ตำรวจ บก.ปอศ.กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB รวบอดีตแม่บ้าน สวมรอยเป็นกรรมการบริษัททิพย์ ออกใบกำกับภาษีปลอมกว่า 188 ฉบับ ทำรัฐเสียหายมูลค่ากว่า 131 ล้านบาท
วันนี้ (20 มี.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.นฤพนธ์ กรุณา ผกก.2 บก.ปอศ. พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ พ.ต.ท.ชวพล เชื้อเพ็ชร์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ. พ.ต.ต.นพคุณ ทัศนมาลัย สว.กก.2 บก.ปอศ.นำกำลังจับกุม น.ส.เยาวลักษณ์ อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 271/2567 ลงวันที่ 21 มี.ค. 2567 ในความผิดฐานร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออก ตามมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร จับกุมได้ที่หน้าห้องพัก ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.
ทั้งนี้ เนื่องจากกรมสรรพากร ได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ.ให้ดำเนินคดีกับบริษัทแห่งหนึ่ง ในฐานะนิติบุคคล และ น.ส.เยาวลักษณ์ กรรมการ ผู้มีอำนาจของบริษัทฯ ในข้อหาร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออก ตามมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร หลังจากช่วงเดือนตุลาคม 2566 บริษัทดังกล่าว มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง แต่เจ้าพนักงานกรมสรรพากร ตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้ ไม่มีการประกอบกิจการ ณ สถานประกอบการจริง โดยสถานที่ตั้งบริษัท มีลักษณะเป็นเพียงบ้านเช่า ไม่พบการประกอบกิจการของบริษัทแต่อย่างใด
สอบถามผู้อาศัยข้างเคียง ให้การว่า บริษัทดังกล่าวไม่ได้ประกอบกิจการ อีกทั้งไม่สามารถติดต่อได้ ทางกรมสรรพากร จึงเชื่อว่าบริษัทนี้มีการออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาไม่ได้มีเจตนาที่จะประกอบกิจการจริง ประกอบกับบริษัทดังกล่าวไม่ส่งมอบเอกสารให้เจ้าพนักงานกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบ แต่บริษัทดังกล่าวได้ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกช่วงเดือนภาษีสิงหาคม 2566 ถึงเดือนภาษีมีนาคม 2559 ให้กับผู้ประกอบการรายอื่น ประกอบกับกรมสรรพากรได้รับแจ้งจากสำนักงานสรรพากรพื้นที่ต่างๆ พบว่ามีใบกำกับภาษีขายที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ออกโดยบริษัทนี้ ไปยังผู้ประกอบเพื่อใช้ยื่นขอเครดิตภาษี (ขอคืน) ต่อกรมสรรพากร รวมใบกำกับภาษี 188 ฉบับ ซึ่งใบกำกับภาษีดังกล่าวเป็นเท็จทั้งสิ้น และไม่มีการซื้อขายสินค้ากันจริงแต่อย่างใด ซึ่งได้ประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม รวมเป็นเงินกว่า 131 ล้านบาท
สำหรับข้อมูลทั้งหมดเชื่อได้ว่าการออกใบกำกับภาษีดังกล่าวเป็นการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมายเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร อันเป็นความผิด ตามมาตรา 90/4 (3)แห่งประมวลรัษฎากร
จากนั้นพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ได้ออกหมายเรียกเพื่อติดต่อตัวกรรมการ มาทราบข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่มีผู้ใดมาพบพนักงานสอบสวน จึงเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ และนำตัวกรรมการที่เป็นผู้รับผิดชอบมาดำเนินคดี ซึ่งภายหลังศาลได้ออกหมายจับแล้ว ชุดจับกุมได้สืบสวนติดตาม ประกอบกับหมายจับใกล้จะหมดอายุความในอีก 2 เดือนเศษ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่มีมูลค่าความเสียหายสูง จึงเร่งดำเนินการ จนทราบว่า น.ส.เยาวลักษณ์ อาศัยอยู่ในพื้นที่ถนนลาดพร้าว กทม.จึงเฝ้าติดตาม กระทั่งพบผู้ต้องหาจึงแสดงตัวเข้าจับกุม โดยคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ.ดำเนินคดี สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และให้รายละเอียดในคำให้การว่าตนไม่รู้จักบริษัทดังกล่าว โดยให้การเพียงว่าเมื่อปี 2556 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ทำงานเป็นแม่บ้าน แล้วนายจ้าง (จำชื่อจริงและนามสกุลไม่ได้) มาขอบัตรประจำตัวประชาชน อ้างว่านำไปใช้เพื่อดำเนินการในเรื่องสวัสดิการ โดยไม่ทราบว่าถูกนำมาใช้ในการกระทำความผิดดังกล่าว
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี