นายกฯ เตรียมลงพื้นที่นครสวรรค์ พรุ่งนี้ รุดติดตามการแก้ไขปัญหา 1 ใน 25 จังหวัดที่มีปัญหายาเสพติดรุนแรง ย้ำทุกจังหวัด ต้องจัดการให้เป็นไปตามเป้าหมาย ของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา

วันนี้ (20 มี.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.)น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ติดตามผลการปฏิบัติการปราบปรามและจับกุมยาเสพติด ณ ด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ซึ่งด่านนี้มีการใช้เทคโนโลยีเครื่องเอกซเรย์ในการตรวจสอบยานพาหนะที่ต้องสงสัยว่าอาจจะลำเลียงยาเสพติดโดยกลุ่มผู้ค้ายาจะซุกซ่อนยาเสพติดในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์ตู้โดยสาร หรือรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ที่ใช้บรรทุกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม โดยมักจะเจาะหรือดัดแปลงตัวถังรถเพื่อสร้างช่องลับสำหรับซุกซ่อนยาเสพติดในลักษณะหีบห่อปะปนกับสินค้าเหล่านี้ ซึ่งการตรวจค้นด้วยเครื่องเอกซเรย์ที่ด่านนี้สามารถตรวจพบยาเสพติดได้ในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง โดย จ.นครสวรรค์ เป็น 1 ใน 25 จังหวัด ที่มีปัญหารุนแรง ที่จะต้องได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน การแก้ไขปัญหายาเสพติด ถือว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ได้มีการดำเนินการมาต่อเนื่องและยกระดับให้เข้มข้นขึ้น ถือเป็นความพยายามที่สำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ในระดับท้องถิ่นและภูมิภาคต่างๆ

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า “นายกฯ ให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหายาเสพติด  เพราะยาเสพติด เป็นภัยต่อชีวิตเป็นพิษต่อสังคม โดยเฉพาะการลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินการและการรับฟังปัญหาและข้อมูลจากประชาชน เพื่อสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับพื้นที่และชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม  เนื่องจากผลกระทบของยาเสพติดไม่เพียงสร้างผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและครอบครัวอีกด้วย ซึ่งการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย และการทำงานอย่างจริงจัง  อีกทั้ง ยังสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสังคมอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยขอให้ทุกภาคส่วนราชการทุกจังหวัด เร่งจัดการแก้ไขปัญหาอย่าเสพติดอย่างต่อเนื่องให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้” นายจิรายุ กล่าว

สำหรับด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี มีผลการปฏิบัติในปีงบประมาณ 2568 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2567-15 มี.ค.2568 ได้ตรวจพบยาเสพติดซึ่งเป็นคดีรายสำคัญ 6 คดี มีผู้ต้องหา 14 คน ของกลางยาเสพติด แบ่งเป็นยาบ้า ประมาณ 28.7 ล้านเม็ด และไอซ์ ประมาณ 200 กิโลกรัม ส่วนการปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2567 ถึงปัจจุบัน มีผลการดำเนินคดีทั้งหมด 114,811 คดี มีผู้ต้องหา 111,505 คน จับกุมตามหมายจับ 2,405 คน ดำเนินคดีข้อหาสมคบสนับสนุน 1,464 คดี ดำเนินคดีข้อหาฟอกเงิน 126 คดี  และมีของกลางยาเสพติด ประกอบด้วย ยาบ้า 4.41 ล้านเม็ด ไอซ์ 26,090.15 กิโลกรัม เฮโรอีน 648.55 กิโลกรัม คีตามีน 2,946.42 กิโลกรัม และยาอี 116,906 เม็ด สามารถยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ค้ายาเสพติด ได้กว่า 4,405 ล้านบาท

015