เพจดังไลฟ์ คุกคามกดดัน จนท.ตำรวจ ตั้งกล้องจับความเร็ว จนเกิดอาการเครียด เส้นเลือดในสมองแตก กล้ามเนื้ออ่อนแรง
วันที่ 20 มีนาคม 2568 จากกรณีที่ ด.ต.ศุภมิตร พวงประเสริฐ ผบ.หมู่ งานจราจร สภ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อายุ 49 ปี กำลังปฏิบัติหน้าที่ใช้กล้องตรวจจับความเร็วสำหรับรถที่ขับในอัตราความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อยู่ที่เกาะกลางถนน ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อยู่นั้น ได้แอดมินของเพจดั พร้อมพวกรวม 3 คน ได้มาตั้งกล้องหน้าและถ่ายคลิปใกล้ ด.ต.ศุภมิตร ฯ พร้อมด้วยคำพูดยั่วยุ เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ในขณะที่ ด.ต.ศุภมิตร ฯ นิ่งเงียบ ใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง ต่อมา พ.ต.ท.ภูษิต ก้อนทอง หัวหน้าชุดงานจราจร ได้ดูคลิปไลฟ์สดอยู่ในขณะนั้น สังเกตเห็น ด.ต.ศุภมิตรฯ เริ่มมีอาการแขนข้างขวาอ่อนแรง และไม่ดูกล้องตรวจจับความเร็ว เลยรีบโทรหารถพยาบาล 1669 พร้อมสั่งลูกน้องให้ไปช่วย ด.ต.ศุภมิตร เพื่อนำส่งโรงพบาล ซึ่งต่อจากนั้น ด.ต.ศุภมิตร ได้ทรุดล้มลงมีอาการชักเกร็ง รวม 2 ครั้ง ไม่นานรถพยาบาลก็ได้นำตัว ด.ต.ศุภมิตร ส่งโรงพยาบาลทันที
ล่าสุด ที่จุดสกัดพรหมบุรี หมู่ที่ 5 ต.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ในส่วนของผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.ศุภวัฒน์ ได้มีการประชุมในเรื่องแนวทางการรักษาตัวของ ด.ต.ศุภมิตร โดย พล.ต.ต.จักรภพ สุคนธราช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี ได้ประสานทางโรงพยาบาลตำรวจเพื่อส่งตัว ด.ต.ศุภมิตร เข้ารับการรักษาตัวอย่างเร่งด่วน สอบถาม นางพิมพ์พัฒน์ พวงประเสริฐ ภรรยา ของ ด.ต.ศุภมิตรฯ ได้เล่าว่า “การรักษาตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ในส่วนของกล้ามเนื้อด้านขวายังอ่อนแรงอยู่ ยังมีเลือดซึมออกที่สมองอยู่ เส้นเลือดไม่ตีบ แต่จำคนอื่นได้แล้ว ในเรื่องการทำงานสามีของตนไม่เคยมาบ่นว่ามีเรื่องกดดันอะไร จะมีคนที่มาไลฟ์สดเพจ อย่าหาทำ ซึ่งเคยมาไลฟ์สดก่อนหน้านี้แล้ว แต่สามีตนบอกว่าไม่เป็นไร อดทนได้ โดยสามีของตนมีโรคประจำตัวคือ ความดันสูงนี่แหล่ะค่ะ เพราะเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วเคยวูบไปครั้งหนึ่ง แล้วความดันขึ้นสูง แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอาการให้เห็นอีกจึงไม่ได้เช็คให้ละเอียด สำหรับอุปนิสัยของสามีตนคือ จริงจังกับการทำงาน ไม่ชอบให้ใครมายุ่งตอนทำงาน จนสามีตนมาเจอคนที่มาไลฟ์สด 3 คน มารุมพูดใส่เขา ตนคิดว่าสามีของตนอดทนมากที่ไม่ตอบโต้ และกดดันจนสามีเครียดและเส้นเลือดในสมองแตกต้องมารักษาตัวดังกล่าว”
