ในขณะที่บัญชีการเงินได้มีการจับกุมอยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังพบเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งคนที่ข้ามไปไปด้วยความสมัครใจ อีกทั้งมีจุดที่เป็นปัญหาพื้นที่ที่มีการจอดรถ และมีการสร้างกำแพงสูง สามารถทำให้คนลักลอบข้ามแดนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น กลายเป็นปัญหา เพราะคนจะเข้าไปเพิ่มในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตลอด จึงประสานไปยังจังหวัดให้ส่งข้อมูลทั้งหมดมาให้ ศอ.ปชด.พร้อมทั้งไปดูว่ามีกฎระเบียบใดบ้างที่บังคับให้ทุกคนจะต้องเข้าออกผ่านจุดผ่านแดนถาวรเท่านั้น

ขณะเดียวกันยอมรับว่า สภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบ ซึ่งเราใช้กำลังทหารประมาณ 2,000 นาย ในการเฝ้าดูแล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยากมาก จึงได้มีการเสนอสร้างรั้ว และได้นำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปแล้ว

ส่วนการตั้งข้อสังเกตตัวเลขคดีคอลเซ็นเตอร์ คนไทยถูกหลอกลด 20% หลังใช้มาตรการตัดน้ำ ตัดไฟ งดส่งน้ำมัน ฝั่ง อ.แม่สอด ไปแล้ว แสดงว่าที่เหลืออยู่ฝั่งปอยเปตใช่หรือไม่ พล.อ.ทรงวิทย์ ระบุว่า ตัวเลขคดีประมาณ 30,000 กว่าหลังดำเนินมาตรการดังกล่าว เหลือลดลงเหลือประมาณ 25,000 ตามรายงานของจเรตำรวจแห่งชาติ ก็ยอมรับว่าเป็นจำนวนน้อยอยู่ และจำนวนคนไทยที่จับมาจากปอยเปตครั้งล่าสุดก็มีจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับที่มีอยู่อีกหลาย 1,000 คน ดังนั้น ต้องขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน จะนำตัวออกมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งความเชื่อของเราหากนำคนออกมาได้ให้มากที่สุด ตัวเลขคดีก็จะลดตามลงไปด้วย ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชัดว่าเราสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ด้าน จ.สระแก้ว ได้ ส่วนอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าจะเห็นตัวเลขที่ชัดเจนหรือไม่นั้น ตนเองพยายามทำทุกนาทีให้มีค่าในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะสู้ให้ได้มากที่สุด เพราะทราบว่าเป็นปัญหาใหญ่

เมื่อถามว่า มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งเป็นพื้นที่พิเศษ เช่นเดียวกับพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก หรือไม่ พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะลักษณะการทำงาน รวมถึงสภาพปัญหา 2 พื้นที่แตกต่างกัน สำหรับ อ.แม่สอด จ.ตาก เราพยายามนำคนออกมา แต่พบว่ามีคนกลับเข้าไปทำงานอยู่ตลอด และเป็นคนต่างชาติ ส่วนพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นคนไทยที่ข้ามไปปอยเปต แต่สิ่งหนึ่งที่ตนจะเสนอในที่ประชุม สมช.ที่จะจัดขึ้นที่กองทัพไทย โดย ศอ.ปชด.จะรายงานการปฏิบัติงานครบ 1 เดือนหลังดำเนินมาตรการตัดไฟฟ้า ตัดอินเตอร์เน็ต และงดส่งน้ำมัน ซึ่งตนเองจะเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

เมื่อถามว่า ใน อ.แม่สอด จะเสนอมาตรการใดเพิ่มเติม เพื่อให้รัฐบาลพิจารณา พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าวว่า เรื่องการคัดกรองชาวต่างชาติที่ต้องสงสัยว่าจะเข้าไปเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมี 7 มาตรการในการคัดกรองอยู่แล้ว แต่พบว่ายังมีเล็ดลอดออกไปอยู่ โดยจากนี้ไปจะให้บุคคลเหล่านี้ไปขอใบผ่านทางจากสถานทูตของประเทศตนเอง เพื่อเข้าพื้นที่ 5 อำเภอ จ.ตาก เพื่อลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากพบว่า เมื่อส่งกลับประเทศไปแล้วบุคคลเหล่านี้ก็ย้อนกลับมาทำงานใหม่ แต่หากออกเป็นเอกสารของสถานทูตแต่ละประเทศ หากตรวจพบว่าเขากระทำความผิด เขาจะไม่สามารถย้อนกลับมาอีกได้ เพียงแต่ต้องไปพิจารณาว่ากฎหมายสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งในวันศุกร์ที่ 21 มี.ค.นี้ จะมีการเสนอ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สอด , อ.พบพระ , อ.ท่าสองยาง , อ.แม่ระมาด และ อ.อุ้มผาง เป็นพื้นที่พิเศษ ที่ต้องขออนุญาตสถานทูตเข้าพื้นที่ ซึ่งต้องทำในเวลาจำกัดเพื่อไม่ให้กระทบการท่องเที่ยวในระยะยาว หากสามารถนำคนออกโดยไม่ให้มีการเติมคนเข้าไป ก็จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจที่มาจากเหล่าทัพเพื่อปฏิบัติงานในเรื่องนี้โดยเฉพาะนั้น ศอ.ปชด.หัวใจหลัก ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานร่วมกันได้ โดยสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล จึงมีความจำเป็นที่ต้องหาหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ

- 006