‘ตำรวจสอบสวนกลาง’ปูพรม‘5 หัวเมืองใหญ่’ ทลายเครือข่ายนายทุนปล่อย‘กู้นอกระบบ’ ดอกเบี้ยโหด
23 มีนาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยกองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น นำโดย พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ มอญรัตน์ , พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์ , พ.ต.ต.พิชญากร แตงรอด สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ร่วมกันเปิดยุทธการปูพรมปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบรวบ และผู้กระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ในพื้นที่ กทม. , ปทุมธานี , ชลบุรี , ขอนแก่น และเชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหา 8 ราย ตรวจยึดของกลางหลายรายการ ดังต่อไปนี้
ยุทธการที่ 1 : ขุดรากถอนโคนเครือข่ายเงินกู้แก๊ง “พลอยสยาม เงินทุน” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ย ร้อยละ 2 ต่อวัน หรือร้อยละ 730 ต่อปี พื้นที่ จ.ชลบุรี ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ดังนี้ 1.นายป๋อง อายุ 32 ปี 2.นางสาวอัญชลี อายุ 29 ปี 3.นายพิมพ์พันธุ์ หรือติ๊ก อายุ 48 ปี นายทุนใหญ่
พฤติการณ์ เนื่องด้วยผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. โดยให้การว่า นายป๋องฯ ได้ปล่อยเงินกู้ให้กับตน โดยเสนอคิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2 ต่อวัน หรือร้อยละ 730 ต่อปี จากการสืบสวนพบนายป๋อง อยู่ในเครือข่าย “แก๊งป๋อง สายบันเทิง” มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด มีอาวุธปืนข่มขู่ทวงหนี้ ชอบรวมกลุ่มแต่งและแข่งรถจักรยานยนต์บนท้องถนนรบกวนประชาชน นอกจากนั้นมักจะโพสต์ภาพอาวุธปืนและซื้อขายอาวุธปืนลงโซเซียลทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัว
จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิด มีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นกระบวนการ คือ 1.หน้าที่ในการหาลูกค้า โดยวิธีโปรยนามบัตรเงินกู้ตามหน้าบ้าน และสถานที่สาธารณะในเวลากลางคืน 2.หน้าที่คัดกรองลูกหนี้ และไปดูที่พักและที่ทำงานของลูกหนี้ 3. หน้าฝ่ายอนุมัติและทำสัญญา ทำหน้าที่ดูเอกสารพร้อมกับทำเอกสารสัญญาเงินกู้กับลูกหนี้ 4. ฝ่ายติดตามทวงถามหนี้ ทำหน้าที่ตามเก็บเงินกับลูกหนี้ในทุกวัน จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบเครือข่ายดังกล่าวมีเงินหมุนเวียน กว่า 12 ล้าน โดยมีนายพิมพ์พันธุ์ เป็นนายทุนใหญ่ และมีนายป๋อง , น.ส.อัญชลี เป็นเครือข่ายในแก๊งดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นตรวจค้นบ้านพักของนายป๋อง และน.ส.อัญชลี พบนามบัตรพิมพ์คำว่า “พลอยสยาม เงินทุน” จำนวน 9 ลัง จำนวนกว่า 2 แสนใบ และเอกสารลูกหนี้ที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินอีกจำนวนหลายรายการ และตรวจค้นบ้าน นายพิมพ์พันธุ์ นายทุนใหญ่ของกลุ่มปล่อยเงินกู้ใบปลิว ”พลอยสยาม เงินทุน” ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป สอบถามเบื้องต้นทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพ
ยุทธการที่ 2 : “ทลายแก๊งวัยรุ่นสร้างตัว เปิดเพจปล่อยเงินกู้ ดอกเบี้ยโหด MC Credits” พื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย คือ นายณัฐนันท์ อายุ 31 ปี
พฤติการณ์ เมื่อเดือน พ.ย.2567 นางเอ (นามสมมุติ) ได้แจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5
บก.ปอศ. ว่ามีเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “MC Money Credit” มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ผู้นอกระบบ ร้อยละ 1.546
ต่อวัน หรือร้อยละ 564.43 ต่อปี ต่อมาเมื่อผู้เสียหายเริ่มผ่อนชำระดอกเบี้ยคืนไม่ตรงกำหนด กลุ่มผู้กระทำความผิดได้ส่งข้อความทวงถามหนี้ ต้องการที่จะให้ผู้เสียหายชำระดอกเบี้ยที่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ทั้งที่ซึ่งผู้เสียหายชำระหนี้จนเกินยอดเงินต้นไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้เสียหายเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาหลังจากทำการสืบสวน จึงได้ขออนุมัติหมายค้นเพื่อเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบ นายณัฐนันท์ แสดงตนเป็นผู้อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงหมายค้น ขณะตรวจค้นผู้ต้องหายอมรับว่าเฟซบุ๊กชื่อ “MC Money Credit” เป็นเพจปล่อยเงินกู้ให้กับบุคคลที่สนใจกู้ยืมเงิน โดยจะเน้นลูกค้าที่มีอาชีพเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือมีกิจการเป็นของตนเอง โดยจะเดินทางไปดูกิจการและหน้างานของลูกค้าด้วยตนเอง และใช้บัญชีตนเองปล่อยเงินต้นและรับดอกเบี้ย จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป สอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
ยุทธการที่ 3 : “รวบแก๊งเงินกู้คอปกขาว” หัวหมอไม่แคร์สื่อ ปล่อยกู้ 50,000 บาท ทวงคืน 250,000 บาท อัดดอกเบี้ยไม่ยั้ง ผู้เสียหายโดนยึดทรัพย์ระนาว พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท พื้นที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และ พื้นที่ เขตวังทองหลาง กทม. ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ดังนี้ 1.นายสุรทิน อายุ 63 ปี 2.น.ส.รัสรินทร์ อายุ 59 ปี 3.น.ส.ภัทราพร อายุ 24 ปี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก มีกลุ่มผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ว่ามีนายทุนนอกระบบปล่อยเงินกู้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี และบังคับให้เขียนสัญญากู้ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น โอนเงิน ให้ลูกหนี้ 50,000 บาท แต่ให้เขียนสัญญา 250,000 บาท หากลูกหนี้ชำระหนี้ ไม่ตรงเวลาก็จะนำสัญญาดังกล่าว ไปฟ้องต่อศาล และบังคับคดียึดทรัพย์ อายัดทรัพย์สินจำนวนหลายราย
จากการสืบสวนพฤติการณ์และเส้นทางการเงิน พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท และมีผู้ร่วมกระบวนการจำนวนหลายราย จึงได้ขออนุมัติต่อศาลเพื่อตรวจค้น 2 จุด พบหลักฐานเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ และการฟ้องร้องคดีลูกหนี้อย่างไม่เป็นธรรมจำนวนหลายรายการ จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
ยุทธการที่ 4 บุกทลายที่พักนายทุนเงินกู้นอกระบบสาวเมืองเหนือ ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด รับจำนำรถจักรยานยนต์ เรียกดอกร้อยละ 186 ต่อปี พื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 1 ราย คือ นางกัลยา อายุ 46 ปี
พฤติการณ์ น.ส.บี(นามสมมุติ) ผู้กล่าวหาได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ว่า นางกัลยาฯ ได้ปล่อยเงินกู้ โดยเสนอคิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 186 ต่อปี และมีการให้นำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์มาจำนำกับตนเพื่อเป็นค้ำประกันให้ชำระหนี้ตามที่ต้องการ เมื่อผิดนัดชำระหนี้จะบังคับยึดรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่นำมาค้ำประกัน ผู้เสียหายจึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.
ต่อมาเจ้าหน้าตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาล เข้าค้นบ้านพักของนางกัลยา พบ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ จอดอยู่ภายในบ้านจำนวนมาก ซึ่งคาดว่ามีผู้เสียหายรายอื่นๆที่มากู้เงินอีกหลายราย นอกจากนี้ยังพบเอกสารเกี่ยวกับการจำนำรถ, โทรศัพท์มือถือ, เอกสารข้อมูลลูกหนี้ และสมุดบัญชีธนาคาร จำนวนกว่า 20 รายการ จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
สอบถามเบื้องต้น นางกัลยาฯ ยอมรับว่าตนปล่อยเงินกู้นอกระบบในอัตราร้อยละ 186 จริง โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์มาจำนำกับตน เพื่อให้สามารถยึดทรัพย์สินดังกล่าวได้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามที่กำหนด
สรุปผลการตรวจค้นทั้งสิ้น 4 ยุทธการ ตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 6 จุด 5 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย พบเงินหมุนเวียนและยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ 11 รายการ รวมมูลค่ากว่าหลายสิบล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี