คืบหน้า คนร้ายแต่งกายคล้าย จนท.จับมัดมือไพล่หลัง จ่อยิงโหดลุงวัย 64 เสียชีวิตหน้าบ้านที่ปัตตานี

วันที่ 22 มีนาคม 2568 จากกรณี กรณี ร.ต.อ.เริงศักดิ์ ชาติสุขศิริเดช รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปะนาเระ ได้รับแจ้ง มีผู้เสียชีวิตจากการถูกกระสุนปืน ที่หน้าบ้านแห่งหนึ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อาภากร วิรูปักษ์อารักษ์ ผกก.ทราบ พร้อมนำกำลังเข้าไปที่เกิดเหตุ เมื่อคืนที่ผ่าน (20 มี.ค.68)

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กั้นเชือกรอบบริเวณ และไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต นอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน ทราบชื่อคือ นายมะรอนิง (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี สภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น นุ่งโสร่ง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่ศีรษะ จำนวน 2 นัด

จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตกำลังกวาดใบไม้อยู่หน้าบ้าน โดยที่ภรรยาและหลานชาย อายุ 15 ปีอยู่ในบ้าน ก่อนมีคนร้าย 5 คน แต่งกายชุดดำ ปกปิดใบหน้า พร้อมอาวุธปืนสงคราม จำนวน 2 กระบอก และปืนพกสั้น ใช้รถ จยย.จำนวน 3 คันเป็นพาหนะ ขี่มาจอดหน้าบ้าน ก่อนวิ่งไปหาผู้ตาย จับตัวไว้และมัดมือไพล่หลัง จากนั้นใช้อาวุธปืนยาวข่มขู่

หลานชายของผู้เสียชีวิตเห็นเหตุการณ์ จึงวิ่งเข้าไปพยายามจะช่วย แต่ถูกหนึ่งในคนร้ายทำร้ายร่างกายและขู่ว่าจะยิง ทำให้หลานชายต้องวิ่งเข้าไปบอกย่า ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในบ้าน ภรรยาวิ่งออกไปดูหวังจะช่วยสามี แต่คนร้ายได้ชักอาวุธปืนสั้นจ่อยิงนายมะรอนิง ทันที 2 นัดเสียชีวิตคาที่ จากนั้น คนร้ายได้วิ่งขึ้นรถ จยย.ขี่หลบหนีไป

ล่าสุด พ.ต.อ.อาภากร ผกก.สภ.ปะนาเระ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และชุดสืบสวนสอบสวน เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ขยายผลติดตามจับกุมคนร้าย พบกระสุนปืนอาก้า จำนวน 3 นัด ตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นกระสุนที่ยังไม่ได้ใช้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ส่วนสาเหตุฆาตกรรมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายน่าจะพุ่งเป้าไปที่ผู้เสียชีวิต ลักษณะในการก่อเหตุที่คนร้ายได้จับผู้เสียชีวิตมัดมือไพล่หลัง และพยายามจะซักถามเอาอะไรบางอย่างจากผู้เสียชีวิต แต่ถูกหลานชายผู้ตายวิ่งออกจากบ้านได้ เข้าไปพยายามจะช่วย แต่ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายและหนีไปหลังบ้านดังกล่าว จากพฤติกรรมของคนร้าย น่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบ