ตำรวจสอบสวนกลางปิดฉากเครือข่าย‘ปลาส้มศรีสงคราม’ รวบ‘สเก๊าท์หน้า’คาราวานขน‘ยาบ้า’ 5 ล้านเม็ด

23 มีนาคม 2568 ​กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม. , พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม. , พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ , พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ใจดีจริง รอง ผกก.3 บก.ปคม. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ปคม. นำโดย พ.ต.ท.ธีรโชติ นุ่นสพ สว.กก.3 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุมนายพงศกร อายุ 36 ปี บริเวณปากซอยริมถนนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ

ในความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายและสมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” ตามหมายจับของศาลอาญา ซึ่งหมายจับดังกล่าวอยู่ในโครงการประกาศสืบจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญตามหมายจับ ประจำปี 2568 ลำดับที่ 160 ของสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

พฤติการณ์สืบเนื่องจาก​ช่วงต้นปี 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าเครือข่าย “ปลาส้มศรีสงคราม” มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคอีสานตอนบน ส่งต่อไปยังลูกค้าในพื้นที่ตอนในของประเทศ เพื่อกระจายให้กลุ่มผู้ค้ารายย่อยและนักเสพยาเสพติด โดยเครือข่ายดังกล่าวมีการใช้รถยนต์ในการขนส่ง 3 คัน มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน สเก๊าท์หน้า , สเก๊าท์หลัง และรถคันขนลำเลียงยาเสพติด โดยผู้ต้องหา ทำหน้าที่สเก๊าท์หน้า คอยขับรถนำขบวนคาราวาน คอยสอดแนม ตรวจสอบเส้นทางที่ลำเลียงยาเสพติดว่ามีจุดตรวจ จุดสกัดของเจ้าหน้าที่หรือไม่

​ต่อมาสายลับแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมว่ามีการลำเลียงยาเสพติด โดยพบรถยนต์เป้าหมายเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.นครพนม วิ่งเป็นขบวนมุ่งหน้าเข้าตอนในของประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนติดตามและสกัดจับ โดยได้ขับรถสะกดรอยติดตามอย่างใกล้ชิด เมื่อขบวนรถยนต์เป้าหมายมาถึง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดจับคาราวานรถยนต์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม รถคันสเก๊าท์หน้าและสเก๊าท์หลังไหวตัวทันได้หลบหนีไปได้ ส่วนรถคันขนลำเลียงยาเสพติดไม่รอด ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับไว้ได้ เมื่อตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าวพบยาบ้าบรรจุอยู่ในกระดาษไขสีเหลือง ก้อนละประมาณ 10,000 เม็ด จำนวน 524 ก้อน โดยบรรจุในกระสอบถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 12 ใบ รวมยาบ้าจำนวน 5,240,000 เม็ด

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผล ล่า “สเก๊าท์หน้า” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว จนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานอยู่ที่บ้านเช่าหลังหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ จึงได้เดินทางไปเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว จากนั้นเห็นชายที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ต้องหา จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นผู้ต้องหา จึงได้ดำเนินการจับกุมตัว พร้อมแจ้งสิทธิ และแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ผู้ต้องหาทราบ

จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 2 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

-005