ตำรวจทางหลวง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB ทลายขบวนการ “โจรกรรม-ฟอกขาวรถ” ตระเวนเช่ารถแล้วเชิดหนี ก่อนปลอมเอกสารเจ้าของรถ ยื่นแจ้งเปลี่ยนทะเบียน ก่อนฟอกขาวรถที่ถูกขโมยให้กลายเป็นรถถูกกฎหมาย พบเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท

วันนี้ (20 มี.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พ.ต.อ.โอฬาร เอี่ยมประภาส พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป.ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร์ สวญ.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ว่าที่ พ.ต.ต.ศรัณยพงศ์ อ่อนสิงห์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สวญ.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. ว่าที่ พ.ต.ท.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.ทศพล กิตติลาภ สวญ.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. ว่าที่ พ.ต.ท. พุทธางกูร เรืองธรรม สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. และ พ.ต.ต.โจ เสาร์ประโคน สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.นำกำลัง เปิดปฏิบัติการจับกุมขบวนการฟอกขาวรถยนต์ที่ได้มาจากการขโมยรถเช่า แล้วปลอมแปลงเอกสารราชการ ตบตาเจ้าหน้าที่ ขอเปลี่ยนเลขทะเบียน เปลี่ยนจากรถที่ผิดกฎหมายให้กลายเป็นรถถูกกฎหมาย นำไปประกาศขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 ราย จากทั้งหมด 9 ราย โดยกลุ่มผู้ต้องหามีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน ประกอบด้วย กลุ่มตัวการ (Master Mind) ทำหน้าที่สั่งการและเป็นนายทุน 1.น.ส.ภัทราดา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี 2.นายธราเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี กลุ่มที่ทำหน้าที่โจรกรรมรถ 3.นายโชคชนะ (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี 4.น.ส.รำไพ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี กลุ่มที่ทำหน้าที่ปลอมและใช้เอกสารราชการฯ ในการฟอกขาวรถที่ได้มาจากการโจรกรรมให้กลายเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย 5.น.ส.รัตนาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี 6.นายสิปปวินฬ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ผู้ที่ทำหน้าที่โพสต์ประกาศขายรถที่ฟอกขาวแล้วลงในโซเชียลมิเดีย 7.น.ส.รัมภ์วิริน (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี และผู้ที่ทำหน้าที่รับ-ส่งรถที่ได้มาจากการโจรกรรม (นักบิน) 8.นายไชยวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี คือ 9.นายวรุฒ (สงวนนามสุกล) อายุ 26 ปี

สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันยักยอกหรือรับของโจร , ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม , แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานฯ และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงวันที่ 17 มี.ค.2568

การจับกุมดังกล่าว เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2567 ได้มีนายโชคชนะ , น.ส.รำไพ และนายวรุฒ ซึ่งเป็นกลุ่มคนร้าย ทำการขโมยรถเช่า หลังจากทำทีติดต่อขอเช่ารถจากบริษัทของ น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา แต่เมื่อถึงกำหนดคืนรถ น.ส.เอ๋ ไม่สามารถติดต่อกลุ่มคนร้ายได้ และพบว่าสัญญานจีพีเอสที่ติดตั้งกับรถถูกตัดไป จึงเชื่อว่ารถถูกขโมย จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวนสภ.แสนภูดาษ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ

ต่อมาวันที่ 7 ม.ค.2568 น.ส.เอ๋ ตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” พบว่ารถคันดังกล่าวมีการแจ้งเปลี่ยนทะเบียน จากทะเบียน กบ 2812 ฉะเชิงเทรา ไปเป็นทะเบียน กอ 5657 นครปฐม ผู้เสียหายจึงได้โทร.ประสานขอความช่วยเหลือกับทางตำรวจทางหลวง ผ่านสายด่วน 1193 เพื่อขอให้ช่วยติดตามรถคันดังกล่าว ซึ่งจากการประสานความร่วมมือจากกรมการขนส่งทางบก ทำให้ทราบว่าเอกสารทั้งหมดที่กลุ่มคนร้ายใช้ยื่นขอเปลี่ยนเลขทะเบียนรถเป็นปลอมทั้งสิ้น

จากนั้นในวันที่ 8 ม.ค.2568 ตำรวจทางหลวง ตรวจพบว่ารถคันนี้ (ภายหลังเปลี่ยนป้ายทะเบียน) ได้ออกจาก จ.นครปฐม มุ่งหน้าขึ้นเหนือ จึงประสานให้มีการติดตามสกัดรถไว้ได้ในพื้นที่ จ.ตาก จากการตรวจสอบ พบตัวนายบี (นามสมมติ) เป็นผู้ขับ รับสารภาพว่ารถคันดังกล่าว เป็นรถที่เห็นการประกาศขายผ่านโซเชียลมิเดีย โดยเป็นการขายพร้อมเล่มคู่มือจดทะเบียน จึงหลงเชื่อว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงติดต่อซื้อมาในราคา 300,000 บาท และไปรับรถจากปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี ก่อนที่จะถูกสกัดจับ ทั้งนี้ ตำรวจทางหลวง ได้นำรถที่ถูกโจรกรรมคันนี้ พร้อมกับเชิญตัวนายบี ไปสอบสวนที่สถานีตำรวจทางหลวงนครปฐม เพื่อเร่งสืบหาข้อเท็จจริงและขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง

จากการสืบสวนทำให้ทราบว่าขบวนการฟอกขาวรถที่ได้มาจากการขโมยรถเช่ากลุ่มนี้ มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน ได้แก่ กลุ่ม Master Mind ทำหน้าที่สั่งการและเป็นนายทุน , กลุ่มที่ทำหน้าที่ขโมยรถเช่า ,  กลุ่มที่ทำหน้าที่ปลอมแปลงเอกสารเพื่อใช้ยื่นขอทะเบียนใหม่พร้อมกับเล่มคู่มือจดทะเบียน (การฟอกขาวรถยนต์ที่ถูกขโมยมา) ,ส่วนที่ทำหน้าโพสต์ขายรถยนต์ที่ฟอกขาวเรียบร้อยแล้วในโซเชียลมิเดีย และส่วนที่ทำหน้าที่เป็นนักบิน รับส่ง-รถที่ได้มาจากการโจรกรรม

กระทั่งในวันที่ 17 มี.ค.2568 ตำรวจทางหลวง กก.2 บก.ทล.ร่วมกับตำรวน สภ.แสนภูดาษ ได้รวมรวบพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ออกหมายจับผู้ต้องหา 9 ราย ก่อนนำกำลังกว่า 30 นาย เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 รายดังกล่าว โดยผู้ต้องหาส่วนใหญ่รับสารภาพว่า ในรอบปีที่ผ่านมา ได้ทำการฟอกขาวรถที่ได้มาจากการขโมยเฉลี่ยเดือนละประมาณ 4 คัน เจ้าหน้าที่พบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท จากนั้นได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.แสนภูดาษ ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป

015