ต่อมาเวลา 11.00 น. รถพยาบาลของโรงพยาบาลตำรวจได้มารับตัว ด.ต.ศุภมิตร เพื่อไปรักษาต่อ โดยมี ผู้บัญชาการคือ พ.ต.ท.ภูษิต ก้อนทอง หัวหน้าชุดงานจราจร และ พ.ต.อ.สุเมธ โภชนา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี มาคอยดูแลด้วยความห่วงใย และได้ให้สัมภาษณ์ว่า “อาการของ ด.ต.ศุภมิตร ยังคงที่อยู่ อยู่ในความดูแลของคุณหมอ แต่โชคดีตอนที่เกิดเหตุได้รับยารักษาเร็วอาการเลยไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ในส่วนของการเยียวยา ทางโรงพักมีงบสะสมให้ตรงนี้อยู่แล้ว และทางผู้บังคับการและผู้บังคับบัญชาการทุกระดับได้มีการดูแลค่าใช้จ่ายอย่างเต็มที่ สำหรับหน้าที่ของคนที่ตรวจจับความเร็วของรถ เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่แทนกันได้ และเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆ ที่มาทำงานตรงนี้ ซึ่งนอกจากจะจับความเร็วของรถแล้ว ยังได้ในส่วนของคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการจับคนร้ายจากคดีต่างๆ สามารถสกัดจับได้ที่ด่านมาหลายคดี จับตรวจทะเบียนรถที่ถูกขโมยมาหรือเปล่าเป็นต้น ในส่วนของเครื่องแบบตำรวจซึ่งเป็นชุดเครื่องแบบใหม่ รองเท้าก็จะเป็นรองเท้าที่ใส่แล้วต้องคล่องตัวตามหน้าที่ของการปฏิบัติงานของแต่ละคน ในส่วนของคดีความตั้งแต่ผู้บังคับการฯ ลงมาให้ความเป็นห่วงและประสานกันตลอดและคงต้องถอดคลิปเพื่อดูว่าในส่วนไหนที่จะดำเนินดดีกับผู้ไลฟ์สดได้บ้าง แต่ในเบื้องต้นผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นอันดับ 1 ก่อน ส่วนในเรื่องของคดีก็จะทำให้รัดกุมที่สุด”
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้มาที่จุดสกัดพรหมบุรี หมู่ที่ 5 ต.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พบผู้ที่ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “ได้เดินทางกำลังจะไปเชียงใหม่ได้ขับรถผ่านมาครั้งแรก โดนจับความเร็วและโดนปรับ 500 บาท น่าจะโดนกันหลายคน”
ส่วน อาศัยอยู่ละแวกด่านซึ่งเป็นแม่ค้าขายของ บอกว่า “ไม่เห็นด้วยในการตั้งด่านเพราะผู้ที่มาทำบุญบ่นให้ฟังว่ามาทำบุญกันยังไม่ถึงวัดเลย โดนปรับ 500 บาท บ้าง 1000 บาทบ้าง ขอให้เบาๆ หน่อยอย่าไปปรับเขามาก เขาเสีย 500 แล้วเขาก็เสียความรู้สึก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้ยกเลิก”
ด้าน เจ้าของร้านขายของชำบริเวณด่านซึ่งเปิดให้บริการแล้วกว่า 20 ปี ก่อน จะมีด่านแห่งนี้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าพอจะทราบไหมว่ารายได้จากค่าปรับเยอะหรือไม่ นายศิริวัฒน์ตอบว่า “เท่าที่ผมทราบมา เมื่อก่อนตั้งอยู่แยกสิงห์บุรีก็ดีอยู่แล้วย้ายมาอำเภอพรหมบุรีทำไม สิงห์บุรีมันได้แค่ 30% มาอยู่พรหมได้ 50% อยากฝากถึงตำรวจที่ตั้งด่านว่า เลิกได้ก็เลิกเหอะ ถ้าจะตั้งให้ไปตั้งอื่น ตั้งกล้องไปเลย จะมาให้เจ้าหน้าที่แอบซุ่มยิงความเร็วทำไม หรือว่าถ้าไม่ซ่อนตัวก็ไม่มีรายได้ เพราะถ้ายืนให้เห็นเด่นชัด คนใช้รถก็ขับเบากันเองแหละ เมื่อก่อนรถไม่เคยติด ตอนนี้มาติดทุกเช้า รถบรรทุกขยาดกันหมดแล้ว ประมาณ 06.00 – 07.00 น. ติดทีนึง 3-4 กิโล แล้วจะมาไล่รถที่จอดหน้าร้านผม แต่ก่อนจับแต่ความเร็ว เดี๋ยวนี้เดินรอบรถเลย ผมสังเกตอยู่ ผมคนที่นี่ พอรายได้น้อยก็เล่นรถใหญ่ (รถบรรทุก) ตอนนี้ผมทำอะไรมากไม่ได้ลงทุนไปก็เจ๊ง ช่วงนี้ยังดีที่ช่วงบ่ายเลิกตั้งด่าน เราก็อาศัยขายช่วงบ่ายและก็ช่วงเย็น”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ดาบตำรวจ'ทรุดกลางไลฟ์ป่วน! ขณะปฏิบัติหน้าที่ ผู้บังคับบัญชาเชื่อถูกกดดันจนเครียด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี