ไฟไหม้รถของกลาง
ด่านศุลกากรแม่สอด
เผาวอดกว่า 200 คัน
ตร.ควานหาสาเหตุ
เพลิงไหม้ลานจอดรถของกลางด่านศุลกากรแม่สอด จ.ตาก วอดเสียหายกว่า 200 คัน ตร.เร่งตรวจสอบสาเหตุยังไม่ตัดทิ้งประเด็นเหตุประมาท-วางเพลิง ส่วนนายด่านฯ แจ้งเป็นรถมือสองจากญี่ปุ่น ติดค้างส่งไปฝั่งประเทศเมียนมาไม่ได้ เพราะมีปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบ เคยนำมาขายทอดตลาดแล้ว เผยมีกว่าพันคัน จัดเก็บไว้ 3 จุด
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงค่ำวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมกล้องวงจรปิด CCTV เทศบาล ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้รถ บริเวณสถานที่จัดเก็บรถของกลาง ในลานจอดของศุลกากรแม่สอด ใกล้ด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 โดยมีการร้องขอรถดับเพลิง เพื่อเข้าระงับเหตุ โดยรถของกลางที่จอดไว้ มีทั้งหมด 800 คัน เพลิงไหม้ไปแล้วในเบื้องต้น 50 คัน ซึ่งทันทีที่เจ้าหน้าที่เข้าถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ได้เร่งควบคุมเพลิง โดยขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว พบว่ามีรถได้รับความเสียหายทั้งหมด 200 คัน
ขณะเดียวกัน ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร (ฉก.ราชมนู กกล.นเรศวร) ภายหลังได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว ซึ่งอยู่ด้านหลังด่านศุลกากรแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้าง บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีรถดับเพลิงของเทศบาลแม่สอด และจากหน่วยงานต่างๆ เข้าระงับเหตุแล้ว ทางกำลังพลของหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ได้เข้าสนับสนุนการดับเพลิง และจัดรถน้ำ เข้าช่วยเหลือด้วย
ทั้งนี้ ได้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ ซึ่งโชคดีที่ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนรถของกลางของด่านศุลกากรดังกล่าว ได้รับความเสียหายประมาณ 200 คัน สำหรับสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ ทางตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้าน พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รอง ผบช.ภ.6 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ตาก นำพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ โดย พล.ต.ต.ระวีพรรษ กล่าวว่า ในบริเวณที่เกิดเหตุมีพื้นหญ้าที่อยู่ใกล้กันเกิดเพลิงไหม้ และเนื่องจากสภาพลมแรง จึงอาจเป็นสาเหตุที่ไฟลุกลามไปยังจุดที่จอดรถของกลาง แล้วเกิดลุกไหม้อย่างรวดเร็ว หรือประเด็นต่อมาคือปฏิกิริยาทางเคมี เนื่องจากอากาศร้อนจัดก็อาจเกิดขึ้น
พล.ต.ต.ระวีพรรษ กล่าวต่อว่า ส่วนอีกสาเหตุอาจเกิดจากความประมาท มีคนจุดไฟ หรือสูบบุหรี่แล้วทิ้งก้นบุหรี่ที่ยังไม่ดับ จนเกิดเพลิงไหม้ รวมทั้งยังไม่ตัดทิ้งประเด็นที่อาจมีผู้ไม่หวังดีเจตนาเข้ามาก่อเหตุวางเพลิงเพื่อเป็นการทำลายรถของกลาง ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ดำเนินการทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคล ที่ต้องนำมาประกอบกัน ทั้งนี้ สำหรับรถของกลางที่จอดอยู่ตรงนี้ เบื้องต้นทราบว่ามีการตรวจยึดไว้เมื่อประมาณ 8-9 ปีที่แล้ว จนมีสภาพค่อนข้างเก่า ไม่สามารถจะนำไปใช้ได้ทันที และอยู่ระหว่างการประมูล โดยไม่มีรถหรูแน่นอน
ขณะที่นายพิชยา เจริญสันต์ นายด่านศุลกากรแม่สอด เปิดเผยว่า รถของกลางทั้งหมดเป็นรถมือสองจากประเทศญี่ปุ่น และส่งไปประเทศเมียนมา ทางด้าน อ.แม่สอด ในรูปของสินค้าผ่านแดน แต่ทางผู้ประกอบการไม่สามารถส่งออกไปเมียนมา ได้ เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบ สะพานถูกวางระเบิด มีการปิดถนนสู้รบกันบ่อยครั้ง ทำให้รถไม่สามารถส่งไปได้ และถูกจอดไว้ที่บริเวณชายแดน เกินระยะเวลาที่กฎหมายศุลกากรกำหนดไว้ จึงถูกยึดเป็นของกลางมานานหลายปีแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ประกาศขายทอดตลาดไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีผู้ประมูลซื้อ เพราะราคาแพง จึงจะปรับราคาลงมาเพื่อรอประกาศขายทอดตลาดอีกครั้งหนึ่ง แต่มาเกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาเสียก่อน
นายพิชยา เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ ยังต้องรอให้ทางตำรวจ ได้ตรวจพิสูจน์ให้เสร็จสิ้นก่อน สำหรับรถมือสองที่ด่านศุลกากรแม่สอด ยึดไว้ มีมากกว่า 1,000 คัน โดยนำไปเก็บไว้ 3 จุด ในพื้นที่ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าใดๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี